# โอนสัญชาติเพื่อความสำเร็จ
# ทีมชาติอินโดนีเซียในยุคปัจจุบันที่กำลังมีลุ้นในการไปเล่นฟุตบอลโลก 2026 รอบสุดท้ายต่างก็มีผู้เล่นกำลังหลักที่มีเชื้อสายทางยุโรป (โดยเฉพาะเนเธอร์แลนด์) เป็นขุมกำลังสำคัญของทีมชาติ
# แม้ว่าจะเป็นผู้เล่นที่มีความเป็นฝรั่งทั้งหน้าตา ผิวพรรณ รูปร่าง แต่นักเตะเหล่านี้ล้วนแต่มีเชื้อสายอินโดนีเซียไม่ว่าจะเป็นลูกครึ่งหรือลูกเสี้ยวที่ทางสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซียวางแผนในการดึงผู้เล่นที่มีเชื้อสายอินโดและค้าแข้งอยู่ในยุโรปให้มาติดทีมชาติเพื่อเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จในเร็ววัน
# วิธีการที่ทีมชาติอินโดนีเซียใช้ ไม่ได้เป็นการผิดกฎเกณฑ์ของทางฟีฟ่าแต่อย่างใด แต่ก็มีหลายคนที่มองว่ามันจะเป็นวิธีการแบบฉาบฉวยและไม่สามารถยืนระยะได้นาน เพราะการพัฒนาทีมชาติย่อมต้องมีลีกฟุตบอลภายในประเทศที่ดีและแข็งแกร่งเฉกเช่นตัวอย่างของ ญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้
# โดยหลายคนมองว่า อินโดนีเซีย อาจจะกำลังเดินตามรอย สิงคโปร์ และ ฟิลิปปินส์ ที่ครั้งหนึ่งพวกเขาเคยใช้ผู้เล่นต่างชาติมาเป็นแกนหลักของทีมชาติซึ่งสุดท้ายก็วูบวาบอยู่พักนึง ก่อนผลงานจะค่อยๆดร็อปลงมาและไม่สามารถรักษามาตรฐานหรือยืนระยะได้
# สำหรับทีมชาติสิงคโปร์ พวกเขาเคยมีนโยบายในการดึงผู้เล่นต่างชาติที่ค้าแข้งอยู่ในประเทศให้มาติดทีมชาติสิงคโปร์ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้ก็ไม่ได้มีเชื้อสายสิงคโปร์หรือเกิดที่สิงคโปร์เลยแม้แต่คนเดียว ทำให้ผู้เล่นกลุ่มนี้ล้วนแต่เป็นผู้เล่นตัวโอนสัญชาติทั้งหมด
# รายชื่อของ อเล็กซานดาร์ ดูริช (บอสเนียฯ) / แดเนียล เบนเน็ตต์ (อังกฤษ) / ซือ เจียยี่ (จีน) / พรีเชียส เอมูเจเร (ไนจีเรีย) / ฟารุดิน มุสตาฟิค (เซอร์เบีย) ล้วนแต่เป็นผู้เล่นโอนสัญชาติและติดทีมชาติสิงคโปร์ในช่วงกลางยุคทศวรรษ 2000s
# การใช้ผู้เล่นตัวโอนสัญชาติของสิงคโปร์ก็เป็นหนึ่งในแผนงานที่พวกเขาวางเอาไว้เพื่อเป้าหมายที่จะประสบความสำเร็จในเวลาอันรวดเร็วซึ่งเมื่อใช้ผู้เล่นต่างชาติให้มาเป็นขุมกำลังสำคัญของทีมก็ทำให้ขุนพลเมอร์ไลออนส์สามารถคว้าแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ หรือแชมป์ระดับภูมิภาคอาเซียนได้ 3 สมัยคือในปี 2004 / 2007 และ 2012
# โดยเฉพาะในยุคที่สิงคโปร์มี ราดอจโก้ อัฟราโมวิช กุนซือชาวเซอร์เบียคุมทีม แฟนบอลอาเซียนก็น่าจะคุ้นเคยกับภาพของ ดูริช ที่ยืนค้ำในแดนหน้า เบนเน็ตต์ ที่ยืมคุมเกมรับ ซือ เจียยี่ และ มุสตาฟิค ที่เล่นในตำแหน่งกองกลาง โดยผู้เล่นเหล่านี้ล้วนอยู่ในชุดที่สิงคโปร์ได้แชมป์อาเซียน
# แต่ความสำเร็จก็เป็นแค่ความวูบวาบชั่วคราว เพราะพวกเขาประสบความสำเร็จเพียงแค่ในระดับอาเซียน แต่กับฟุตบอลโลกและฟุตบอลชิงแชมป์ระดับทวีปอย่างเอเชียนคัพ สิงคโปร์ตกม้าตายทุกครั้งในรอบคัดเลือกแม้จะมีตัวผู้เล่นโอนสัญชาติแต่พวกเขาก็ไม่สามารถพาสิงคโปร์ไปได้ไกลเกินกว่าระดับอาเซียน
# หลังจากนั้นนโยบายการสร้างทีมของสมาคมฟุตบอลสิงคโปร์ก็เปลี่ยนไป พวกเขาเน้นยกระดับลีกอาชีพภายในประเทศให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นเพื่อต่อยอดความสำเร็จไปสู่ระดับทีมชาติ
# ขณะที่ผู้เล่นโอนสัญชาติก็มีให้เห็นน้อยลงโดยพวกเขาเลือกใช้นักเตะชาวสิงคโปร์แท้ๆเป็นแกนหลักและอาจจะมีพวกลูกครึ่งมาติดทีมบ้าง ส่วนผู้เล่นตัวโอนสัญชาติก็เหลือให้เห็นน้อยมาก โดยนักเตะโอนสัญชาติคนล่าสุดของสิงคโปร์ก็คือ เคียวกะ นากามูระ ดาวเตะเชื้อสายญี่ปุ่นที่เพิ่งลงประเดิมให้กับทีมชาติสิงคโปร์ไปเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
#ผู้เล่นโอนสัญชาติ
#ทีมชาติสิงคโปร์
#SingaporeNationalFootballTeam
ทีมชาติสิงคโปร์เคยมีนโยบายดึงผู้เล่นต่างชาติให้มาติดทีมชาติในช่วงยุคทศวรรษ 2000s โดยหนึ่งในชื่อของแฟนบอลจำกันได้ดีก็คือ อเล็กซานดาร์ ดูริช กองหน้าร่างยักษ์เลือดบอสเนียฯ
แดเนียล เบนเน็ตต์ กองหลังชาวอังกฤษก็เป็นผู้เล่นทีมชาติสิงคโปร์ยุคเดียวกับดูริช
นอกจากนั้นก็ยังมี พรีเชียส เอมูเจเร กองหลังผิวสีชาวไนจีเรีย
ในยุคที่มีผู้เล่นโอนสัญชาติเป็นแกนหลัก สิงคโปร์สามารถคว้าแชมป์ในระดับอาเซียนได้ 3 สมัย
ปัจจุบันสิงคโปร์ไม่ได้ใช้ผู้เล่นโอนสัญชาติเป็นผู้เล่นแกนหลักของทีมแล้ว โดยตัวโอนสัญชาติรายล่าสุดที่มาติดทีมก็คือ เคียวกะ นากามูระ ดาวเตะร่างเล็กเชื้อสายญี่ปุ่น
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
