19 พ.ย. เวลา 14:00 • ข่าวรอบโลก

เพื่อตอบโต้ทรัมป์ จีนพร้อมร่วมมือกับสหภาพยุโรประหว่างการเจรจาด้านสภาพอากาศ

ท่ามกลางบรรยายกาศผู้เจรจาที่ COP29 กำลังดิ้นรนเพื่อสร้างฉันทามติเพิ่มเงินทุนเพื่อช่วยเหลือประเทศยากจน บทบาทของสหรัฐฯ ที่ลดน้อยลงทำให้จีนมีโอกาสมากขึ้น
การที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กลับมาดำรงตำแหน่งในทำเนียบขาวอีกครั้งในเร็ว ๆ นี้ ส่งผลให้ความน่าเชื่อถือของสหรัฐฯ ในการประชุมสหประชาชาติลดน้อยลง และเพิ่มแรงกดดันให้สหภาพยุโรปก้าวขึ้นมาเพื่อช่วยบรรลุข้อตกลงในการระดมความช่วยเหลือทางการเงินเพิ่มเติมสำหรับประเทศกำลังพัฒนา ในขณะที่จีนแสดงท่าทีต้องการมีส่วนช่วยในการทำให้เป้าหมายของ COP 29 เกิดขึ้นโดยไม่ต้องยืดเวลาการประชุมออกไป ตามคำกล่าวของผู้ที่คุ้นเคยกับกลยุทธ์การเจรจาของประเทศจีน
สถานะทางการทูตไม่เอื้ออำนวยจีน
อุปสรรคสำคัญคือสถานะของจีนทางการทูตยังอยู่ในฐานะประเทศกำลังพัฒนาในการเจรจาว่าด้วยสภาพอากาศของสหประชาชาติ ตลอดจนเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกและเป็นผู้ผลิตเทคโนโลยีสีเขียวรายใหญ่
แหล่งข่าวระบุว่า จีนได้กำหนดเส้นตายในการถูกจัดประเภทเป็นประเทศผู้บริจาคอย่างเป็นทางการภายใต้ข้อตกลงปารีส แต่จีนก็ยินดีที่จะมีส่วนสนับสนุนด้วยความสมัครใจมากกว่า
เจ้าหน้าที่จีนเน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าประเทศของตนได้จัดสรรเงินทุนโครงการมูลค่า 177,000 ล้านหยวน (8.16 แสนล้านบาท) เพื่อช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ รับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศตั้งแต่ปี 2016 (พ.ศ.2559) ซึ่งอยู่ในระดับเดียวกับเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้วบางประเทศ
ผู้สังเกตุการณ์อยากให้จีนจับมือกับอียูใน COP 29
หลี่ ซัว ผู้อำนวยการสถาบันนโยบายสังคมเอเชีย ซึ่งติดตามนโยบายสภาพอากาศระหว่างประเทศของจีนอย่างใกล้ชิด กล่าวว่า หากจีนและสหภาพยุโรปสามารถร่วมมือกันอย่างมีประสิทธิภาพในวาระการประชุม COP29 นี้ จะช่วยเสริมสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการปรับแนวทางริเริ่มด้านสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจที่กว้างขึ้น และเป็นการปรับปรุงความสัมพันธ์ระดับทวิภาคี
"ทั้งสองฝ่ายจำเป็นต้องมีจุดเริ่มต้นที่แข็งแกร่งเพื่อจัดการกับข้อพิพาททางการค้า ซึ่งคล้ายกับการหารือระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่ช่วยสร้างเวทีสำหรับการบรรเทาสงครามการค้าในช่วงวาระแรกของทรัมป์"
จีนได้กลายมาเป็นบุคคลสำคัญที่มีบทบาทสำคัญเพิ่มมากขึ้นในการประชุมสุดยอดประจำปีว่าด้วยสภาพอากาศของ COP ในฐานะประเทศผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกสูงสุดของโลก จีนสามารถทำอะไรได้มากกว่าประเทศอื่นใดเพื่อชะลอการเพิ่มขึ้นของอุณหภูมิโลก
แต่ประเทศในเอเชียแห่งนี้ยังต้องดิ้นรนกับปัญหาเศรษฐกิจของตนเอง และไม่สามารถให้คำมั่นสัญญาว่าจะเพิ่มเงินทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ ยิ่งไปกว่านั้น จีนยังโต้แย้งว่าจีนยังคงเป็นประเทศกำลังพัฒนาและประเทศที่พัฒนาอุตสาหกรรมก่อนควรแบกรับภาระหนักที่สุดในการชดเชยผลที่ตามมาของมลพิษคาร์บอนให้กับประเทศอื่น ๆ
จีนเรียกร้องให้สหรัฐรับผิดชอบต่อหายนะที่ตนก่อ
โฆษกกระทรวงต่างประเทศของจีนกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “ในฐานะประเทศพัฒนาแล้วที่มีเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดและปล่อยก๊าซเรือนกระจกสะสมมากที่สุดในโลก สหรัฐฯ ควรต้องรับผิดชอบต่อผลการกระทำของตน ข้อตกลงปารีสระบุชัดเจนว่าใครจะเป็นผู้จ่ายเงินสำหรับข้อตกลงนี้”
ตืดตามอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ลืงก์
โฆษณา