20 พ.ย. เวลา 00:45 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ฐานภาษี 20%+ ซื้อ Thai ESG คุ้มค่าไหม?

มีคำถามที่ทักมาถาม #เด็กการเงิน กันเยอะว่าควรซื้อกองทุน Thai ESG ไหม จะคุ้มค่าหรือไม่ วันนี้เรามีคำตอบมาให้
ตอบแบบเข้าใจง่ายๆ เลยว่าขั้นแรกเราต้องไปดูฐานภาษีของตัวเองก่อน หากฐานภาษีสูง การซื้อกองทุน Thai ESG เพิ่มเติม จะช่วยเพิ่มความคุ้มค่าในการลดหย่อนภาษี ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า เราคาดหวังที่จะได้เงินต้น 300,000 บาทคืน โดยที่ไม่ขาดทุน และถ้าหากได้กำไรกลับมาด้วย ก็ยิ่งดีไปใหญ่
แล้วกองทุนประเภทไหนที่จะไม่ขาดทุน...เรียกว่าเป็นกองทุนที่มีโอกาสขาดทุนน้อยจะดีกว่า นั่นก็คือกองทุนตราสารหนี้นั่นเอง
ทั้งนี้เงื่อนไขของ Thai ESG คือซื้อได้สูงสุด 30% ของเงินได้พึงประเมิน แต่ไม่เกิน 300,000 บาท ลงทุน 5 ปี แบบวันชนวัน
โดย Thai ESG เป็นส่วนที่แยกจาก SSF + RMF + PVD สูงสุด 500,000 บาท
แล้วกองทุน Thai ESG เหมาะกับใครบ้าง?
1. ผู้ที่ลงทุน SSF + RMF + PVD เต็มแล้ว สามารถเลือก Thai ESG เพิ่มเติมได้
2. เนื่องจาก lock-up period ต่ำ เหมาะกับผู้ที่มีรายได้ไม่สม่ำเสมอหรือรับเงินเป็นก้อน เพื่อจะได้หมุนเงินให้มีสภาพคล่องต่อเนื่องในอนาคต
3. หรือผู้ที่ต้องการความเสี่ยงต่ำ สามารถเลือกกองทุน Thai ESG แบบกองทุนตราสารหนี้ได้
หากได้คำตอบแล้วว่าเราเหมาะสมที่จะซื้อกองทุน Thai ESG ก็ไปดูต่อว่าคุ้มค่าอย่างไร?
ตัวอย่างเช่น ซื้อกองทุน Thai ESG เต็มที่ 300,000 บาท แบบเสี่ยงต่ำ ในกองทุนตราสารหนี้ พอครบ 5 ปีแบบวันชนวันแล้วขาย คาดหวังได้เงินต้น 300,000 บาทคืน
หากตอนซื้อ เราฐานภาษี 20% จะเทียบเท่ากับเงินที่นำไปคำนวณภาษี (เงินได้สุทธิ) ลดลงเหลือ 240,000 บาท จาก 300,000 บาท ก็เท่ากับเราประหยัดไป 60,000 บาท หรือคิดเป็น IRR 4.6% ต่อปี
หรือพูดง่ายๆ ว่ารออยู่เฉยๆ 5 ปี ก็ได้ผลตอบแทนที่ 4.6% ต่อปีแล้ว (ยังไม่รวมกำไรจากการลงทุนจริง)
โดย IRR คืออัตราผลตอบแทนที่ทำให้เงินลงทุนเริ่มต้นเท่ากับผลรวมของกระแสเงินสดที่ได้รับในอนาคต คิดลดมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน (ในที่นี้คือเงินลงทุนเริ่มต้นที่ 240,000 แล้วอนาคตได้เงิน 300,000 คืน ซึ่งก็คือ IRR 4.6% ต่อปีนั่นเอง)
สำหรับใครที่ฐานภาษี 25% จะเทียบเท่ากับเงินที่นำไปคำนวณภาษีลดลงเหลือ 225,000 บาท จาก 300,000 บาท ก็เท่ากับเราประหยัดไป 75,000 บาท หรือคิดเป็น IRR 5.9% ต่อปี
สำหรับใครที่ฐานภาษี 30% จะเทียบเท่ากับเงินที่นำไปคำนวณภาษีลดลงเหลือ 210,000 บาท จาก 300,000 บาท ก็เท่ากับเราประหยัดไป 90,000 บาท หรือคิดเป็น IRR 7.4% ต่อปี
สำหรับใครที่ฐานภาษีสูงสุดถึง 35% จะเทียบเท่ากับเงินที่นำไปคำนวณภาษีลดลงเหลือ 195,000 บาท จาก 300,000 บาท ก็เท่ากับเราประหยัดไป 105,000 บาท หรือคิดเป็น IRR 9% ต่อปี เลยทีเดียว ซึ่งถือว่าสูงมาก ก็ตอบคำถามที่ว่า ยิ่งฐานภาษีสูง การซื้อ Thai ESG ก็คุ้มค่านั่นเอง
📌คำเตือนสำคัญ โพสต์นี้ไม่ได้บอกว่าต้องซื้อ Thai ESG เต็มที่นะ เพราะแต่ละคนควรบริหารภาษีด้วยเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสมกับตนเอง และซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีตามความสามารถทางการเงินของตนเอง ไม่จำเป็นต้องซื้อสูงสุด📌
อ่านเพิ่มเติม เปรียบเทียบกองทุน SSF vs. RMF vs. TESG เลือกแบบไหนดี?
เลือกแบบไหนให้เต็มก่อน? มาพิจารณา 10 ข้อนี้กัน
โฆษณา