20 พ.ย. เวลา 06:28 • ความคิดเห็น

Old School

“in the world full of trends, I want to remain a classic” Unknown
1
เมื่อวันก่อนที่สัมภาษณ์พี่จูน จรีพรแห่ง WHA พี่จูนที่มองเห็น megatrend แล้วกระโดดใส่แต่ละเทรนด์จนเติบโตเป็นแสนล้าน แต่วิธีการกระโดดใส่นั้นเป็นวิธีการดั้งเดิมที่เด็กๆ อาจจะมองว่าเป็นวิธีคิดเก่า ไม่ทันใจและไม่ work life balance เอาซะเลย ก็คือการทำงานหนัก มี purpose รู้อะไรต้องรู้จริงก่อน ไม่หวังรวยเร็วแต่พยายามสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าเป็นหลัก
พี่จูนผู้เชื่อในหลักการนี้แต่อยากสนับสนุนเด็กๆ start up แล้วก็เจอประสบการณ์โดนเท โดนเอาเงินไปใช้ผิดประเภทถึงกับบอกแบบคนที่ทำงานหนักและสร้างตัวมาจากศูนย์ว่า น้องๆ ที่มาระดมทุน ยังไม่ทันทำธุรกิจก็คิดจะรวย จะ exit แล้ว ได้เงินระดมทุนก็ไปจ้างคนเยอะๆแพงๆ ตัวเองเตรียมสบาย เป็นวิถีที่ต่างกันมาก
ในช่วงที่ bitcoin กำลังขึ้นเยอะมากในตอนนี้ ปู่วอร์เรน บัฟเฟต์ ผู้เคยออกมาพูดถึง bitcoin ประมาณว่าต่อให้มีคนเสนอขาย bitcoin ทั้งหมดที่ 25 เหรียญ เขาก็จะไม่ซื้อเพราะไม่ได้ผลิตอะไร นึกไม่ออกว่าจะมีประโยชน์อะไร ไม่เหมือนซื้อที่นาที่ไร่ที่เพาะปลูกได้หรืออสังหาริมทรัพย์ที่ปล่อยเช่าได้ ปู่ไม่ซื้อเพราะไม่เข้าใจ
ซึ่งแน่นอนว่าคนรุ่นใหม่จำนวนมากไม่เห็นด้วย ด่าปู่ว่าไม่เข้าใจบ้าง ไม่ฉลาดบ้าง โดยเฉพาะพวกที่ถือเหรียญอยู่ที่กลัวราคาจะร่วงตามคำของปู่ และพอ bitcoin ขึ้นก็ไปถล่มปู่กัน แซวบ้าง แขวะบ้างกันอยู่
คุณบุญคลี ปลั่งศิริ อดีตซีอีโอชินคอร์ป มืออาชีพรุ่นใหญ่ที่คนทั้งวงการยอมรับในความเก่ง เคยแนะน้องๆรุ่นใหม่ในคลาสเอบีซีไว้ว่า ถ้ามีโอกาสให้ควรไปทำงานบริษัทเล็กๆก่อน จะได้เรียนรู้ทั้งหมด รู้อะไรเปรอะๆ ไม่ค่อยเป็นระบบ ระเบียบ จะได้เรียนรู้การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า จะดีกว่าไปทำงานบริษัทใหญ่ๆเลยเพราะจะไม่ค่อยเห็นภาพรวมและจะเปลี่ยนอะไรก็ยาก
เด็กรุ่นใหม่หลายคนฟังแล้วก็ส่ายหน้า ทำแบบนั้นจะมี resume สวยๆ เพื่อกระโดดต่อหรือมีที่ทำงานที่เชิดหน้าชูตาได้อย่างไร สู้ไปเข้าบริษัทใหญ่ที่โด่งดังน่าจะดีกว่า ดูจาก list top 20 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยก็น่าจะบอกอะไรได้มากโข
คุณเศรษฐา ทวีสิน ซีอีโอแสนสิริ ผู้นำทางธุรกิจอสังหารุ่นใหญ่ก่อนเป็นนายกรัฐมนตรี (กรุณาอย่าเอาเรื่องการเมืองมาปะปนในเม้นนะครับ ผมจะขออนุญาตบล็อกโดยอัตโนมัติ ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง) เคยแนะนำคนรุ่นใหม่ในงานสัมมนาของ secret sauce ว่ายังไงต้องเรียนหนังสือ ต้องไปให้ไกลที่สุดเท่าที่พ่อแม่จะสนับสนุนได้
1
ส่วนการทำงานนั้น คุณเศรษฐาตามใจลูกทุกอย่าง ขออย่างเดียวว่าจบมาแล้วอย่าเพิ่งไปทำ startup หรือเจ้าของกิจการ แต่ขอให้เป็นเป็น “ขี้ข้า” ไปเป็นลูกน้องคนอื่นก่อนสามปี ไปถูกใช้ ไปเข้าใจความรู้สึกของการถูกใช้ ถูกกระทำ ต่อไปพอไปเป็นผู้นำถึงจะเข้าใจความรู้สึกนั้น ตื่นมาแล้วไปทำงานซ้ำๆ ไปบริษัทที่เขาตอกบัตรยิ่งดี เพื่อฝึกวินัย ไปเข้าใจเจ้านายที่ดีคืออะไร เจ้านายที่ไม่ดีคืออะไร ..นี่คือโลกแห่งความเป็นจริง
4
ถ้าขอคำแนะนำ ผมก็จะแนะนำแบบนี้… ผมมาจาก old school คุณเศรษฐาบอกไว้แบบนั้น
แน่นอนว่าคนรุ่นใหม่ฟังก็คงไม่เห็นด้วยนัก จะไปทางลำบากทางยากทำไม ในเมื่อมีคนรวยจาก start up จากคริปโตให้เห็นในข่าวมากมาย เดี๋ยวนี้สมัยนี้ไม่ต้องไปลำบากแบบนั้นอีกแล้ว ไปสุมหัวคิดไอเดีย start up ระดมทุนแป๊บเดียว หรือไปลงทุนคริปโตตามที่เห็นในโฆษณาว่ารวยได้เร็วทันตาเห็นน่าจะเป็นวิธีที่ฉลาดกว่าเยอะ
สามท่านที่ผมเล่ามาก็คงเหมือนกับคุณเศรษฐาเรียกตัวเองได้ว่าเป็นพวก old school ซึ่งมีความหมายประมาณว่าคนที่มีความคิดอยู่ในกรอบโบราณ กรอบที่เคยใช้ได้ในขณะที่เทรนด์โลกเปลี่ยนไปมาก เป็นคำพูดในแนวเชิงเชยก็ได้ในสายตาเด็กๆ หวังรวยเร็ว แต่อีกทางหนึ่งผมกลับพบว่ามี wisdom ที่ดีมากๆอยู่ในคำพูดที่ดูเชยๆ ตกยุคแบบนั้นเสมอ ถ้าเราไม่บ้าตามเทรนด์จนหน้ามืดตามัว
ประการแรกนั้น สามท่านที่กล่าวมาก็ยังโลดแล่นและมีผลงานที่ได้รับการยอมรับผ่านระยะเวลาที่ยาวนาน แม้กระทั่งในช่วงผันผวนเมื่อไม่กี่ปีมานี้ ปู่วอร์เรนที่ช่วงหนึ่งว่าตกยุคก็ยังมีผลประกอบการที่ชนะกองทุน ark ที่เคยเป็นการลงทุนแนวใหม่พอเวลาผ่านไปและยังเป็นหนึ่งในบุคคลที่รวยที่สุดในโลกอยู่ bitcoin ขึ้นแต่มูลค่าการลงทุนแบบ old school ก็ยังขึ้นด้วยเช่นกัน
1
บริษัทแสนสิริที่คุณเศรษฐาสร้างไว้ก็ยังโลดแล่นอย่างแข็งแกร่งแถมดูจะโดดเด่นที่สุดในวงการอสังหาในช่วงโควิด บริษัทที่คุณเศรษฐาสร้างก็ยังเป็นอันดับหนึ่งที่เด็กรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยในสายอสังหา คุณบุญคลีก็ยังใช้แนวคิด old school พาแกรมมี่และ BJC เติบโตในยุคใหม่ได้อย่างยิ่งใหญ่ ถ้าพอเปิดใจได้ก็จะพอมองเห็นว่าโลกนี้ไม่ได้มีคำตอบเดียวเสมอ
ประการที่สอง บทเรียนที่สอดแทรกอยู่ในคำพูดของ old school นั้น ถ้ามาถอดรหัสจากการผ่านร้อนผ่านหนาว เจอมรสุม เจอประสบการณ์มาหลากหลาย ก็จะพอได้เห็นว่า ปู่วอร์เรนพยายามจะสอนพวกเราว่าอย่าไปลงทุนในสิ่งที่ตัวเองไม่รู้จริง ถ้าจะลงทุนในสินทรัพย์อะไรต้องรู้ให้กระจ่างดั่งฝ่ามือ ถ้าไม่เข้าใจก็อย่าไปยุ่ง คุณบุญคลีก็พยายามจะสอนจากมุมมืออาชีพว่า ทักษะที่สำคัญของคนในโลกยุคนี้ก็คือ ability to learn หรือความสามารถในการเรียนรู้ เพราะโลกเปลี่ยนเร็วเหลือเกิน
ส่วนคุณเศรษฐาก็พยายามจะแนะเรื่อง empathy ที่เป็นคุณสมบัติสำคัญของคนในยุคนี้ที่จะต้องมีความสามารถในการเข้าใจผู้อื่นอย่างลึกซึ้งและไม่มีวิธีไหนที่ผู้นำจะมี empathy ได้อย่างลึกซึ้งมากไปกว่าไปเป็นขี้ข้า ไปเป็นลูกน้องเขาก่อนนั่นเอง
ประการที่สาม ไม่ว่าเทรนด์โลกจะเป็นอย่างไร โลกแห่ง VUCA นั้นจะมีสิ่งที่ไม่คาดคิดมาเสมอ ในไม่กี่ปีนี้ก็เห็นตั้งแต่โควิด จนถึงสงคราม ความผันผวน ความไม่แน่นอนเหล่านี้ ประสบการณ์ของ old school นั้นอาจจะช่วยได้ เพราะเขาผ่านการขึ้นและลงแบบรถไฟเหาะมาหลายรอบ ขาขึ้นเราอาจจะสนุกกับเทรนด์และเทคใหม่ๆ business model แบบใหม่ แต่ขาลงนั้น สิ่งที่จะช่วยน้องๆ ได้ก็คือ wisdom ของคนที่เคยผ่านประสบการณ์ตกเหวมาก่อนที่จะมีประโยชน์มากๆในการจัดลำดับความสำคัญและเทคนิคการแก้ไขปัญหาแบบที่เคยใช้ได้จริง
ก่อนที่จะโมโห old school ที่พูดอะไรดูจะไม่อินเทรนด์เลย ลองแกะ wisdom ที่ซ่อนอยู่ในนั้นก่อนจะด่วนสรุป ภาษาที่ old school ใช้อาจจะไม่เข้าหู ไม่ทันสมัย ไม่ได้ใช้ศัพท์แสงเก๋ๆ แต่ก็มีความจริง มีริ้วรอยของประสบการณ์อยู่ในนั้นที่เราจะเรียนรู้ควบคู่ไปกับโลกสมัยใหม่ได้เสมอนะครับ
1
โฆษณา