20 พ.ย. เวลา 13:12 • ความคิดเห็น
ผมมองสองแนวนะ
1) ระหว่างคู่ไม่ว่านอกหรือในสมรส
อันนี้เป็นโครงสร้างอำนาจที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับและตกลงกัน ไม่ว่าจะเป็นหรือไม่เป็นทางการ
ถ้าฝ่ายใดยอมอีกฝ่ายไม่ว่าเรื่องใดก็จบ
มันเป็น protocols ของคู่นั้นๆ
1
แต่ถ้าเป็นผม เห็นๆอยู่ว่าผู้หญิงบอบบางกว่าแค่ไหน
ผมเคยเห็นเจ้าของร้านขายของที่เป็นผู้หญิงค่อนข้างมีอายุ เธอต้องขนกองหนังสือพิมพ์ตั้งใหญ่ๆที่รถมาส่งหน้าร้าน
กองหนังสือพิมพ์หนักมาก! ทุกครั้งที่ผมเห็น ผมจะเข้าไปช่วยเธอตลอด แม้ไม่รู้จัก แต่ก็อยู่ในละแวกที่ทำงานเดียวกัน
1
ผมจะไม่ทนที่จะต้องเห็นเธอขนของหนักๆแบบนั้นอยู่เพียงลำพัง
ผมไม่ต้องการอะไร นอกจากแก้ความหงุดหงิดของตัวเองที่ต้องเห็นเธอขนอยู่คนเดียว!
เห็นแล้วหงุดหงิดมาก!
1
2) มุมมองของสังคม
การเรียกร้องสิทธิสตรีนั้นมีมาแทบทุกที่
ผมเห็นด้วยที่ผู้หญิงควรได้สิทธิทัดเทียมผู้ชาย ในสภาพสังคมที่ผู้ชายเป็นฝ่ายตั้งกฎกติกา
แต่ผมไม่ได้มองว่า หากผู้หญิงได้สิทธิเท่าผู้ชายแล้ว สังคมจะเพิกเฉยต่อผู้หญิงได้
1
เพราะผมเชื่อว่าความงดงามของความแตกต่างระหว่างชายหญิง คือ การอยู่ร่วมกันแบบเติมเต็มถ้อยทีถ้อยอาศัยมากกว่าการเอารัดเอาเปรียบ
เพราะเอาเข้าจริงๆ ทุกคนมีโอกาสอย่างน้อยๆ 50% ที่จะได้เกิดมาเป็นเพศตรงข้ามในชาติต่อๆไป
ทำอะไรไว้
จะได้แบบนั้น
นะจ๊ะ!
โปรดจำไว้ว่า
ชาตินี้เกิดมาได้ร่างชายหรือหญิงนั้นเป็นเรื่องหนึ่ง
แต่การใช้กายนั้นในการสร้างบุญหรือบาปนั้น
เป็นอีกเรื่อง!
จงเลือกให้ดีเถิด!
ชาติหนึ่งก็ไม่ได้ยาวนานอะไร!
โฆษณา