21 พ.ย. เวลา 05:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

[#เนิร์ดeconomicseries] การปรับขึ้น-ลดอัตราดอกเบี้ยของนโยบายการเงินจากธนาคารกลาง🏦 ภาคสอง

สวัสดดีตอนเที่ยงค่า กลับมาอีกครั้งกับ Economic Series🌍 เราได้เห็นแล่วว่าการปรับขึ้น-ลดอัตราดอกเบี้ยของนโยบายการเงินที่ออกโดยธนาคารกลางส่งผลต่อพวกเราอย่างไรบ้าง
แล้วจะเป็นอย่างไร ถ้าการปรับอัตราดอกเบี้ยกันกระทบต่อด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการส่งออก ค่าเงิน รวมถึงตลาดหุ้น จะได้รับผลกระทบมากน้อยแค่ไหน❓ เดี๋ยวเนิร์ดจะเล่าให้ฟังต่อค่ะ เพื่อเป็นการให้เข้าใจมากขึ้น เนิร์ดจะขอยกการส่งออกของประเทศไทยเป็นเคสตัวอย่างนะคะ
🔍ถ้าธนาคารกลางมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของนโยบายการเงิน ส่งผลให้ค่าเงินของประเทศนั้นๆ มีการแข็งค่าขึ้น แต่จะทำให้ประเทศไทยที่จะส่งออกสินค้าไปยังประเทศใดๆ เสียเปรียบ เป็นเพราะ อัตราแลกเปลี่ยน💱 ของค่าเงินนั่นเอง
โดยยกตัวอย่างแบบง่ายๆ เช่น เดิมปกติ ไทยส่งออกสินค้าไปยังอเมริกา จำนวน 100 หน่วย ด้วยอัตราแลกเปลี่ยน USD/THB อยู่ที่ 32 แต่แล้ววันหนึ่ง FED หรือธนาคารกลางของอเมริกามีการออกนโยบายปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ค่าเงินดอลล่าร์นั้นแข็งค่าขึ้น แต่เงินบาทที่อ่อนค่าลงแทน อยู่ที่ 33 บาท ทำให้ปริมาณการส่งออกจากปกติ 100 หน่วย เหลือเพียงประมาณ 93-97 หน่วย
🔍ตรงกันข้าม หากฝั่งอเมริกาออกนโยบายปรับลดอัตราดอกเบี้ย ทำให้ค่าเงินดอลล่าร์อ่อนค่าลง ส่วนค่าเงินบาทนั้นแข็งค่า ส่งผลให้ไทยมีกำลังการส่งออกมากขึ้นจาก 100 หน่วย เป็นประมาณ 110 หน่วย ด้วยอัตราแลกเปลลี่ยนค่าเงินอยู่ที่ 31 บาท
🔍โดยรวมแล้ว การลดอัตราดอกเบี้ยมีแนวโน้มที่จะส่งเสริมการส่งออก เนื่องจากค่าเงินที่อ่อนลงช่วยทำให้สินค้าของประเทศมีความสามารถในการแข่งขันมากขึ้นในตลาดต่างประเทศ
ต่อมา มาดูผลกระทบในฝั่งตลาดหุ้นกันบ้างนะคะ
ผลกระทบของการปรับอัตราดอเบี้ยในฝั่งตลาดหุ้น
🔍หากอัตราดอกเบี้ยมีการปรับขึ้นจากนโยบายการเงินของอเมริกา บริษัทที่เป็นเจ้าของหุ้นจะต้องจ่ายดอกเบี้ยมากขึ้นในการกู้ยืมเงินสำหรับการขยายธุรกิจหรือการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ซึ่งจะลดกำไรของบริษัทและอาจทำให้หุ้นของบริษัทนั้นมีมูลค่าลดลง
ส่วนนักลงทุนที่ได้รับผลกระทบตามกันมา อาจทำให้พวกเขาหันไปถือสินทรัย์อื่นแทนที่ให้ผลตอบแทนที่สร้างผลตอบแทนที่มากกว่า
อย่างเช่น พันธบัตรมีผลตอบแทนจากสูงขึ้นตามอัตราดอกเบี้ยที่มีการปรับขึ้น ส่งผลให้ความน่าสนใจในหุ้นหุ้นลดลง เพราะการลงทุนในพันธบัตรหรือเงินฝากอาจมีความเสี่ยงต่ำกว่า ทั้งยังปลอดภัยกว่า
 
🔍แล้วหากอัตราดอกเบี้ยลดลง บริษัทจะสามารถกู้ยืมเงินได้ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มกำไรให้กับบริษัท ทำให้มูลค่าหุ้นมีโอกาสสูงขึ้น
อีกทั้งอัตราดอกเบี้ยที่ลดลงทำให้การลงทุนในพันธบัตรหรือเงินฝากให้ผลตอบแทนที่ต่ำลง ซึ่งจะทำให้นักลงทุนหันไปลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้น เพื่อหาผลตอบแทนที่สูงกว่า
🔍ซึ่งการปรับขึ้นหรือลดลงของอัตราดอกเบี้ยมักทำให้เกิดความผันผวนในตลาดหุ้น เพราะนักลงทุนจะต้องปรับกลยุทธ์การลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงและผลตอบแทนใหม่ ทำให้มีการซื้อขายหุ้นมากขึ้น ทั้งยังส่งผลต่อราคาของหุ้นให้สูงขึ้นอีกด้วย
ฮู่ว เยอะเหมือนกันนะคะเนี้ยกับเรื่องการปรับขึ้น-ลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลาง ใช้เวลาเล่าถึงสองภาคกันเลยทีเดียว
หากใครมีอยากเสริมข้อมูลเกี่ยวกับการปรับขึ้้น-ลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติม สามารถแสดงความคิดเห็นใต้โพสต์นี้ได้เลยนะคะ🧒👋
#wealthelling
ช่องทางอื่นๆ สำหรับติดตามเพจ WEALTHELLING
โฆษณา