Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Wealthy Thai
•
ติดตาม
21 พ.ย. เวลา 05:15 • หุ้น & เศรษฐกิจ
SPREME กับโอกาสเติบโตในปี 68 เดินหน้าประมูลงานรัฐกว่า 3.5 พันลบ. ลุ้นปิดดีล M&A ภายในครึ่งหลังปีหน้า
การเร่งเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐ ถือเป็นปัจจัยกระตุ้นกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ นับเป็นผลบวกต่อผู้รับเหมา ซัพพลายเออร์ และผู้ให้บริการที่เกี่ยวเนื่อง ซึ่ง บริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SPREME ผู้ให้บริการด้านโซลูชันไอทีแบบครบวงจร โดยเป็นผู้ออกแบบ จัดหา และติดตั้งอุปกรณ์สำหรับระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ครอบคลุมทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ก็เป็นหนึ่งในบริษัทที่จะได้รับประโยชน์จากการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณปี 2568 ของภาครัฐเช่นเดียวกัน
โดยคุณภานุวัฒน์ ขันธโมลีกุล ประธานกรรมการบริหาร SPREME ให้มุมมองกับ Wealthy Thai ว่า บริษัทวางเป้าหมายรายได้เติบโตประมาณ 10-15% ทุกปีต่อเนื่อง ซึ่งในปี 2568 บริษัทยังมองการเติบโตในระดับนี้เช่นเดียวกัน โดยจะเน้นการเข้าร่วมการประมูลโครงการภาครัฐและ Mega Project มากขึ้น เพื่อหนุนให้สัดส่วนรายได้จากการรับงานโดยตรงกับภาครัฐขยับขึ้นเป็น 50% จากเดิมอยู่ที่ 30% ในขณะที่กลุ่มเอกชนคู่ค้าของบริษัทจะมีสัดส่วนรายได้ลดลงมาอยู่ที่ 50% จากเดิมที่ 70%
“เดิมกลุ่มลูกค้าหลักของเราคือบริษัทเอกชนที่เป็นตัวแทนจำหน่าย ซึ่งส่วนใหญ่ทำงานร่วมกับภาครัฐอยู่แล้ว แต่ในปี 2568 เราจะเข้าร่วมประมูลงานภาครัฐมากขึ้น เป็นคู่สัญญาโดยตรง น่าจะทำให้สัดส่วนรายได้ของภาครัฐและเอกชนขยับขึ้นมาอยู่ในระดับ 50% เท่ากันได้”
สำหรับโครงการของภาครัฐ บริษัทคาดว่าจะสามารถเข้าร่วมประมูล Mega Project ได้ราว 2-3 โครงการ และเข้าร่วมประมูลโครงการทั่วไปอีกประมาณ 20 โครงการ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 3,500 ล้านบาท โดยเป็นงานที่บริษัทมีความเชี่ยวชาญอยู่แล้วจึงประเมินว่าจะมีโอกาสได้รับงานราว 60-70%
นอกเหนือจากการเติบโตจากการดำเนินธุรกิจหลัก (Organic) แล้ว บริษัทยังมองโอกาสเติบโตผ่านการลงทุนซื้อกิจการ (M&A) เพื่อต่อยอดและสร้าง New S-Curve ในอนาคต โดยเป็นธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับ Smart City และ Public Safety ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับบริษัทที่มีศักยภาพ โดยขนาดของบริษัทมียอดขายราว 300-500 ล้านบาท คาดจะเห็นความความชัดเจนในช่วงครึ่งหลังของปี 2568
ทั้งนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยีเพื่อรองรับการขยายธุรกิจในอนาคต รวมถึงมีแผนขยายศูนย์บริการในปี 2568 อย่างน้อย 1 แห่ง ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพิ่มเติ่มจากเดิมที่มีศูนย์บริการ 3 แห่งในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ สงขลา และนครสวรรค์ อย่างไรก็ตาม แหล่งเงินทุนสำหรับการทำ M&A รวมถึงการพัฒนาบุคลากรและเทคโนโลยีจะมาจากเงินที่ได้จากการ IPO ซึ่งปัจจุบันยังเหลืออยู่ราว 450 ล้านบาท
“ภายหลังการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งความเชื่อมั่นที่ลูกค้าและคู่ค้ามีต่อบริษัท ตลอดจนสถาบันการเงินต่างๆ ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี ทำให้บริษัทมีโอกาสในการดำเนินธุรกิจได้ง่ายมากขึ้น”
ส่วนความเสี่ยงที่ต้องระมัดระวังในปีหน้า บริษัทมองว่าบางครั้งโครงการของภาครัฐอาจมีความล่าช้าในส่วนของการประมูลหรือการส่งมอบงาน ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละหน่วยงาน รวมถึงการภาวะการขาดแคลนวัตถุดิบในตลาดโลก ซึ่งเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่บริษัทจะพยายามบริหารจัดการงานส่วนของตนเองให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด ส่งมอบงานตรงตามเวลาที่กำหนดไว้ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทสามารถทำได้ดีต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตาม คุณภานุวัฒน์ มอง SPREME เป็นไฮบริด ทั้งหุ้นเติบโต (Growth Stock) และหุ้นปันผล (Stock Dividend) โดยมุ่งผลักดันผลประกอบการให้เติบโตต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นอย่างสม่ำเสมอ
เศรษฐกิจ
การลงทุน
หุ้น
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย