23 พ.ย. เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

4 พี่น้องผนึกกำลัง เบื้องหลังความสำเร็จนาฬิกาญี่ปุ่น “CASIO”

“CASIO” หนึ่งในแบรนด์นาฬิกาสัญชาติญี่ปุ่นที่ขึ้นชื่อเรื่องความทนทานและความล้ำไม่ซ้ำใคร เบื้องหลังความสำเร็จนี้เกิดจากพี่น้อง 4 คนที่นำจุดแข็งมารวมกัน
เมื่อพูดถึง “นาฬิกา” ชั้นยอด หลายคนอาจนึกถึงแบรนด์ที่มาจากสวิตเซอร์แลนด์หรือเยอรมนี แต่ต้องบอกว่านวัตกรรมเวลาในโลกฝั่งตะวันออกเองไม่ได้น้อยหน้าแบรนด์ดังจากตะวันตก โดยเฉพาะ “ญี่ปุ่น” อีกหนึ่งประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี
แบรนด์นาฬิกาญี่ปุ่นเองมีอยู่หลากหลาย แต่เชื่อว่าชื่อแรก ๆ ที่ผู้คนจะนึกถึงคือ “Casio” (คาสิโอ) ซึ่งขึ้นชื่อเรื่องความทนทาน นวัตกรรมเชิงกลไกบวกอิเล็กทรอนิกส์อันยอดเยี่ยม และที่สำคัญคือราคาที่จับต้องได้
Casio แบรนด์นาฬิการายใหญ่จากญี่ปุ่น
แต่การเดินทางของนาฬิกาญี่ปุ่นรายนี้ต้องบอกว่าเต็มไปด้วยสีสันอย่างมาก เพราะก่อนจะเข้าสู่วงการนาฬิกา พวกเขาทำมาหมดแล้วทั้งอุปกรณ์สูบบุหรี่ เครื่องคิดเลข โดยมีเบื้องหลังความสำเร็จที่สำคัญคือฝีมือและความคิดสร้างสรรค์ของครอบครัวนักประดิษฐ์ “คาชิโอะ” (Kashio)
4 พี่น้องผู้วางรากฐาน
ผู้ก่อตั้ง Casio เป็นพี่น้องชายล้วน 4 คนของครอบครัวคาชิโอะ ประกอบด้วยพี่ชายคนโต “ทาดาโอะ”, น้องชายคนรอง “โทชิโอะ”, น้องชายคนที่สาม ”คาซึโอะ” และน้องชายคนสุดท้อง “ยูกิโอะ”
เดิมทีครอบครัวคาชิโอะอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านคุเรตะในจังหวัดโคจิ ทางใต้ของประเทศ แต่ในปี 1923 หรือ 6 ปีหลังทาดาโอะเกิด ทั้งครอบครัวตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่กรุงโตเกียว ตามคำชักชวนของลุงที่ให้ไปทำงานด้วยกัน น้อง ๆ อีก 3 คนของทาดาโอะมาเกิดที่โตเกียวนี้เอง
หลังเรียนจบชั้นมัธยม ทาดาโอะไปทำงานอยู่ในโรงกลึงและโรงงานผลิตเครื่องมือเครื่องจักร ซึ่งนายจ้างเห็นแววในทักษะของเขา จึงแนะนำให้เข้าศึกษาที่วิทยาลัยเทคโนโลยีวาเซดะ (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยวาเซดะ) พร้อมกับทำงานไปด้วย
เขาได้รับประสบการณ์จากงานและการเรียน จนสามารถสร้างสิ่งของเครื่องใช้ได้หลากหลาย ทั้งหม้อ กระทะ และโคมไฟ หลังเรียนจบ เขาจึงตัดสินใจก่อตั้งบริษัท “คาชิโอะเซซาคุโจ” ขึ้นมาในปี 1946 หรือเพียง 1 ปีหลังสงครามโลกสิ้นสุดลง คอยรับงานสัญญาจ้างผลิตอุปกรณ์และชิ้นส่วนต่าง ๆ ถือเป็นจุดเริ่มต้นอย่างเป็นทางการของ Casio
ส่วนน้องคนรองอย่างโทชิโอะนั้น ชีวประวัติระบุว่า เขาชื่นชอบนักประดิษฐ์ผู้ยิ่งใหญ่ “โทมัส อัลวา เอดิสัน” มาตั้งแต่เด็ก ๆ และชื่อชอบการประดิษฐ์ค้นคว้ามาตั้งแต่ยังเล็ก โดยใช้เวลาวัยเด็กส่วนใหญ่ไปกับการศึกษารหัสมอร์ส
โทชิโอะสำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยวิศวกรรมไฟฟ้าโตเกียว (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยโตเกียวเด็งกิ) และเข้าทำงานในกระทรวงการสื่อสารก่อน เมื่อทาดาโอะก่อตั้งบริษัท เขาจึงลาออกและมาช่วยพี่ชาย
น้องคนรองรายนี้ถูกเรียกว่าเป็นเจ้าพ่อไอเดียของบริษัท และมักคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ขึ้นมาอยู่เสมอ ตลอดทั้งชีวิตจดสิทธิบัตรนวัตกรรมหรือสิ่งประดิษฐ์ไปมากถึง 313 ชิ้น
คาซึโอะ น้องชายคนที่สาม เรียนจบจากภาควิชาภาษาอังกฤษ มหาวิทยาลัยนิฮง และเข้าทำงานที่บริษัทของทาดาโอะดูแลเรื่องฝ่ายขาย
เขาเป็นผู้วางแผนขายผลิตภัณฑ์หลายอย่างของ Casio ทั้งเครื่องคิดเลขและนาฬิกา จนประสบความสำเร็จไปทั่วโลก โดยอาศัยความรู้เรื่องความต้องการของผู้บริโภคมาร่วมในการคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ
ขณะที่น้องชายคนสุดท้อง ยูกิโอะ จบด้านวิศวกรรมเครื่องกล มหาวิทยาลัยนิฮง รับผิดชอบงานการผลิตทั้งหมดของบริษัท เป็นผู้นำไอเดียของโทชิโอะมาทำให้เกิดขึ้นจริงและพัฒนาต่อจนสามารถขายและผลิตได้เป็นจำนวนมาก
พี่น้องครอบครัวคาชิโอะทั้ง 4 คนนี้เองที่ก่อร่างสร้าง Casio จนประสบความสำเร็จมาจนถึงปัจจุบัน โดยผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ของโทชิโอะ โดยมีทาดาโอะเป็นผู้พิจารณาว่าสินค้าไหนน่าจะปัง จากนั้นให้ยูกิโอะผลิตออกมา และมีคาซึโอะนำสินค้าไปขายและทำการตลาดจนเป็นที่รู้จัก
เรียกได้ว่า หากไม่มีจุดแข็งของพี่น้องทั้งสี่คนมารวมกัน Casio อาจไม่ประสบความสำเร็จและกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลกได้อย่างทุกวันนี้
โทชิโอะเคยยกคำพูดของเอดิสันมากล่าวว่า “การประดิษฐ์คิดค้น เกิดจากแรงบันดาลใจ 1% ความพยายาม 49% และโชคอีก 50% ... โชคของผมคือการมีพี่น้องของผม” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศรัทธาและความเหนียวแน่นของพี่น้องคาชิโอะ
4 พี่น้องตระกูลคาชิโอะ จากทางซ้าย ประกอบด้วย โทชิโอะ, คาซึโอะ, ทาดาโอะ และยูกิโอะ
เริ่มจาก “แหวนสูบบุหรี่” สู่ “เครื่องคิดเลข”
อย่างที่บอกไปว่า บริษัทคาชิโอะเซซาคุโจรับงานสัญญาจ้างผลิตชิ้นส่วนและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในช่วงแรกพวกเขาจึงเป็นเพียงโรงงานขนาดเล็กที่ผลิตชิ้นส่วนและเกียร์ของกล้องจุลทรรศน์เท่านั้น
แต่โทชิโอะต้องการคิดค้นสิ่งประดิษฐ์อะไรบางอย่างเพื่อช่วยส่งเสริมธุรกิจของพี่ชาย เขาจึงลองนึกไอเดียใหม่ ๆ หลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือ “แหวนสูบบุหรี่” (Yubiwa Pipe) ซึ่งมีลักษณะเป็นแหวนที่ตรงหัวสามารถเสียบบุหรี่ไว้ได้ เพื่อที่ผู้ใช้จะสามารถสูบบุหรี่และทำงานที่ต้องใช้มือไปด้วยได้โดยไม่ต้องคอยคีบบุหรี่ไว้
หลังได้ไอเดียจากโทชิโอะ ทาดาโอะจึงลงมือสร้างสินค้าใหม่ตัวนี้ด้วยตัวเอง ในเวลานั้นยังเป็นช่วงที่สงครามโลกครั้งที่ 2 เพิ่งสิ้นสุดไปหมาด ๆ สินค้าขาดแคลนและบุหรี่เป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมแต่มีราคาแพงมาก ทำให้แหวนสูบบุหรี่ของพวกเขากลายเป็นสินค้าฮิตและขายดิบขายดีอย่างมาก
แหวนสูบบุหรี่ (Yubiwa Pipe) ผลิตภัณฑ์แรกของครอบครัวคาชิโอะ
หลังแหวนสูบบุหรี่ประสบความสำเร็จ พี่น้องคาชิโอะเริ่มมองหาไอเดียสร้างผลิตภัณฑ์ที่จะขายได้ขายดีอีก จนไปเห็น “เครื่องคิดเลขไฟฟ้า” ของต่างประเทศถูกนำมาจัดแสดงในงาน Business Show ที่ย่านกินซ่าเมื่อปี 1949
โทชิโอะเห็นว่า เฟืองในเครื่องคิดเลขเหล่านี้หมุนโดยใช้มอเตอร์ไฟฟ้า ทำให้เร็วกว่าเครื่องคิดเลขแบบใช้มือที่ใช้กันทั่วไปในญี่ปุ่นในเวลานั้น แต่สร้างเสียงดังแหลม และแม้จะบอกว่าเร็ว แต่ในการคูณหรือหารตัวเลขมักใช้เวลานานกว่า 10 วินาที เขาจึงแก้ปัญหานี้ได้ด้วยการใช้วงจรไฟฟ้าแทนเฟือง โดยนำเงินที่ได้จากแหวนสูบบุหรี่มาเป็นทุนตั้งต้น
โทชิโอะผลิตเครื่องคิดเลขไฟฟ้าเครื่องแรกของญี่ปุ่นได้ในที่สุดในปี 1954 อย่างไรก็ตาม เมื่อพี่น้องคาชิโอะนำเครื่องคิดเลขไฟฟ้าไปให้บริษัทที่นำเข้าเครื่องคิดเลขดู ตัวแทนบอกพวกเขาว่า “เครื่องคิดเลขของพวกเขาล้าสมัยแล้ว” เพราะไม่สามารถคูณต่อเนื่องได้ (คูณเลขสองจำนวนแล้วนำผลลัพธ์ไปคูณด้วยจำนวนอื่นต่อได้)
ในปี 1956 พวกเขาเกือบจะสร้างเครื่องคิดเลขที่มีฟังก์ชันการคูณต่อเนื่องสำเร็จ แต่โทชิโอะต้องการอะไรมากกว่านั้น เขาต้องการออกแบบเครื่องคิดเลขใหม่ทั้งหมด ให้เป็นเครื่องคิดเลขไฟฟ้าล้วนแบบไม่มีกลไกอื่นผสม โดยนำเทคโนโลยีแบบที่ใช้ในอุปกรณ์โทรศัพท์ในสมัยนั้นมาสร้างเครื่องคิดเลขไฟฟ้า
จน 1 ปีต่อมา พี่น้องคาชิโอะพัฒนา “14-A” เครื่องคิดเลขเครื่องแรกของโลกที่ใช้พลังงานไฟฟ้าล้วนขึ้นมาได้สำเร็จ สามารถคำนวณเลขคณิตพื้นฐาน 4 หลักได้สูงสุดถึง 14 หลัก และใช้เวลาคำรวณน้อยกว่าเครื่องคิดเลขแบบเฟือง 2 เท่า
14-A ทำให้บริษัทคาชิโอะเซซาคุโจก้าวเข้าสู่อุตสาหกรรมเครื่องคิดเลขอย่างเต็มตัว และเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น “Casio Computer Co., Ltd” (คาสิโอคอมพิวเตอร์) ซึ่งใช้มาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับชื่อ Casio นั้น เกิดจากสี่พี่น้องคาชิโอะต้องการปรับภาพลักษณ์บริษัทให้ดูทันสมัย จึงใช้ตัวอักษรภาษาอังกฤษ ประกอบกับเครื่องคิดเลข 14-A ทำการตลาดข่มคู่แข่งด้วยเรื่องความเร็วในการคำนวณ แต่พี่น้องผู้ก่อตั้งทั้งสี่เห็นตรงกันว่า หากเป็นคำว่า “Kashio” เฉย ๆ ดูไม่ได้สื่อถึงความเร็วเท่าไร
จนสุดท้ายพวกเขาตกลงที่จะสะกดชื่อแบรนด์เป็น Casio โดยดัดแปลงมาจากชื่อของ “กลุ่มดาวแคสสิโอเปีย” (Cassiopeia) หรือกลุ่มดาวค้างคาว ซึ่งเป็นกลุ่มดาวที่มองเห็นได้ตลอดทั้งปี และยังออกเสียงใกล้เคียงกับนามสกุลคาชิโอะ (แต่ถ้าอ่านเป็นภาษาญี่ปุ่น จะยังคงอ่านว่าคาชิโอะ)
บริษัทเดินหน้าผลิตเครื่องคิดเลขออกมาอีกหลายต่อหลายรุ่น รวมถึงเริ่มมีการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และแคนาดา แต่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในปี 1972 จากเครื่องคิดเลขพกพาได้รุ่นแรกของโลก “Casio Mini”
Casio Mini มีขนาดเพียง 1 ใน 4 ของเครื่องคิดเลขทั่วไปในยุคนั้น และมีราคาถูกกว่าคู่แข่งเกือบ 70% ทำให้ยอดขายของ Casio Mini พุ่งทะยานในเวลาอันรวดเร็ว สามารถขายได้ถึง 1 ล้านเครื่องภายใน 10 เดือนหลังจากวางจำหน่าย
Casio Mini ได้รับการขึ้นทะเบียนในทะเบียนวัสดุประวัติศาสตร์ที่สำคัญสำหรับวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โดยพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์แห่งชาติญี่ปุ่น
Casio Mini เครื่องคิดเลขพกพาได้รุ่นแรกของโลก
เข้าสู่อุตสาหกรรมเวลาด้วยนาฬิกาที่ล้ำไม่ซ้ำใคร
หลังประสบความสำเร็จอย่างมากจากเครื่องคิดเลข บริษัท Casio Computer ตัดสินใจเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์โตเกียวและตลาดหลักทรัพย์อัมสเตอร์ดัม พร้อมกันนั้นยังเริ่มมองหาธุรกิจใหม่ ๆ ที่จะเป็นการต่อยอดเทคโนโลยีที่พวกเขามีอยู่
ในช่วงต้นทศวรรษ 1970 เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่เปลี่ยนจากนาฬิกาแบบกลไกมาเป็นนาฬิกาแบบควอตซ์ (นาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ใส่ถ่าน/แบตเตอรี่) ด้วยตำแหน่งที่มั่นคงในอุตสาหกรรมเครื่องคิดเลข Casio จึงตัดสินใจเข้าสู่ธุรกิจนาฬิกา
โดยบริษัทมองว่า การผลิตนาฬิกาดิจิทัล ซึ่งเป็นนาฬิกาควอตซ์ประเภทหนึ่ง จะทำให้บริษัทสามารถใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นสำหรับเครื่องคิดเลขได้อย่างเต็มที่ จนนำมาสู่ “Casiotron QW02” นาฬิกาเรือนแรกที่ Casio ออกจำหน่ายในปี 1974
นอกจากจะแสดงชั่วโมง นาที และวินาทีเหมือนนาฬิกาทั่วไปแล้ว QW02 ยังมาพร้อมกับปฏิทินบอกวันที่บนนาฬิกาเรือนแรกของโลก ที่สามารถปรับตามเดือนที่ยาวกว่าหรือสั้นกว่าได้โดยอัตโนมัติ
ตั้งแต่นั้นมา Casio จึงเดินหน้าในอุตสาหกรรมนาฬิกาตัว ด้วยกลยุทธ์ความคิดสร้างสรรค์ หยิบจับฟังก์ชันต่าง ๆ มาใส่นาฬิกาของตน จนได้ชื่อว่าเป็นเจ้าพ่อนาฬิกาดิจิทัลมัลติฟังก์ชัน โดยใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลที่บริษัทมี
เรื่องนี้สะท้อนชัดด้วยการเปิดตัว “Casiotron X-1” นาฬิกาข้อมือรุ่นแรกของโลกที่มีฟังก์ชันเสริมถึง 5 อย่าง! ประกอบด้วยฟังก์ชันบอกเวลาปกติ (แสดงชั่วโมง นาที วินาที AM/PM เดือน วันที่ และวันในสัปดาห์) และปฏิทินอัตโนมัติ, ฟังก์ชันจับเวลา, ตัวนับเวลา, เวลาโลก และการแสดงเวลาแบบคู่
ความก้าวหน้าครั้งยิ่งใหญ่นี้เกิดขึ้นได้ด้วยเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Casio ซึ่งทำให้ชิ้นส่วนมีขนาดเล็กลงและเพรียวบางลงในขณะที่ประหยัดพื้นที่ภายในตัวเรือน
หลังจากนั้น Casio ได้ออกนาฬิกาข้อมืออีกหลายรุ่น ก่อนจะแวะไปลงเล่นในอุตสาหกรรมเครื่องดนตรีและพจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับที่ดีเช่นกัน
Casiotron ซีรีส์นาฬิการุ่นแรกของ Casio
พิชิตโลกด้วย G-SHOCK
นาฬิกาถือเป็นอุปกรณ์ที่ละเอียดอ่อนและต้องใช้งานอย่างระมัดระวัง Casio จึงมีไอเดียว่า จะเป็นอย่างไร หากนาฬิกามีความทนทานและผู้ใช้สามารถสวมใส่ได้ทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะบุกน้ำลุยไฟขนาดไหน
Casio จึงพัฒนานาฬิกา “G-SHOCK” (จี-ช็อก) ซึ่งย่อมาจาก “Gravitational SHOCK” เพื่อสะท้อนความสามารถในการทนต่อแรงกระแทกและแรงกดดันต่าง ๆ
G-SHOCK รุ่นแรก “DW-5000C” ซึ่งเกิดตัวในปี 1983 ได้พลิกโฉมความคิดเดิม ๆ เกี่ยวหับนาฬิกา โดยเป็นนาฬิกาที่ทนทานและยากต่อการแตกหัก ทนต่อทั้งแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือน และบอกเวลาได้อย่างแม่นยำภายใต้สภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยต่าง ๆ
ตัวเรือนนาฬิกาได้รับการเสริมความแข็งแรงด้วยขอบโพลียูรีเทนที่ช่วยปกป้องกระจกและปุ่มได้อย่างแน่นหนา ขณะที่โมดูลและส่วนประกอบสำคัญอื่น ๆ ภายในนาฬิกามีวัสดุดูดซับแรงกระแทก แรงกระแทกจากภายนอกจะได้รับการบรรเทาด้วยชั้นป้องกันทั้งหมด 5 ชั้น
G-SHOCK DW-5000C สามารถกันน้ำได้ลึก 200 เมตร ประสิทธิภาพของนาฬิการุ่นนี้ได้รับคำชมจากนักดับเพลิงที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย และคนหนุ่มสาวชื่นชอบนาฬิกาที่สามารถสวมใส่ได้อย่างสบายใจในขณะออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ
ในช่วงกลางทศวรรษ 1990 G-SHOCK ได้กลายเป็นแบรนด์ย่อยของ Casio ที่ได้รับความนิยมสูงมากในหมู่คนหนุ่มสาว โดยเริ่มเป็นที่รู้จักนอกญี่ปุ่น และมีการพัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ จนปัจจุบันยังคงได้รับความนิยมอยู่ และเป็นไลน์ผลิตภัณฑ์ที่ขายดีที่สุดของ Casio
ด้วยความนิยมของ G-SHOCK ทำให้บริษัทนาฬิกาอื่น ๆ ออกนาฬิกาดิจิทัลของตนเองในสไตล์ที่ดูแข็งแรงทนทาน ซึ่งถือเป็นการกำหนดนิยามใหม่ให้กับผลิตภัณฑ์ที่ก่อนหน้านี้เน้นแต่การใช้งานเป็นหลัก
ในปี 1994 Casio ยังได้เปิดตัวนาฬิกา G-SHOCK สำหรับผู้หญิงในซีรีส์ “Baby-G” ผลิตภัณฑ์แรกในซีรีส์นี้คือ “DW-520” ซึ่งไม่เพียงแต่ทนทานต่อแรงกระแทกตามแบบฉบับของ G-SHOCK เท่านั้น แต่ยังเป็นนาฬิกาดิจิทัลไซซ์กะทัดรัดเหมาะกับผู้หญิง โดยออกแบบให้น่ารัก มีสีสันที่สดใส และลวดลาย ที่ทำให้สาววัยรุ่นในยุคนั้นต้องกรี๊ด
ณ เดือนสิงหาคม 2017 หรือ 34 ปีหลังเกิดตัวครั้งแรก แบรนด์ G-SHOCK ได้บรรลุเป้า ทำยอดขายสะสมไป 100 ล้านเรือนทั่วโลก
G-SHOCK นาฬิกาที่ขายดีที่สุดของ Casio
แตกต่าง สร้างสรรค์ มั่นคง
ปัจจุบันธุรกิจของ Casio มีอยู่ 4 ส่วนใหญ่ ๆ คือ นาฬิกา, กลุ่มสินค้าผู้บริโภค (พจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องคิดเลข เครื่องดนตรี ฯลฯ), กลุ่มอุปกรณ์ระบบ (เครื่องสแกนบาร์โค้ด ฯลฯ) และอื่น ๆ (ชิ้นส่วน แม่พิมพ์ ฯลฯ)
Casio Computer รายงานผลประกอบการในปีงบประมาณ 2024 (สิ้นสุด ณ มี.ค. 2024) ว่า ยอดขายผลิตภัณฑ์ทุกกลุ่มรวมอยู่ที่ 2.68 แสนล้านเยน (ราว 6.5 หมื่นล้านบาท) โตขึ้นจากปีก่อนหน้า 1.9%
รายได้ยังคงมาจากกลุ่มนาฬิกามากที่สุด 1.67 แสนล้านเยน (ราว 4 หมื่นล้านบาท) ตามด้วย 8.45 หมื่นล้านเยน (ราว 2 หมื่นล้านบาท) ในกลุ่มสินค้าผู้บริโภค รองลงมาคือกลุ่มอุปกรณ์ระอบบ 1.25 หมื่นล้านเยน (ประมาณ 3 พันล้านบาท) และสุดท้ายคือ 4.7 พันล้านเยน (ประมาณ 1.14 พันล้านบาท) ในกลุ่มอื่น ๆ
บริษัทระบุว่า แนวโน้มของสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจในญี่ปุ่นและต่างประเทศยังคงไม่แน่นอน แม้ว่าเศรษฐกิจในสหรัฐฯ จะยังคงแข็งแกร่ง แต่ความเข้มงวดทางการเงินยังคงดำเนินต่อไปในยุโรปและเศรษฐกิจยังคงชะงักงัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจจีนยังคงชะลอตัว ทำให้ภาคการบริโภคส่วนบุคคลอ่อนแอ
นอกจากนี้ ปัจจัยระดับโลกอื่น ๆ ได้แก่ ความเสี่ยงทางภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งเกิดจากความไม่มั่นคงในตะวันออกกลางและผลกระทบจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ได้ส่งผลต่อยอดขายของบริษัท
ทั้งนี้ แม้ธุรกิจนาฬิหาจะยังทำได้ดี แต่ธุรกิจนาฬิกาในจีนกลับอ่อนแอกว่าที่คาดไว้ รวมถึงผลกระทบจากการลดลงของจำนวนร้านค้าในอเมริกาเหนือ อย่างไรก็ตาม แนวโน้มโดยรวมมีแนวโน้มฟื้นตัวในระดับปานกลาง และยอดขายเพิ่มขึ้น
ในส่วนธุรกิจเทคโนโลยีการศึกษาพบว่า ยอดขายพจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ยังคงซบเซา แต่ยอดขายเครื่องคิดเลขทางวิทยาศาสตร์กลับเพิ่มขึ้น เนื่องจากห้องเรียนเริ่มกลับสู่ภาวะปกติหลังจากการระบาดของโควิด-19
ส่วนธุรกิจเครื่องดนตรี ความต้องการยังคงลดลง เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังผลักดันให้แนวโน้มตลาดชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับรุ่นเริ่มต้น และยอดขายลดลงในธุรกิจอุปกรณ์ระบบ ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาทบทวนธุรกิจ
ที่ผ่านมา ผู้บริหารของ Casio ทั้งหมดเป็นคนจากตะกูลคาชิโอะ แต่ในเดือน เม.ย. เกิดการเปลี่ยนแปลงสำคัญ เมื่อ Casio แต่งตั้ง มาสึดะ ยูอิจิ จากทีมผู้พัฒนา G-SHOCK เป็นประธานบริษัท ถือเป็นครั้งแรกที่มีการเลือกบุคคลภายนอกครอบครัวผู้ก่อตั้งให้มาดำรงตำแหน่งประธาน
ตลอดระยะเวลากว่า 70 ปีที่ผ่านมา (นับเฉพาะหลังบริษัทเริ่มผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในนาม Casio Computer) แบรนด์ Casio ได้กลายเป็นชื่อที่คุ้นหูผู้คนทั่วโลก จากผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งเครื่องคิดเลข นาฬิกา เครื่องดนตรี พจนานุกรมอิเล็กทรอนิกส์ เครื่องดนตรี กล้องถ้ายรูป ไปจนถึงเครื่องฉายภาพ
ผลิตภัณฑ์ส่วนใหญ่ของ Casio มี “ความฉีก” หรือแตกต่างจากคู่แข่งรายอื่นในตลาด มักสะท้อนความคิดสร้างสรรค์ของผู้ออกแบบและผู้ผลิต ซึ่งทุกคนจะเห็นได้เรื่อยมาตั้งแต่เครื่องคิดเลขจนถึงนาฬิกา
นอกจากรุ่นที่หลายคนอาจรู้จักกันดีแล้ว Casio ยังมีนาฬิกาโดดเด่นล้ำยุคอีกหลายรุ่น เช่น SATELLITE NAVI นาฬิกา GPS รุ่นแรกของโลก, Easy Rec DBC-V500J นาฬิกาอัดเสียงได้, Wrist Audioplayer MPV-1V นาฬิกาที่เปิดฟังเพลงได้, BP-1DJ นาฬาวัดระดับความดันโลหิตได้ เป็นต้น
หากบอกว่านาฬิกาบางแบรนด์มีจุดเด่นอยู่ที่ความมั่นคง สม่ำเสมอ และความคลาสสิก จุดแข็งของ Casio จะอยู่ที่ความคงทนและแตกต่างไม่เหมือนใครนั่นเอง ทำให้พวกเขายังคงยืนหยัดอยู่ในอุตสาหกรรมเวลาได้อย่างมั่นคง
และเบื้องหลังของแนวคิดหรือหลักการในการพัฒนาผลิตภัณฑ์นี้ ต้องยกความดีความชอบให้กับ 4 พี่น้องคาชิโอะ ที่ความสามารถและความสัมพันธ์กันเหนียวแน่นของพวกเขา ส่งผลให้ Casio อยู่ยืนยาวได้จนถึงทุกวันนี้
ประวัติ Casio
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/trick-trend/230229
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา