เมื่อวาน เวลา 10:14 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Premature optimization is the root of all evil ตอนที่ 1

— Sir Tony Hoare
วันนี้มาเล่าเรื่อง Intel ให้ฟังครับว่าเขาตกรถไฟตอนไหน ทำไมถึงตกจากบริษัทเทคสุดฮอต จนเกือบหลุดจาก Dow Jones Index ได้
ซึ่งต้นตอของปัญหาแล้วแต่คนมองเลยนะครับ แต่ส่วนตัวของผมคิดว่าปัญหาของ Intel เริ่มต้นมาจากการพยายาม optimize มากเกินไป ซึ่งเรื่องราวนี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ Craig R. Barrett CEO คนที่สองหลังจาก Andy Grove เจ้าของสำนวน Only the paranoid survive ได้เตรียมก้าวลงจากตำแหน่ง และให้ Paul Otellini มารับตำแหน่งแทน ในปี 2005
ในยุค Craig นั้น Intel เป็นเหมือนเจ้าพ่อวงการ CPU กินส่วนแบ่งตลาดไปเกือบหมด แต่ในช่วง 2003-2005 ก็เริ่มมีการแข่งขันเข้ามา หลังจากที่ Intel ก้าวพลาดในการออก Intel Itanium ภายใต้สถาปัตยกรรม 64 บิต IA-64 ที่ไม่เข้ากับสถาปัตยกรรม 32 บิต ที่ใช้ชุดคำสั่ง x86 เดิม (ปี 2001)
AMD ม้ารองในเวลานั้นจึงคิดค้นชุดคำสั่ง AMD64 ที่สามารถรองรับการทำงานแบบ 64 บิตได้ ในขณะที่ยังรองรับการทำงานแบบ 32 บิตได้ 100% ทำให้ผู้ใช้ทั่วไปตัดสินใจได้ง่าย Intel จึงเริ่มเสียส่วนแบ่งการตลาดเกือบ 40% ให้กับชิป Opteron และ Athlon 64 ของ AMD
ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตั้งแต่คณะกรรมการ CEO พนักงาน ก็เริ่มเปลี่ยนทัศนคติในการทำงาน จากเดิมที่มุ่งหน้าสร้างสรรค์ของใหม่ขึ้น โดยไม่ได้สนใจคู่แข่งนัก กลายเป็นต้องคอยมองกระจกหลังตลอดเวลา และเห็น AMD เป็นเหมือนศัตรูหลัก และต้องทำอย่างไรก็ได้ ไม่ให้ AMD แซงได้ แถมยังมีคู่แข่งเล็กๆ อย่าง VIA และ Cyrix มาให้รำคาญอีกด้วย
แถมในปี 2004 Intel ก็ต้องกลืนน้ำลายตัวเอง และต้องหันไปยอมใช้ชุดคำสั่งที่เข้ากับได้กับ AMD64 ภายใต้ชื่อว่า Intel 64 ที่ภายหลังถูกเรียกรวมกันว่า x86-64 นั่นเอง และเปิดตัวออกมาเป็น Intel Pentium-4 นั่นเอง
แต่ใครจะคิดว่า การที่ต้องห่วงหน้าพะวงหลัง(แต่เลิก paranoid) ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อ 20 ปีที่แล้ว ถึงแม้จะทำให้ Intel ได้ชัยเหนือ AMD จน AMD เกือบล้มละลาย จะส่งผลถึงวิธีการคิด และกลยุทธ์ของ Intel จนถึงทุกวันนี้
ไว้ต่อกันตอนหน้าครับ…
โฆษณา