21 พ.ย. เวลา 13:17 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ชำแหละเงินหมื่นดิจิทัล

แค่ยาแก้ปวด ยิงเป้าชั่วคราว
หรือ วางโครงสร้างแก้หนี้ เศรษฐกิจไทยยั่งยืน
ที่ประชุมกระตุ้นเศรษฐกิจ เคาะแจกเงินหมื่นดิจิทัล เฟส 2 หรือ ดิจิทัลวอลเล็ต กลุ่มคนเปราะบาง หวังกระตุ้นเศรษฐกิจช่วงเทศกาลตรุษจีน หลังตัวเลขไตรมาส 4 ปี 2567 จีดีพีเติบโต พบ 3 ข้อ แก้โจทย์วิพากษ์ นโยบายแค่ยาแก้ปวด สู่การแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างไทยยั่งยืน ปลดล็อกปัญหาหนี้ครัวเรือน
ที่ประชุมคณะกรรมการกระตุ้นเศรษฐกิจ 2567 มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลัง เสนอแนวทางการกระจายเงินช่วยเหลือกลุ่มผู้สูงอายุ หรือ มาตรการแจกเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ให้กับกลุ่มผู้สูงอายุที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป รวม 4 ล้านคน ใช้ใช้งบประมาณ 40,000 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มคนเปราะบาง โดยมีเงื่อนไขในการจะต้องเป็นผู้ที่ “ลงทะเบียนแอปทางรัฐ” มีรายได้ไม่เกิน 840,000 บาท/ปี พร้อมกับต้องไม่มีเงินฝากทุกบัญชีเกิน 5 แสนบาท โดยกลุ่มคนที่ได้รับเงินไปแล้วในเฟสแรก จำนวน 14.55 ล้านราย จะถูกตัดสิทธิ์
1
อย่างไรก็ตามโครงการถูกวิพาษ์พิจารณ์ว่าอาจได้ไม่คุ้มเสีย เพราะมีความเสี่ยงที่การโยนเงินไปจะสูญเปล่าเงินไม่ถูกหมุนไปวงกว้าง กลุ่มคนเปราะบางยังคงไม่หลุดพ้นความยากจน นั่นทำให้ประเทศไทยไม่สามารถหลุดพ้นจากประเทศที่มีรายได้ปานกลางมายาวนานหลายทศวรรษ
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยถึงโครงการที่เข้าไปเติมเงิน 10,000 บาท เฟส 2 ว่าจะพิจารณาคัดเลือกกลุ่มคนที่จำเป็น ซึ่งเป็นกลุ่มผู้สูงวัย มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ที่มีจำนวน 3-4 ล้านคน เป็นผู้สูงอายุที่เป็นกลุ่มเปราะบางแต่ไม่นับกลุ่มผู้สูงอายุทุกคน เฉพาะผู้ที่มีความจำเป็นได้เป็นผู้สูงอายุที่ลงทะเบียนผ่านแอปทางรัฐ หลังจากมีการตรวจสอบสิทธิครบถ้วน
รัฐบาลยังเชื่อว่า โครงการดังกล่าวจะต้องขับเคลื่อนต่อเนื่อง เพราะที่ผ่านมามีผลลัพธ์ที่ดี ประเมินจากตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรก ปีนี้หลังแจกเงิน กลุ่มเปราะบาง 14.5 ล้านราย มีตัวเลขทางเศรษฐกิจที่น่าสนใจ เพราะหลังจากคนกลุ่มนี้รับเงินกลุ่มคนเหล่านี้ก็มีแนวโน้มการใช้จ่ายสูง ทำให้ตัวเลขจีดีพีในไตรมาส 4/2567 คาดว่าจะเติบโตอยู่ที่ 4.3 - 4.4% ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่เติบโตค่อนข้างสูง เป็นผลมาจากหลายปัจจัย แต่หนึ่งในสิ่งสำคัญมาจากการกระจายเม็ดเงิน 10,000 บาทของรัฐบาล
ตืดตามอ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ลิงก์
โฆษณา