Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
หนูนิ
•
ติดตาม
21 พ.ย. เวลา 15:23 • นิยาย เรื่องสั้น
รักย้อนอดีตภาค5 ภัยร้ายจากดาวหางฮัลเลย์
.
บทที่ 10 เขียนไปบ่นไป
.
ฮ่องกงมีพื้นที่เพียงประมาณ 81 ตารางกิโลเมตร ส่วนประเทศไทยมีพื้นที่ประมาณ 514,000 ตารางกิโลเมตร แต่...เชื่อหรือไม่ ฮ่องกงสามารถสร้างหนังได้ปีละหลายร้อยเรื่อง
.
หนังเรื่องเดียวกันสร้างได้หลายสิบครั้งโดยไม่ซ้ำบท เป็นความมหัศจรรย์ใจของข้าพเจ้ามาตั้งแต่เด็ก
นี่คือเหตุผลของการเขียนภาค5ใหม่ เนื้อเรื่องเดิม เริ่มต้นเหมือนเดิม อ้อดัดแปลงนิดหน่อย ตอนจบเหมือนเดิม ตอนกลางเรื่องเขียนใหม่
.
แต่มีสิ่งหนึ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือการปะติดปะต่อมาจากเรื่องราวของหนังบ้าง นิยาย
ที่ชื่นชอบบ้าง รวมทั้งยังหวังให้ท่านผู้อ่านบางท่านที่มีอายุน้อย..น้อยกว่าข้าฯได้รับความบันเทิงกับเรื่องในอดีตด้วย
.
และเนื่องจากข้าฯได้เตรียมเขียนภาค6ไว้ ไหนๆก็คิดพล็อตภาค5ไม่ออกว่าจะเขียนใหม่แนวไหน ก็ถือโอกาสรวมภาค6เข้าไปด้วย แล้วจึงไปจบในภาค5 เป็นการจบบริบูรณ์ อิ่มมาก ๆ ค่ะ เขียนมา6ภาคน่าจะหมดมุขได้แล้ว
.
ภาค6จะเป็นการชุมนุมของปีศาจ-อสุรกายที่มีชื่อเสียงของโลกเฉพาะที่ข้าฯรู้จัก รวมทั้งการผจญภัยบางเหตุการณ์ที่น่าสนใจ เริ่มจากนี่เลย...มัมมี่คืนชีพ
.
เป็นที่เชื่อกันว่าความตายเป็นเพียงประตูสู่ชีวิตใหม่ วันนี้มีชีวิต วันหน้าก็ต้องมีชีวิตด้วยคัมภีร์แห่งโธธ ซึ่งเป็นคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์ของอียิปต์ อีกทั้งอดีตมิอาจฝังลืมได้
.
ในปี 1921 คณะสำรวจทางโบราณคดีที่นำโดยเซอร์Joseph ได้ขุดพบมัมมี่ของมหาปุโรหิตชาวอียิปต์โบราณที่มีชื่อว่าImhotep ได้จากนครมรณะที่อยู่ใต้ดิน
.
การตรวจสอบพบว่าอวัยวะภายในของมัมมี่ไม่ได้ถูกเอาออก และจากสัญญาณของการดิ้นรน จึงอนุมานได้ว่าImhotepเป็นมัมมี่ที่ถูกฝังทั้งเป็น เนื่องจากการทำความ
ผิดขั้นร้ายแรง
.
จากวิกิพีเดีย........การทำมัมมี่ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญอย่างหนึ่งของอารยธรรมอียิปต์ โดยจะเริ่มจากการนำอวัยวะภายในของศพออกมา และนำเนื้อสมองออกด้วยการตี
ให้กลายเป็นของเหลว
จากนั้นจะดองศพด้วยการพอกเกลือให้แห้งเป็นเวลาหลายวัน แล้วเคลือบร่างด้วยน้ำยาอาบศพเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ก่อนพันด้วยผ้าลินินและบรรจุในโลงต่อไป
.
ใกล้โลงศพของImhotepมีกล่องเล็กๆใบหนึ่งและมีคำสาปเขียนไว้ แม้เซอร์JosephจะเตือนNorton ผู้ช่วยของเขาว่าอย่าไปเปิดกล่องใบนั้น แต่Nortonก็
เปิดมันจนได้และพบม้วนกระดาษโบราณซึ่งก็คือ "คัมภีร์ของโธธ"
.
Nortonแปลสัญลักษณ์แล้วอ่านออกเสียง ส่งผลให้Imhotepซึ่งอยู่ในโลงที่เปิดฝาไว้ฟื้นคืนชีพขึ้นมา ซึ่งทำให้Nortonสติแตกเป็นบ้าแล้วเขาก็ส่งเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่Imhotepหยิบม้วนคัมภีร์ของโธธแล้วจากไป Nortonตายโดยหัวเราะไม่หยุด
10ปีต่อมาImhotepปลอมตัวเป็นชาวอียิปต์สมัยใหม่ชื่อArdath Bey เดินทางมาพบFrankบุตรชายของเซอร์Joseph และ แสนสุริยา ผู้ร่วมงาน ทั้งคู่เป็นนักโบราณคดีโดยมีพันเป็นผู้ช่วย และ กำลังอยู่ระหว่างค้นหามัมมี่เจ้าหญิง
.
Beyได้ชี้จุดขุดหาหลุมศพของ Princess Anck-es-en-Amon (คนไทยรู้จักในชื่อ อานัคซูนามุน) เขาได้นำตัวอย่างของใช้ซึ่งเคยเป็นของเธอมาให้ดูด้วย
.
นักโบราณคดีทั้ง2จึงสั่งคนงานขุดหา ทำให้สามารถพบหลุมศพของเจ้าหญิงได้จริงๆ ทั้ง2จึงมอบมัมมี่เจ้าหญิงและสมบัติต่างๆที่พบให้กับพิพิธภัณฑ์ไคโร ส่วนBeyหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย
.
ต่อมาBeyก็ไปพบFrankที่พิพิธภัณฑ์ไคโร แล้วทำทีว่ากลับแต่กลับซ่อนตัวในที่นั้น เฝ้ามองมัมมี่Princess Anck-es-en-Amon หญิงที่รักด้วยความมุ่งมั่นที่จะคืนชีพให้เธอเช่นที่เขาเป็นอยู่
.
และด้วยพลังเวทมนต์ของเขา Beyเห็นHelen หญิงสาวชาวอเมริกันที่มีแม่เป็นคนอียิปต์ เธออยู่ในงานเลี้ยงและกำลังเต้นรำกับสุภาพบุรุษท่านหนึ่ง
.
เพราะHelenมีหน้าตาเหมือนกับเจ้าหญิงAnck-es-en-Amon ราวคนเดียวกัน Bey
จึงใช้พลังเวทมนต์เรียกเธอไปพบที่พิพิธภัณฑ์ไคโรในคืนนั้น
.
บังเอิญFrankและเซอร์Josephผู้เป็นพ่อกำลังจะกลับจึงพบHelenเดินเหม่อลอยและเป็นลมหมดสติ Frankหลงรักเธอทันทีที่เห็น จึงช่วยเธอไว้โดยพากลับบ้านพักของเขา
.
ทางด้านBeyถูกพบเห็นโดยยามจึงฆ่ายามตายและลืมคัมภีร์ของโธธไว้ เมื่อเซอร์Josephทราบข่าวการตายของยามจากตำรวจจึงรีบไปสถานที่เกิดเหตุ
.
ตำรวจไม่พบหลักฐานใดๆนอกจากม้วนกระดาษเก่าๆจึงส่งให้เซอร์Joseph คัมภีร์
ของโธธจึงกลับมาสู่เซอร์Josephอีกครั้ง
ขณะเดียวกันBeyก็มาที่บ้านของFrankเพื่อสะกดจิตคนรับใช้ชาวนูเบียนให้เป็นทาสของเขา เมื่อBeyเข้าไปที่ห้องรับแขกก็พบHelenนอนอยู่ เขาจึงเพ่งมองเธอ ซึ่งในสายตาเขา เธอคือเจ้าหญิงAnck-es-en-Amon
.
เซอร์JosephและFrankพบว่าHelenอยู่กับBey 2พ่อลูกแปลกใจที่Helenดูเชื่อฟังBeyและไม่เป็นตัวของตัวเอง Frankเห็นหญิงสาวอาการดีขึ้นจึงส่งเธอกลับที่พัก Beyก็ถือโอกาสกลับไปด้วย
.
เซอร์Josephมั่นใจว่าBeyเป็นมัมมี่Imhotepที่คืนชีพ จึงพยายามเผาคัมภีร์ของโธธเพื่อกำจัดImhotepที่ปลอมตัวเป็นBey แต่Beyเห็นเหตุการณ์จากอ่างศักดิ์สิทธิ์ จึง
ใช้พลังเวทย์มนต์ฆ่าเซอร์Josephตาย
.
แล้วสั่งนูเบียนทางกระแสจิตให้นำม้วนหนังสืออื่นเผาแทน ส่วนของจริงนำมาให้เขาที่บ้าน ตั้งแต่วินาทีนั้นคนรับใช้ก็เป็นทาสรับใช้ของBeyอย่างเต็มตัว
.
แสนสุริยาและพันไปที่บ้านของFrankทันทีที่ทราบข่าวการเสียชีวิตของเซอร์Joseph แสนพบส่วนหนึ่งของคัมภีร์ที่ถูกเผาไม่หมดในเตาผิงว่าไม่ใช่คัมภีร์ของโธธ ทุกคนเริ่มสงสัยในตัวBey
.
ในขณะเดียวกันBeyได้ใช้พลังเวทย์ให้Helenมาหาเขาที่บ้าน เธอนำสุนัขไปด้วยแต่ปล่อยไว้กับคนรับใช้นูเบียน เพราะBeyมีแมวอยู่ในห้องด้วย Beyใช้พลังเวทย์เผยให้เห็นภาพนิมิตของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีตเมื่อหลายพันปีก่อน
.
ภาพการเสียชีวิตของเจ้าหญิงAnck-es-en-Amon พระธิดาของฟาโรท์ หญิงที่หน้าเหมือนHelenและเป็นสุดที่รักของImhotep เธอถูกทำเป็นมัมมี่ แต่Imhotepซึ่งเป็นมหาปุโรหิตได้ลอบเข้าไปที่สุสานเพื่อขโมยคัมภีร์ของโธธที่อยู่ใต้แท่นเทพีIsis
.
การฟื้นคืนชีพของเจ้าหญิงมีความจำเป็นต้องใช้คัมภีร์นี้ ทว่าImhotepถูกจับได้ ฟาโรท์ทรงพิโรธเพราะถือว่าเป็นการดูหมิ่นศาสนาต้องรับโทษหนักที่สุดซึ่งไม่เคย
มีมาก่อน
.
นั่นคือการถูกทำให้เป็นมัมมี่โดยที่ยังไม่ตายและไม่ได้ถูกแทงจากกริชสำหรับทำพิธี อวัยวะภายในไม่ได้ถูกนำออกมา Imhotepพยายามดิ้นรนขณะที่ถูกพันผ้าให้เป็นมัมมี่และถูกฝังทั้งเป็น เขายังได้รับความทรมานจากแมลงกินเนื้อที่ถูกใส่เข้าไปในโลงด้วย
.
Helenได้ยินเสียงสุนัขของเธอร้องอย่างโหยหวนจึงได้สติ เธอจึงรีบกลับเพราะสุนัขของเธอตายโดยไม่รู้สาเหตุและเริ่มกลัวBey เธอจึงไปพบFrankที่บ้านเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง
.
Frankกอดเธอและสัญญาที่จะดูแลเธอตลอดไป เขาให้เธอพักที่ห้องของเขาแล้วจึงนั่งเฝ้าหน้าห้องเพื่อให้ผ่านคืนนี้ไปก่อน พรุ่งนี้ค่อยจัดการกับBey
ซึ่งBeyได้ใช้เวทย์มนต์เพื่อฆ่าFrankเหมือนทำกับเซอร์Josephผู้เป็นบิดา Frankพยายามขัดขืนแต่เขาก็หมดสติ เพราะHelenที่ถูกBeyใช้มนต์สะกดสั่งให้ทำร้ายFrank แล้วเรียกตัวเธอไปหาเขา
.
แสนสุริยาและพันมาพบFrankที่หมดสติและHelenหายไป จึงรู้ได้ทันทีว่าเกิดเหตุร้ายขึ้นกับเธอ ทั้ง3รีบติดตามไปช่วยเธอที่พิพิธภัณฑ์ไคโร พวกเขาพบศพ
ทาสชาวนูเบียน ส่วนมัมมี่ของเจ้าหญิง Ankh-es-en-amon ถูกเผาทำลาย
.
นครมรณะที่อยู่ใต้ดินจุดที่พบมัมมี่Imhotep คือที่ที่Beyจะกลับไป ที่นั่นเขามีพลังเต็มเปี่ยม พลังที่จะสั่งให้สมุนบริวารมาจัดการกับผู้ติดตาม
.
รวมทั้งทำพิธีชุบชีวิตของคนรักในห้องพิธี ด้วยการใช้กริชทำมัมมี่แทงHelen เมื่อHelenตาย Beyก็ชุบชีวิตเธอขึ้นมาใหม่
คราวนี้เธอไม่ใช่Helenอีกต่อไป แต่คือเจ้าหญิงAnck-es-en-Amon แล้วครองคู่
กันกับBeyชั่วฟ้าดินดับ
.
การเดินทางไปสู่นครมรณะที่อยู่กลางทะเลทรายอาห์มเชียร์ พวกเขาต้องผจญกับด่านมรณะของBeyไม่ว่าจะเป็น >>>พายุทรายที่เป็นปากมัมมี่ขนาดยักษ์กลืนเครื่องบิน ทำให้เฮลิคอปเตอร์ที่นั่งไปต้องลงฉุกเฉิน จากนั้นทั้ง3จึงเดินเท้าต่อและผจญกับ
.
>>>มัมมี่แคระนับสิบ พันจัดการกับพวกมันด้วยดาบเลเซอร์ ฝอยกลายเป็นปืนไฟให้แสนสุริยาจัดการ ส่วนFrankใช้ปืนของเขายิงหัวมัมมี่นักบวชบริวารของImhotep ซึ่งโผล่ออกมาจากพื้นดินทีละหัว
.
เมื่อผ่านด่านมาแล้วก็เข้าสู่นครมรณะ เมืองแห่งนี้มีลักษณะเป็นถ้ำขนาดใหญ่ เส้นทางสู่ห้องทำมัมมี่แม้จะซับซ้อน แต่....ฝอยเสียอย่างเรื่องที่ว่ายากของคนอื่น สำหรับฝอยแล้ว..หมูมาก
.
อย่าลืมว่าฝอยคือGPS(Global Positioning System) สามารถรับคลื่นและแปรรหัสจากดาวเทียมเพื่อนำมาประมวลผลให้เหมาะสมกับการใช้งานในรูปแบบต่างๆ ดังนั้นการระบุตำแหน่งบนพื้นโลกจึงไม่ใช่เรื่องยาก
.
จากปากทางเข้าพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับแมลงปีกแข็งซึ่งเป็นแมลงกินเนื้อนับไม่ถ้วนตัว ฝอยจึงกลายร่างเป็นปืนไฟอีกครั้งเพื่อทำลายล้างกองทัพแมลงเหล่านี้ให้สิ้นซาก
.
จากนั้นจึงปะทะกับผู้พิทักษ์ซึ่งเป็นมัมมี่นักรบในชุดเกราะสวมหมวกเหล็ก5ตน พันจะเป็นคนต้านผู้พิทักษ์มัมมี่เหล่านี้ ส่วนแสนสุริยาและFrankรีบไปช่วยHelen
.
พันใช้ดาบเลเซอร์ต่อสู้กับมัมมี่ผู้พิทักษ์อย่างดุเดือด แน่นอนว่าวิธีการต่อสู้เมื่อหลายพันปีก่อนไม่มีทางสู้การรบสมัยใหม่ได้ อีกทั้งดาบเลเซอร์ยังฟันทุกสิ่งขาดกระจุย ในไม่ช้าผู้พิทักษ์ก็กลายเป็นชิ้นส่วนเหล็กกองกับพื้น แล้วพันก็วิ่งด้วยความเร็วไปที่...
.
ห้องทำมัมมี่ที่Helenถูกมัดไว้กับเตียง Imhotepกำลังจะแทงเธอด้วยกริชทำมัมมี่ พันจึงพุ่งตัวไปพร้อมด้วยดาบปัดกริชกระเด็น แล้วใช้ดาบฟาดฟันจอมอสูรไม่เปิดโอกาสให้มันใช้เวทมนต์
.
Frankรีบไปช่วยHelen แสนสุริยาเผาม้วนคัมภีร์ของโธธจนลุกเป็นไฟ สิ่งนี้ทำลายมนต์ที่ทำให้Imhotepเป็นอมตะ เขาแก่ตัวลงอย่างรวดเร็วและจากนั้นก็สลายเป็นผุยผง
.
แล้วทุกคนก็รีบหนีออกมาจากถ้ำแห่งนั้นทันที ไม่มีสิ่งใดที่เป็นบริวารของจอมอสูรมาขัดขวางอีกแล้ว
ในขณะที่ม้วนคัมภีร์ของโธธยังคงมอดไหม้ต่อไปและทำให้นครมรณะพังทลายไปสิ้น ส่งผลให้ฝุ่นทรายของความพินาศสูงขึ้นมาเทียมเมฆ
.
จบตอน 3 ภาพปกจากทันโลก พีระมิดเบ็นเบ็น(Benben Pyramid) พีระมิดที่สร้างจากหินสีดำ แต่ไม่ใช่หินธรรมดาเนื่องจากส่วนประกอบของมันไม่พบบนโลก
.
หินเบนเบน เป็นวัตถุที่พบในตำนานอียิปต์โบราณ และ ทฤษฎีบางทฤษฎีเชื่อว่าหินเบนเบนอาจมีต้นกำเนิดมาจากนอกโลก
จึงมีการค้นหาหินก้อนนี้ซึ่งเชื่อกันว่า สามารถให้แสงสว่างและสามารถสร้างพลังลึกลับได้
.
หมายเหตุ!
.
1. เจ้าหญิงAnck-es-en-Amon' ชายาคนเดียวของฟาโรห์ตุตันคามุน แท้จริงแล้วร่างของเธอไม่ได้รับการค้นพบในหลุมฝังศพของกษัตริย์ และสถานที่พำนักของเธอ
ก็ไม่เป็นที่รู้จัก
สรุปชื่อของเธอรวมทั้งอิมโฮเทปด้วย ไม่เป็นที่รู้จักของสาธารณชน(มาเป็นที่รู้จักเอาตอนมัมมี่ที่แบรนดอน เฟเซอร์ แสดง)
.
2. คัมภีร์ของโธธที่ชุบชีวิตมัมมี่เป็นเรื่องแต่ง
.
3. ไม่มีหลักฐานที่บ่งชี้ว่าชาวอียิปต์โบราณเชื่อถึงความเป็นไปได้ที่มัมมี่จะฟื้นคืนชีพ มัมมี่เป็นกระบวนการศักดิ์สิทธิ์ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเตรียมศพนำดวงวิญญาณไปตลอดชีวิตหลังความตาย ไม่ใช่เพื่อการกลับชาติมาเกิดและมีชีวิตอีกครั้งบนโลก
.
4. โอเอซิสแห่งอาห์มเชียร์เป็นโอเอซิสขนาดใหญ่ในทะเลทรายแห่งหนึ่งในอียิปต์ ซึ่งครั้งหนึ่งเคยถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ และมีชื่อเสียงในด้านความลึกลับที่ซ่อนเร้นจากโลกภายนอก
.
5. แรงบันดาลใจจาก The Mummy 1932 นำแสดงโดย บอริส คารอฟ ราชาหนังฝี
ที่โด่งดังที่สุดของโลกภาพยนตร์, The Mummy 1999 และ The Mummy Return 2001 แถมด้วย The Mummy 2017
1 บันทึก
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย