21 พ.ย. 2024 เวลา 16:06 • หุ้น & เศรษฐกิจ

หุ้น $NVDA

นอกจากคริปโต และ หุ้น NVDA ที่ปีนี้ทำสติ All High ไปแล้ว อีกอย่างที่ราคาพุ่งในปีนี้ คือ โกโก้และช็อคโกแลต ที่ราคาสูงกว่าปีที่แล้ว 2-3 เท่านั้นจนคนทำขนมต้องกรีดร้องกันทั้งประเทศ
ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนเลยว่าช็อคโกแลตที่เรากินขนมหรือเครื่องดื่ม เป็นผลผลิตมาจากที่แปรรูปมาจากผล Cococa ซึ่งผลผลิตโกโก้ที่ผลิตได้บนโลกนี้ ประมาณ 60-70% ปลูกอยู่แทบแอฟริกาตะวันตก ซึ่งหลัก ๆ มีสองประเทศ คือ Ivory Coast และ Ghana
ส่วนที่เหลือก็กระจายไปทั่วโลก เช่น เอกวาดอร์ อินโด หรือที่บ้านเราเริ่มปลูกเยอะขึ้นอย่างรูปแบบเกษตรกรที่่ปลูกโกโก้ในอินโดนิเซีย
ส่วนสาเหตุหลักคือ ปีนี้ผลผลิตไม่พอต่อการบริโภค ที่ปีนี้เกิดการผลิตไม่พอเนื่องจาก Lvory Coast และ Ghana เก็บเกี่ยวผลผลิตได้น้อย เป็นผลอันเนื่องมาจากโลกที่ร้อนจนเกิดภัยแล้ง และโรคพืช แต่รากของปัญหานี้มันลึกลงไปกว่านั้นอีกมาก นั้นคือโครงสร้างของรายได้เกษตรกร
ถึงแม้ว่าราคาโกโก้จะสูงขึ้นมาก แต่เงินเข้ากระเป๋าเกษตรกรนั้นไม่ได้สูงตาม และพื้นฐานของเกษตรกรในแอฟริกาที่ยากจนอยู่แล้ว โครงสร้างก็ไม่ได้แข็งแรง ทำให้ไม่มีรายได้มากพอจะลงทุน พัฒนาอุตสาหกรรม
และต้นโกโก้ที่ยิ่งแก่ยิ่งลง ผลผลิตจะน้อยลงเรื่อยๆ แต่พอไม่ได้มีการลงทุนเพิ่มอย่างเป็นระบบ ผสมกับเจอโลกร้อน ทำให้ไม่มีเงินซื้อยามาสู้กับโรคพืช ในขณะที่ภาพรวมทั้งโลกมีการบริโภคโกโก้และช็อคโกแลตมากขึ้นทุกปี และมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงขึ้น
เพราะโกโก้เป็น Commodity ที่มีตลาดซื้อขายสัญญาการส่งมอบผลผลิตกันอย่างจริงจัง คนกลางอย่าง Financial markets ตรงนี้แหละที่ได้ประโยชน์ และมีผลต่อการกำหนดราคามากกว่าเกษตรกรที่ปลูก ช่วงพีคๆ ราคาของโกโก้ขึ้นไป 4 เท่าของปีก่อนๆ
ถึงตอนนี้ราคาจะเบาลงมาจุดพีคบ้างแล้วเพราะเอลนินโญ่เริ่มสงบลง คาดว่าผลผลิตน่าจะดีขึ้น แต่ภาพรวมของโกโก้ก็จะแพงขึ้นต่อไปอีก เพราะรากของปัญหามันเป็นเรื่องของโครงสร้างที่ต้องแก้กันยาว ๆ
และบริษัทยักษ์ใหญ่ของ Mondelez หรือ Nestle เป็นผู้ซื้อโกโก้มหาศาลต่อปีก็รู้ถึงปัญหานี้ ได้ทำการลงทุน Sustainability กับเกษตรกรที่ปลูกโกโก้กันอย่างจริงจังมาเป็น 10 ปี เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตของคนปลูก
โฆษณา