Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Wealthy Thai
•
ติดตาม
6 ชั่วโมงที่แล้ว • หุ้น & เศรษฐกิจ
5 หุ้นไทยเทรดมากที่สุด นักวิเคราะห์ต่างชาติแนะ “ซื้อทันที”
การลดดอกเบี้ยของแบงก์ชาติ ข่าวมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และตัวเลข GDP ไตรมาส 3/67 ของไทยที่ออกมาดีเกินคาด ก็ทำให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยในบทความนี้ Wealthy Thai ได้รวบรวม 5 หุ้นไทย ที่แพล็ตฟอร์มต่างชาติมองว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจ โดยคัดจากหุ้นที่มีปริมาณการซื้อขาย (trading volume) มากที่สุดและมีคำแนะนำ “ซื้อทันที” หรือ “strong buy” จากนักวิเคราะห์บนแพลตฟอร์ม TradingView
1.ADVANC
บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของไทย และเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือที่ใหญ่ที่สุดของประเทศตามจำนวนผู้ใช้งาน โดย market cap ของบริษัท ณ ปัจจุบันอยู่ที่ 850,620 ล้านบาท ส่วนปริมาณการซื้อขายตามราคาหุ้นในปัจจุบัน (trading volume by price) อยู่ที่ 663.1 ล้านบาท
ด้านกำไรสุทธิในไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 8,788 ล้านบาท เติบโตขึ้น 7.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยในระยะต่อไป ธุรกิจของ ADVANC มีโอกาสได้แรงหนุนจากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวต่างชาติและยอดขาย iPhone16 และมุมมองเชิงบวกของตลาดต่อธุรกิจ Data center และ บริการคลาวด์
2.BDMS
บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน) หรือ BDMS เป็นผู้ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศไทยที่มีกลุ่มโรงพยาบาลชื่อดังในเครือกว่า 6 กลุ่ม ที่ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆทั่วประเทศไทยตลอดไปจนประเทศกัมพูชา ในปัจจุบันบริษัทมี market cap ที่ 429,080 ล้านบาท และมี trading volume by price ที่ 419 ล้านบาท ในส่วนของผลการดำเนินงานล่าสุดในไตรมาส 3/67 กำไรสุทธิของบริษัทอยู่ที่ 4,246 ล้านบาท เติบโต 9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนหน้า
โดยในระยะต่อไปบริษัทยังมีความแข็งแกร่งจากการทำธุรกิจด้านสุขภาพที่เป็นที่ต้องการสูงไม่ว่าเศรษฐกิจจะเป็นเช่นไร และยังมีแนวโน้มที่ดีจากการฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยวทั่วโลกท่ามกลางดอกเบี้ยขาลง ที่อาจทำให้มีชาวต่างชาติที่เดินทางมาไทยเพื่อใช้บริการด้านสุขภาพ (medical tourism) มากขึ้น
3.MINT
บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT เป็นหนึ่งในผู้ประกอบธุรกิจพักผ่อนและร้านอาหารที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค ในปัจจุบันบริษัทมี market cap ที่ 135,380 ล้านบาท และมี trading volume by price ที่ 404.9 ล้านบาท โดยในไตรมาส 3/67 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,636 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16% จากไตรมาส 3/66 ทั้งนี้ MINT ก็เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่จะได้อานิสงส์จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการลดอัตราดอกเบี้ยทั่วโลก
4.CPALL
บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทค้าปลีกของไทยที่มีแข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางทั่วโลกจากการเป็นเจ้าของ 7-Eleven โดยบริษัทมี market cap ที่ 568,180 ล้านบาท และมี trading volume by price อยู่ที่ 298.4 ล้านบาท ในไตรมาส 3/67 CPALL ทำกำไรสุทธิได้ 5,600 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันปีที่แล้ว
ซึ่งในช่วงข้างหน้า บริษัทก็มีโอกาสรับผลดีจากภาคการบริโภคทั่วโลกที่เร่งตัวในช่วงดอกเบี้ยขาลง นอกจากนี้ การใช้จ่ายในประเทศไทยก็มีโอกาสขยายตัวจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐฯ และการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวด้วย
5.PTTEP
บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP เป็นหนึ่งในผู้นำด้านพลังงานในไทย โดยมีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด (market cap) ในปัจจุบันอยู่ที่ 490,290 ล้านบาท มี trading volume by price อยู่ที่ 293 ล้านบาท และล่าสุดในไตรมาส 3/67 บริษัททำกำไรได้มากกว่า 17,000 ล้านบาท ส่วนในอนาคตบริษัทมีโอกาสได้รับผลดีจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มขยายตัวท่ามกลางมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐฯ และการลดดอกเบี้ยทั้งในไทยและต่างประเทศ
เศรษฐกิจ
การลงทุน
หุ้น
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย