22 พ.ย. เวลา 03:20 • ความคิดเห็น
เจ้าของกระทู้ให้ช้อยส์มาเพียง 3 ข้อ คือ 1 .ทำงานไปวันๆ 2. อยากพัฒนาความก้าวหน้าของตนเอง และ 3.ช่วยองค์กรให้เติบโต เราก็ได้ประโยชน์ไปด้วย ซึ่งหากคุณทำงานเป็น HR เราขออนุญาตคอมเม้น์ตรงไปตรงมาว่า คำตอบเหล่านี้อยู่ในกรอบมากๆ
เรื่องจริงก็คือ พวกเราทำงานเพื่อเลี้ยงชีพค่ะ เรื่องจริงมากไปกว่านั้นก็คือ พวกเราทำงานเพื่อหาเงินมาใช้จ่าย พวกเรามักไม่กล้าพูดความจริง เพราะพวกราถูกกดโดยระบบของสังคมโลก ที่อยู่ได้ด้วยทรัพย์สินและเงินตรา ชื่อเสียง การยอมรับ บ้าน รถ ที่ดิน และการท่องเที่ยวพักผ่อน
ผู้ที่บอกว่าทำงานไปวันๆ มักจะเกิดจากความเบื่อหน่าย ความท้อแท้ใจ และไม่มีทางเลือกในการทำงานมากนัก หรืออยู่ในสภาวะหมดไฟในการทำงาน แต่สิ่งเหล่านี้ทำให้พวกเขาต้องทนฝืน เพราะมันคือแหล่งรายได้
ผู้ที่บอกว่า อยากพัฒนาความก้าวหน้าของตนเอง มักเป็นผู้ที่ยังคงมีไฟในการทำงาน ใจร้อน และอยากก้าวหน้าในตำแหน่งหน้าที่การงาน ทะเยอทะยาน อยากได้รับการยอมรับอย่างสูง และพวกเขารู้ดีว่า สิ่งเหล่านี้จะมาพร้อมกับรายได้ที่เพิ่มขึ้น
ผู้ที่บอกว่า อยากช่วยให้องค์กรเติบโต เราก็จะได้ประโยชน์ไปด้วย แต่สิ่งที่พวกนี้ ไม่เคยได้ตระหนักก็คือ องค์กรจะเติบโตได้ เกิดจากทีมงานทั้งระบบ ไม่ใช่ใครคนใดคนหนึ่งที่จะทำให้มันเติบโต ไม่ใช่แค่ประธานบริษัท หรือเจ้าของ หรือผู้บริหาร เพราะหากเป็นอย่างนั้นจริง องค์กรนี้ถือว่าบริหารได้ห่วยแตกมาก ขาดคนไปคนหนึ่ง ถึงกับเติบโตไม่ได้เลบทีเดียว
ทฤษฎีลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์
ยังคงเป็นทฤษฎีที่ถูกใช้อย่างกว้างขวาง
แต่คำสอนของพระพุทธเจ้าคือกฎที่ไม่มีวันตาย
สรรพสิ่งเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ทนแรงบีบค้ันไม่ได้
แล้วที่สุดก็จะต้องดับไปไม่เหลือเลย
ความอดทน และการวางเฉย จึงเป็นสุดยอดวิทยายุทธ
โฆษณา