8 ชั่วโมงที่แล้ว • หุ้น & เศรษฐกิจ

Premature optimization is the root of all evil ตอนที่ 2

ในตอนที่แล้ว ผมเล่าเกริ่นนำให้ฟังว่า ในยุคสมัยของ Craig ความกังวลหลักของทีม คือ กลัว AMD ตามทันมากๆ และก้าวพลาดไปตอนออกชิป Itanium
พอ Paul Otellini มารับตำแหน่งแทน Craig ก็ได้รับแรงกดดันนั้นมาเช่นกัน แต่ในปี 2005 ที่เขาเข้ามารับตำแหน่ง ก็มีการตัดสินใจครั้งแรกที่ทีมทำผิดพลาด Paul ซึ่งเป็น CEO คนแรกที่ไม่ได้เป็น engineer ได้เห็นศักยภาพของ NVidia ว่าอาจจะเป็นอนาคตของ data center ที่การคำนวณที่ซับซ้อนจะทำผ่าน GPU ที่ฝั่ง server เขาจึงนำเสนอโครงการที่จะซื้อ NVidia ที่ราคา 20 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่คณะกรรมการกลับไม่เห็นด้วย เพราะ Intel มี track record ในการรวมกิจการกับบริษัทอื่นที่ซื้อมาได้แย่มาก แถมถ้าซื้อมา
มันจะเป็นการซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Intel อีกด้วย ทางคณะกรรมการจึงคิดว่ามันเสี่ยงเกินไป เมื่อเทียบกับขนาดตลาด GPU ที่ยังเล็กอยู่ในเวลานั้น และคิดว่า Intel ควรเอาเวลาไปโฟกัสกับธุรกิจ CPU เอาให้ชนะ AMD ให้ได้ดีกว่า จึงพลาดโอกาสในการก้าวเข้าสู่ตลาด GPU อย่างน่าเสียดาย
แต่หากซื้อมา อาจจะแย่อย่างที่คณะกรรมการคิดก็ได้ เพราะ AMD ตัดสินใจเข้าซื้อกิจการของ ATI ผู้เล่นในตลาด GPU อีกรายหนึ่งในปี 2006 ด้วยราคาสูงกว่า 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถูกนักวิเคราะห์บางคนบอกว่า มันเป็นสาเหตุที่ทำให้ AMD แพ้ในเวลาต่อมา
และในปี 2006 Intel ก็เพลี้ยงพล้ำหนักขึ้น AMD ได้ส่วนแบ่งในตลาด desktop PC สูงขึ้นเรื่อยๆ จน AMD เริ่มได้ใจ ส่วน Intel ก็ต้องตัดสินใจลดพนักงานกว่า 10% เป็นการ layoff ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Intel เลยทีเดียว
แต่ในปี 2007 Intel ผู้ที่มีโรงงานผลิตชิปเป็นของตัวเอง จึงหันมาใช้จุดแข็งนี้ให้เป็นประโยชน์ ทางทีมวิศวกรจึงเริ่มคิดว่าการทำงานแบบเดิมที่พยายามพัฒนาเทคโนโลยีในการผลิตไปพร้อมกับการเปลี่ยนสถาปัตยกรรมมันเป็นความเสี่ยงเกินไป
ทางทีมวิศวกรจึงคิดค้น tick tock model ที่ในปี tick Intel จะออกชิปใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีในการผลิตใหม่ที่ทำให้ชิปมีขนาดเล็กลง ใช้พลังงานน้อยลง และสามารถทำงานได้ที่ clock ความเร็วสูงขึ้น ส่วนในปี tock ก็จะใช้เทคโนโลยีในการผลิตเดิม แต่จะเปลี่ยนสถาปัตยกรรมใหม่ เพื่อเพิ่มชุดคำสั่ง เพิ่มความสามารถใหม่ๆ เป็นต้น การทำแบบนี้เลยกลายเป็นเหมือนการทำงานของนาฬิกาลูกตุ้ม เดินหน้าพัฒนาอย่างรวดเร็ว จน Intel เริ่มสามารถช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดกลับมาได้
แต่การโฟกัสแต่กับการแข่งกับ AMD นี่แหล่ะ กำลังจะนำมาสู่การพลาดอีกครั้งของ Intel
ไว้รออ่านต่อตอนที่ 3
โฆษณา