Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Physioupskill
•
ติดตาม
เมื่อวาน เวลา 11:00 • การศึกษา
## Episode 95: Kinesiology of the Wrist Complex #7 - Osteokinematics of wrist motion ##
ข้อมือเป็นโครงสร้างที่มีข้อต่อหลายๆข้อที่ทำงานประสานกัน ทำให้เราสามารถเคลื่อนไหวมือได้อย่างคล่องแคล่วและมีประสิทธิภาพ วันนี้ผมจะมาอธิบายเกี่ยวกับ osteokinematics หรือการเคลื่อนไหวของข้อมือในภาพรวมกันครับ
เราสามารถแบ่งการเคลื่อนไหวของข้อมือออกเป็น 2 planes หลักๆ คือ sagittal plane และ frontal plane ครับ
ใน sagittal plane เรามีการเคลื่อนไหว 2 ทิศทางคือ flexion และ extension
- Flexion หรือที่เรียกว่า palmar flexion คือการงอข้อมือ ทำให้ฝ่ามือเข้าหาด้านหน้าของแขนท่อนล่าง
- Extension คือการเหยียดข้อมือ ทำให้หลังมือเข้าใกล้ด้านหลังของแขนท่อนล่าง
ส่วนใน frontal plane เรามีการเคลื่อนไหว 2 ทิศทางเช่นกัน คือ radial deviation และ ulnar deviation
- Radial deviation คือการเบนข้อมือไปทางด้าน radius หรือด้านนิ้วหัวแม่มือ
- Ulnar deviation คือการเบนข้อมือไปทางด้าน ulna หรือด้านนิ้วก้อย
นอกจากนี้ ข้อมือยังสามารถทำการเคลื่อนไหวแบบผสมผสานที่เราเรียกว่า circumduction ได้อีกด้วย ซึ่งเป็นการเคลื่อนไหวที่ผสมผสานทั้ง flexion, extension, radial deviation และ ulnar deviation เข้าด้วยกัน ทำให้ปลายนิ้วเคลื่อนที่เป็นวงกลมครับ
ช่วงการเคลื่อนไหว (Range of Motion, ROM) ของข้อมือในแต่ละทิศทางนั้นมีความน่าสนใจครับ โดยทั่วไปเราจะพบว่า flexion มีช่วงการเคลื่อนไหวมากที่สุด ประมาณ 75-85° รองลงมาคือ extension ประมาณ 60-75° ส่วน ulnar deviation จะมีช่วงประมาณ 35-40° และ radial deviation จะน้อยที่สุด ประมาณ 15-20°
อย่างไรก็ตาม ค่าเหล่านี้เป็นเพียงค่าเฉลี่ย ในความเป็นจริงแล้ว ROM ของแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปได้มาก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุ เพศ อาชีพ และกิจกรรมที่ทำเป็นประจำ เช่น นักกีฬายิมนาสติกก็อาจมี ROM ของข้อมือมากกว่าคนทั่วไปอย่างมีนัยสำคัญครับ
ที่น่าสนใจคือ การเคลื่อนไหวของข้อมือไม่ได้เกิดขึ้นที่ข้อต่อเดียว แต่เป็นผลรวมของการเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นใน 3 ข้อต่อหลัก ได้แก่
1. Radiocarpal joint: ข้อต่อระหว่าง radius กับ proximal row ของ carpal bones (scaphoid, lunate, triquetrum)
2. Midcarpal joint: ข้อต่อระหว่าง proximal row กับ distal row ของ carpal bones
3. Intercarpal joints: ข้อต่อระหว่าง carpal bones ด้วยกันเอง
สัดส่วนการเคลื่อนไหวระหว่าง radiocarpal joint และ midcarpal joint นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละทิศทาง ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจมาก
ในการทำ flexion นั้นการเคลื่อนไหวจะเกิดขึ้นที่ radiocarpal joint ประมาณ 40% และ midcarpal joint 60% ส่วนใน extension จะเกิดขึ้นที่ radiocarpal joint เด่นกว่าคือประมาณ 65% และ midcarpal joint 35%
สำหรับ radial และ ulnar deviation นั้น สัดส่วนการเคลื่อนไหวจะแตกต่างกันมากขึ้น โดยใน radial deviation การเคลื่อนไหวจะเกิดขึ้นที่ radiocarpal joint เพียง 40% ในขณะที่ midcarpal joint จะขยับถึง 60% ส่วนใน ulnar deviation กลับตรงกันข้าม โดย radiocarpal joint จะเกิดการเคลื่อนไหวมากถึง 70% และ midcarpal joint เพียง 30%
ความแตกต่างนี้มีความสำคัญในทางคลินิกมากครับ เพราะหมายความว่าในการประเมินและรักษาปัญหาข้อมือ เราต้องพิจารณาทั้ง radiocarpal และ midcarpal joint ไม่ใช่มุ่งเน้นแค่ radiocarpal joint เพียงอย่างเดียว
นอกจากนี้ ในระหว่างการเคลื่อนไหวของข้อมือ ยังมีการเคลื่อนไหวของ carpal bones แต่ละชิ้นที่ซับซ้อนมาก ที่เราเรียกว่า carpal kinematics ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากต่อการทำงานปกติของข้อมือ
ตัวอย่างเช่น ในระหว่างการทำ radial deviation scaphoid จะ flex ในขณะที่ lunate จะ extend เล็กน้อย แต่เมื่อทำ ulnar deviation scaphoid และ lunate จะ extend พร้อมกัน การเคลื่อนไหวที่ซับซ้อนนี้ช่วยให้ข้อมือมีความมั่นคงและเคลื่อนไหวได้อย่างราบรื่น
อีกประเด็นที่น่าสนใจคือ การเคลื่อนไหวของข้อมือมักเกิดร่วมกับการเคลื่อนไหวของ forearm ด้วยครับ เช่น การทำ radial deviation มักเกิดร่วมกับ supination ของ forearm ส่วน ulnar deviation มักเกิดร่วมกับ pronation ซึ่งการเคลื่อนไหวแบบผสมผสานนี้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของมือและแขนโดยรวม
ความเข้าใจในเรื่อง osteokinematics ของข้อมือนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในการประเมินและรักษาผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับข้อมือครับ ทั้งในแง่ของการประเมิน ROM การวางแผนการรักษา และการออกแบบโปรแกรมการฟื้นฟูที่เหมาะสม
ตัวอย่างเช่น ในผู้ป่วยที่มีปัญหา carpal tunnel syndrome เราอาจต้องระมัดระวังในการทำ wrist extension มากเกินไป เพราะอาจเพิ่มแรงกดใน carpal tunnel ได้ หรือในผู้ป่วยที่มีการบาดเจ็บของ scapholunate ligament เราอาจต้องหลีกเลี่ยงการทำ ulnar deviation และ extension ในช่วงแรกของการบาดเจ็บ เป็นต้น
ในบทความต่อไป เราจะมาลงลึกเกี่ยวกับ arthrokinematics กันครับ ซึ่งจะช่วยให้เราเข้าใจการทำงานของข้อมือได้ดียิ่งขึ้น และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ผมฝากกด like กดแชร์ กดติดตามเพจphysioupskillด้วยนะครับ ส่วนถ้าใครมีข้อสงสัยอะไรก็commentไว้ด้านล่างได้เลยครับ
_PhysioUpskill_
#Physioupskill
#Wristjoint
#kinesiology
⭐สำหรับใครที่อยากเรียนรู้เพิ่มเติม สามารถอ่านบทความอื่นๆได้ที่
https://physioupskill.com/บทความ/
หรือดูรายละเอียดคอร์สเรียนของเพจได้ที่
https://physioupskill.com/คอร์สเรียน/
ได้เลยครับ
Ref.
1. Neumann, D. A. (2017). Kinesiology of the Musculoskeletal System: Foundations for Rehabilitation. 3rd ed. Mosby.
2. Magee, D. J. (2014). Orthopedic Physical Assessment. 6th ed. Saunders.
3. Nordin, M., & Frankel, V. H. (2012). Basic Biomechanics of the Musculoskeletal System. 4th ed. Lippincott Williams & Wilkins.
บันทึก
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย