เมื่อวาน เวลา 09:05 • อสังหาริมทรัพย์

ให้ครัวครบทั้ง 3 สไตล์!

Porsche Design Tower Bangkok เผยโฉมคอนเซ็ปต์ครัวระดับเวิลด์คลาสสุดพิเศษครั้งแรก พร้อมเปิดตัวนิทรรศการสุดพิเศษ “Porsche Unseen Design Studies” ณ Curvistan Bangkok
"...ความเป็น Unparalleled Luxury ของ Porsche Design Tower Bangkok คือการ Translate อัตลักษณ์ในด้านงานดีไซน์ของ Porsche Design มาสู่องค์ประกอบในด้านการพัฒนาโครงการ ในแบบ Best in Class ให้กับทุกตาราเมตรของโครงการ โดยในวันนี้ผมอยากจะไฮไลท์เรื่องชุดครัว ที่อาจบอกได้ว่าทุกยูนิตของเราเหมือนมีร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์อยู่ในตัวเลย
โดยตัวผมเองได้ไปคุยกับทาง Arclinea ในการ Customized ชุดครัว Hybrid Stanless ว่าเราคนไทยชอบทำอาหารแบบผัดเยอะ ใช้ไฟแรง แล้วก็เอารูปเจ๊ไฝให้เค้าดูว่าควรจะออกแบบชุดครัวสไตล์ไหนถึงจะเหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำอาหาร จะสวยอย่างเดียวไม่ได้ ต้องใช้ได้จริง ซึ่ง Solutions ที่ได้ก็คือเราเอาเตาแก๊สของ Gas Turbo Work Burner แบรนด์ Marrone มาใช้เป็น Appliance ของครัวเลย ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์เลือกใช้
โดยโครงการได้มีการวางระบบท่อแก๊สในมาตรฐานเดียวกับห้องครัว ห้องอาหารตามโรงแรมชั้นนำ เช่นเดียวกับความต้องการในการใช้เตาถ่าน ซึ่งเราได้นำเทคโนโลยีของ JOSPER ซึ่งเป็นเตาอบ และเตาย่าง BBQ ด้วยถ่านที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด จากเมิองบาร์เซโลน่าในสเปนมาใช้ ซึ่งจุดเด่นของเตาถ่านจาก JOSPER ก็คือสามารถใช้ได้กับถ่านไม้คุณภาพสูงหลายชนิด
ที่สามารถถ่ายทอดรสชาติของอาหารออกมาได้ไม่เหมือนกัน นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์ครัวระดับพรีเมียมจาก Wolf และ Sub-Zero เพราะสำหรับเรา พื้นที่ครัวเป็นเสมือนจุดเริ่มต้นในการเติมเต็มความสุขของทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมื้ออาหารระดับมิชลินสตาร์ หรือการสังสรรค์ที่เปี่ยมด้วยความบันเทิงและแรงบันดาลใจ เพื่อมอบประสบการณ์เหนือระดับให้กับผู้อยู่อาศัยในโครงการอันแสนพิเศษนี้..." ชานนท์ เรืองกฤตยา ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ โครงการ Porsche Design Tower Bangkok
โครงการ First of its Kind in Asia บนทำเลทองหล่อ สุขุมวิท 38 อย่าง Porsche Design Tower Bangkok เป็นโครงการที่หากพิจารณาในเรื่องของการนำเสนอรสนิยมในแบบเฉพาะตัวที่หาไม่ได้จากที่อื่น ทั้งในแง่ของ Emotional และ Functional ที่มีการผสมผสานทั้งอัตลักษณ์ของแบรนด์ PORSCHE ผ่านงานดีไซน์อาคาร การเลือกใช้วัสดุเฉพาะตัว
และเฟอร์ฯที่นำมาใช้ ก็ต้องบอกว่ามีแรงดึงดูดที่มากกว่า Brand Residences ทั่วไป และมีความพิเศษเฉพาะตัวที่ไม่อาจหาได้จาก PORSCHE DESIGN TOWER แห่งอื่นๆครับ ไม่ว่าจะเป็น ‘เดอะ ลูป’ (The Loop) ทางลาดที่ออกแบบเฉพาะสำหรับรถซูเปอร์คาร์ ตั้งอยู่ใจกลางอาคาร ที่เชื่อมสู่ ‘แพสชัน สเปซ’ โดยตรง อำนวยความสะดวกให้สามารถขับรถคู่ใจเข้าไปจอดได้อย่างง่ายดาย ส่วนด้านหน้าอาคารหรือ Façade
ในแต่ละห้องชุดที่ได้ติดตั้งผนังกระจกเปิดออกสู่ระเบียง เปิด-ปิดอัตโนมัติเพียงแค่กดปุ่มสวิตช์ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากกลไก ‘คิเนติก มูฟ’ (Kinetic Move) ของระบบหลังคาคิเนติกในรถยนต์ปอร์เช่ รุ่น 911 ทาร์กา (Porsche 911 Targa) โครงสร้างของอาคาร ที่สะท้อนออกมาเป็นรูปแบบสถาปัตยกรรมอาคารที่เป็นเอกลักษณ์เรียกว่า ‘เอ็กซ์ เฟรม’ (X-Frame)
ซึ่งถอดแบบดีไซน์มาจากแนวคิดของรถยนต์ต้นแบบปอร์เช่ มิชชั่น อาร์ (Porsche Mission R) เพื่อประสบการณ์การเข้าสู่บริเวณตัวอาคารอันเป็นเอกลักษณ์แบบเปิดโล่งไร้เสาอาคารกีดขวาง นอกจากนี้ บริเวณด้านบนสุดของอาคารสูง 21 ชั้น ความสูง 95 เมตร นี้ยังประดับด้วย ‘เดอะ คราวน์’ (The Crown) ซึ่งเป็นการออกแบบบริเวณส่วนยอดอาคาร ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากดีไซน์ไฟของรถสปอร์ตปอร์เช่
ไม่เพียงเท่านั้น การตกแต่งภายในของโครงการแห่งนี้ยังใช้วัสดุชั้นเลิศและเฟอร์นิเจอร์หรูระดับเวิลด์คลาส เพื่อยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยให้เหนือชั้น โดยห้องครัวในทุกยูนิตของ Porsche Design Tower Bangkok จะมีมาให้ครบทั้ง 3 สไตล์การทำอาหาร อาทิ Thai Kitchen ที่ใช้แก๊สเป็นหลัก, Western Kitchen และ BBQ Area ที่บริเวณพื้นที่ระเบียงแบบ Semi - Outdoor
ที่ออกแบบโดย Arclinea แบรนด์ระดับตำนานจากอิตาลี ภายใต้การกำกับของ Antonio Citterio สถาปนิกชื่อดังระดับโลก ผสานประสิทธิภาพและความหรูหราด้วยลิ้นชักระบบไฟฟ้า อุปกรณ์ครัวระดับพรีเมียมจาก Wolf และ Sub-Zero เตาแก๊ส Marrone และเตาถ่าน Josper
ชุดครัวระดับมืออาชีพพร้อมตอบโจทย์การทำอาหารอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งการผัดและทอดสไตล์เอเชียด้วยอุปกรณ์ที่ให้ความร้อนสูงและควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ ครัวสไตล์ตะวันตกมาพร้อมอุปกรณ์โมเดิร์นแบบครบครันสำหรับรังสรรค์เมนูจากทั่วทุกมุมโลก ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีชุดครัวสำหรับบาร์บีคิวภายนอกอาคาร เพื่อยกระดับประสบการณ์ความอร่อยในการสังสรรค์กลางแจ้งอีกด้วย
โดยในอีเวนต์เปิดตัวนิทรรศการ “Porsche Unseen Design Studies” ได้มีการเผยโฉมคอนเซ็ปต์ห้องครัวระดับเวิลด์คลาส ในแบบ Showcase Exhibition ซึ่งแสดงคอนเซปท์ของพื้นที่ประกอบอาหาร 3 โซน ที่มีครัว 3 รูปแบบที่แตกต่างกัน เพื่อตอบโจทย์การอยู่อาศัยเหนือระดับบนทำเลศักยภาพอย่างสุขุมวิท 38 ที่ให้ความบรรยากาศเหมือนกับการมีร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์อยู่ในห้อง ด้วย ชุดครัวระดับมืออาชีพ (Professional Kitchen)
พร้อมตอบโจทย์การทำอาหารอย่างสมบูรณ์แบบ ทั้งอุปกรณ์ที่ให้ความร้อนสูงและควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแม่นยำ รวมถึงสามารถใช้เตาแก๊สได้ ซึ่งเหมาะสำหรับการทำอาหารแบบผัดและทอดสไตล์เอเชีย ส่วนครัวสไตล์ตะวันตก (Western Kitchen) มาพร้อมอุปกรณ์โมเดิร์นแบบครบครัน
ที่สามารถรองรับการทำอาหารระดับเชฟมิชลินสตาร์ สำหรับการรังสรรค์เมนูจากทั่วทุกมุมโลก อีกทั้งยังยกระดับประสบการณ์ในการสังสรรค์ด้วย ชุดครัวแบบเตาถ่าน (Semi-Outdoor BBQ Area) ในการประกอบอาหาร มอบประสบการณ์การปิ้งย่างบาร์บีคิวได้อย่างสุนทรีย์
นับตั้งแต่เปิดตัวไปในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา Curvistan Bangkok ได้ยกระดับนิยามของไลฟ์สไตล์และความบันเทิงรูปแบบใหม่ให้กับคอมมูนิตี้ของผู้ชื่นชอบปอร์เช่รวมถึงผู้ที่สนใจ ด้วยการผสมผสานบาร์ คาเฟ่ แกลเลอรีศิลปะ และพื้นที่สำหรับพบปะสังสรรค์ เพื่อตอบโจทย์ความหลงใหลในรถยนต์ วัฒนธรรม และดีไซน์ ในหนึ่งเดียว
โดยตอนนี้ได้มีนิทรรศการสุดพิเศษ “Porsche Unseen Design Studies” ที่แสดงให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่อยู่เบื้องหลังการออกแบบรถปอร์เช่ ภายใต้การสนับสนุนจากปอร์เช่ เอเชีย แปซิฟิก ในฐานะบริษัทผู้ให้การสนับสนุนผู้นำเข้าและตัวแทนจำหน่ายใน 13 ประเทศ ทั่วภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก และปอร์เช่ ประเทศไทย ที่เป็นผู้นำเข้ารถยนต์ปอร์เช่อย่างเป็นทางการในประเทศไทยมามากกว่า 30 ปี และความร่วมมือระหว่าง
สเตฟาน บอกเนอร์ ผู้ก่อตั้งนิตยสาร Curves อันเป็นที่รู้จักในระดับนานาชาติ และชานนท์ เรืองกฤตยา นักธุรกิจวิสัยทัศน์กว้างไกล ผู้อยู่เบื้องหลังโครงการ Porsche Design Tower Bangkok ที่กำลังจะเริ่มต้นการก่อสร้าง และตั้งอยู่ห่างไปเพียงไม่กี่ก้าวจาก Curvistan Bangkok
ในนิทรรศการนี้ ไมเคิล มาวเออร์ รองประธานฝ่ายปอร์เช่ไลฟ์สไตล์ ณ ปอร์เช่ ดีไซน์ สตูดิโอ เมืองไวส์ซาค และเป็นผู้ดูแลวิสัยทัศน์ด้านการออกแบบของปอร์เช่มาเป็นเวลากว่า 20 ปี ได้เผยถึงคอนเซ็ปต์คาร์ หรือรถยนต์ต้นแบบของปอร์เช่อันท้าทายและน่าอัศจรรย์จากการสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้การดูแลของไมเคิลตลอดช่วงเวลากว่าสองทศวรรษ
ซึ่งในวันนี้เป็นครั้งแรกกับการรวบรวมผลงานคอลเลกชัน ‘Unseen’ ของปอร์เช่มาจัดแสดงในประเทศไทย ถือเป็นเดสติเนชันที่ผู้หลงใหลในปอร์เช่รวมถึงผู้ที่สนใจในยานยนต์ไม่ควรพลาด เพื่อมาสัมผัสประสบการณ์ด้านดีไซน์อันเป็นเลิศของปอร์เช่สักครั้ง
ไฮไลท์สำคัญของนิทรรศการนี้คือ "Vision Spyder" โมเดลจำลองเท่าขนาดจริง ที่สะท้อนจินตนาการของรถสปอร์ตเปิดประทุนขนาดเล็กสไตล์โมเดิร์นของไมเคิลและทีม ที่ได้แรงบันดาลใจจากขนาดที่เล็กกะทัดรัดและนวัตกรรมน้ำหนักเบาของรถที่ออกแบบโดยวิศวกรปอร์เช่ในยุค 1950 โดยเฉพาะรุ่น 550 Spyder ที่ทำให้ ฮันส์ แฮร์มันน์
คว้าชัยชนะในการแข่งขันรถสปอร์ต Carrera Panamericana ในปี 1954 โดย "Vision Spyder" โดดเด่นด้วยห้องโดยสารแบบสปาร์ตันที่มีฟีเจอร์ครบครัน และกระจังหน้าแบบแบนราบที่ติดตั้งเหนือเครื่องยนต์แบบวางกลางลำ (Midengine) พร้อมลายคาดรถสีแดง (Racing stripes) และครีบหลังท้ายรถขนาดพอเหมาะ
ผู้เข้าชมยังสามารถยลโฉมปอร์เช่ ไทคานน์ เทอร์โบ เอส รุ่น เซเลสเชียล เจด (Taycan Turbo S Celestial Jade) ซึ่งเป็นรุ่นพิเศษ แบบเอ็กซ์คูลซีฟ ก่อนที่จะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการในประเทศไทยในเดือนธันวาคมนี้ ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้ารุ่นนี้ถูกสร้างขึ้น
ภายใต้โครงการ Sonderwunsch ของปอร์เช่ โดยได้รับแรงบันดาลใจจากภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รายละเอียดที่ถูกผสานกับสัญลักษณ์ต่างๆ ในตำนาน ผ่านโลโก้ และเทคโนโลยีสีพิเศษ Chromaflair จะทำให้สีของรถจะสะท้อนแสงในหลากหลายมิติ สร้างเอฟเฟกต์สีสันที่เปลี่ยนแปลงไปตามแสง ทำให้ยนตรกรรมสปอร์ตพลังงานไฟฟ้าคันนี้ดูโดดเด่นมากขึ้น
นอกจากยนตรกรรมสุดพิเศษทั้ง 2 คันนี้ ผู้เข้าชมนิทรรศการยังจะได้ชมโมเดลจำลองขนาด 1:3 ของรถต้นแบบหลากหลายรุ่น อาทิ Macan "Vision Safari" รถเอสยูวีที่ทดลองออกแบบให้กลายเป็นรถสำหรับแอดเวนเจอร์ และโมเดลคอนเซ็ปต์ของไฮเปอร์คาร์อย่าง
"Vision 918 RS" และ "Vision 920" รวมถึง "Vision E" อันเป็นการทดลองออกแบบที่จินตนาการถึงรถแข่ง Formula E ที่สามารถพัฒนาเป็นรถแข่งสำหรับลูกค้าทั่วไป
นิทรรศการ "Porsche Unseen Design Studies" จะจัดแสดงตั้งแต่วันที่ 22 พฤศจิกายน 2567 - 28 กุมภาพันธ์ 2568 ณ Curvistan Bangkok โดยเปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08:00-18:00 น.
โฆษณา