นอกจาก Maguro และอีกหลาย ๆ บริษัทในไทยจะใช้ Salesforce แล้ว Warrix ก็ใช้ Salesforce ครับ
- เห็นด้วยกับที่พี่ฮิมเคยพูดไว้ว่า เงินที่ได้จากการ IPO ก็เอามาพัฒนาระบบหลังบ้าน และเอามาจ้างคนเก่ง ๆ ให้มาทำงานด้วย เพื่อในอนาคตจะได้แบ่งเบาภาระของพี่ฮิมไปได้
อันนี้ดี เพราะในปัจจุบัน Warrix ก็ยังต้องพึ่งพาพี่ฮิมอยู่ แต่เริ่มเห็นสัญญาณแล้วว่า ถ้ายัง Keep Going On กลยุทธ์แบบนี้ต่อไปได้ ก็จะลดการพึ่งพาพี่ฮิมไปได้เยอะ
- เท่ากับว่า สิ่งที่ลงทุนไป ก็เริ่มเห็นดอกผลค่อย ๆ งอกออกมาบ้างแล้ว รอดูว่าจะทำให้มันดีแบบนี้ไปได้เรื่อย ๆ ใน Long Term หรือไม่
- ที่ผ่านมาไอ้ประเด็นเรื่องลูกหนี้การค้าไร้ระเบียบ ก็ได้รับการแก้ไขแล้ว ภาพ Cashflow ในปีนี้ ดูดีขึ้น ในระยะยาวถ้าทำได้แบบนี้ ก็หวังว่า ภาพ Cashflow จะกลายเป็นแบบ Mc Jeans หรือ Sabina ได้ในสักวัน
แต่ผมก็หวังว่า เค้าจะทำได้ดีกว่า เพราะกลยุทธ์ในการเติบโตเค้ามัน Aggressive กว่า เพราะสิ่งที่ผมอยากเห็น MC ทำได้ เช่นการไปบุกต่างประเทศ Warrix สามารถทำได้แล้ว แต่นั่นก็ต้องดูว่ามันจะ Sustain จริงไหม
- ประเด็นเรื่องสินค้าคงเหลือ ของปี 2566 คือพวกเสื้อดำที่กลายเป็น Dead Stock ไปแล้ว ก็ต้องยอมรับความจริง ใครจะคิดว่าจะยื้อมาได้นานขนาดนี้ นี่เป็นบทเรียนว่า ต่อให้คุณมี Model ในการ Forecast ออกมาดีแค่ไหน แต่ถ้าเจอกับ External Shock สักอย่างนึง ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ (เหมือนที่อาจารย์สมเจียมหรืออาจารย์ปวิณมั้ง เคยบอกไว้ว่า "Unpredictable") มันก็จะเป็นแบบนี้แหละครับ
บางทีการ Stay the Course เน้นสร้างแบรนด์ พัฒนาออกสินค้าเจ๋ง ๆ ให้ได้ต่อไป อาจจะเป็นทางเลือกที่ดีกว่าการจับจังหวะตลาดก็ได้ (แต่ก็ไม่เสมอไป แต่ใครจะไปรู้ 5555)
- อ่อ มีอีกจุดนึง ที่ผมจะต้องฝากไปบอกผู้บริหาร
"ช่วยกรุณาจัด OppDay ก่อน Analyst Meeting ได้ไหมครับ"
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
