เมื่อวาน เวลา 09:26 • ความคิดเห็น

ปีใหม่แล้ว อยากทำนี่นั่นเต็มไปหมด เลือกยังไงดี - บทเรียนจากโสเครตีส

เป็นเรื่องธรรมดาที่พอใกล้ๆ จะเข้าปีใหม่ เราก็มักจะฮึกเหิมตื่นเต้นเป็นพิเศษที่จะได้ทำสิ่งใหม่ๆ ในปีถัดไป อยากทำนู่นทำนี่เยอะแยะไปหมด ก็จะเป็นคนใหม่แล้วนี่ แต่ในทางปฏิบัตินั้น
เป้าหมายที่เยอะเกินไป มักจะทำอย่างสม่ำเสมอได้ยาก
โดยเฉพาะถ้าเป็นสิ่งที่เราไม่เคยทำมาก่อน หรือไม่คุ้นเคย
และถ้าเราสังเกตตนเอง บรรดาสิ่งที่เราอยากจะทำ บรรดาเป้าหมายที่เราอยากจะบรรลุให้ได้นั้น ก็ “ไม่ได้มาจากเราจริงๆ” ซะด้วยสิ
ทุกวันนี้เราอยู่ในสังคมบริโภคนิยมที่กระแส “พัฒนาตนเอง” สามารถนำไปสู่การสร้างเม็ดเงินได้มหาศาล โดยเฉพาะในอินเตอร์เน็ตและโซเชียลมีเดียที่มองไปทางไหนก็จะเจอคอนเทนท์ที่บอกว่าเราต้องทำอย่างนี้ ต้องมีอย่างนั้น ต้องเป็นแบบนี้ เราถึงจะประสบความสำเร็จและมีความสุข เลยกลายเป็นแรงชักนำให้เราอยากทำสิ่งนั้นสิ่งนี้
เป้าหมายที่เยอะเกินไปก็เหมือนอาหารที่ล้นจาน รับไม่ได้ก็ไม่มีประโยชน์
ผู้เขียนเชื่อว่า ถ้าเราตั้งเป้าหมายที่เรา “อิน” กับมันจริงๆ และตัดสิ่งที่ไม่จำเป็นออก ก็จะเพิ่มแนวโน้มให้เป้าหมายที่สำคัญจริงๆ นั้นประสบความสำเร็จได้มากขึ้น
ในบทความนี้ ผู้เขียนอยากแชร์วิธีการหาเป้าหมายที่ว่านั้น โดยใช้หลักที่อ้างอิงมาจาก “วิธีของโสเครตีส (Socratic Method)”
โสเครตีส (Socrates) เป็นนักปรัชญาชาวกรีกที่มีชีวิตอยู่เมื่อสองพันกว่าปีก่อน เจ้าของวลีอมตะ “ชีวิตที่ไม่มีการพิจารณาทบทวนนั้นไม่คู่ควรต่อการดำรงอยู่” และยังเป็นผู้ริเริ่มเทคนิคที่ต่อมาเรียกกันว่า “วิธีของโสเครตีส” เป็นวิธีการถาม-ตอบเพื่อชี้นำให้คู่สนทนาได้คิดและตระหนักถึงจุดบอดในเหตุผลและความเชื่อของตน
ผู้เขียนลองนำแนวคิดที่ว่ามาประยุกต์ใช้ ออกมาเป็น Framework ในรูปแบบคำถาม 5 ข้อ ให้ผู้อ่านทดลองถามตนเองขณะกำลังวางเป้าหมาย
เริ่มต้นจากการเลือกเป้าหมายที่คิดจะทำมาข้อหนึ่ง แล้วลองถามคำถามตนเองดังนี้
1. "เราทำไปทำไม วัตถุประสงค์ที่แท้จริงที่เราต้องการจะบรรลุคืออะไร"
ถามคำถามนี้เพื่อค้นหาแรงจูงใจที่แท้จริง และเพื่อพิจารณาว่าคุณค่าในการทำสิ่งๆ นี้มันสำคัญกับเราจริงๆ หรือไม่
2. "เราไปได้ความคิดนี้มาจากไหน"
ถามคำถามนี้เพื่อเช็คว่าเป็นอิทธิพลจากภายนอกหรือภายใน การรับคำแนะนำจากภายนอกและนำมาปรับใช้ไม่ใช่เรื่องที่ผิด แต่เราก็สมควรที่จะตระหนักรู้ในจุดนี้ด้วย
3. "เรารู้สึกตื่นเต้นหรือสนุกไปกับขั้นตอนในการลงมือทำหรือไม่"
นอกจากจะมองไปที่ยอดเขาแล้ว เราต้องมองที่เส้นทางด้วยว่าเราโอเคกับการลงมือทำในแต่ละขั้นตอนหรือไม่
4. "มีวิธีอื่นที่จะนำไปสู่เป้าหมายเดียวกันหรือไม่ แล้วรู้สึกอย่างไรกับวิธีนั้น"
ถ้าเส้นชัยของเรามีหน้าตาแบบนี้ มีวิธีอื่นๆ ที่จะไปให้ถึงเส้นชัยนั้นอีกหรือไม่ เพื่อประเมินหาวิธีที่อาจจะเหมาะกับเรามากกว่า
5. "ถ้าเราทำสิ่งนี้แล้วชีวิตเราจะดีขึ้นอย่างไร และถ้าเราไม่ได้ทำ จะเกิดอะไรขึ้น เราจะเสียใจในภายหลังหรือไม่"
ตอกย้ำความสำคัญและคุณค่าของเป้าหมายที่เราตั้งใจในตอนสุดท้าย
วิธีของโสเครตีสในบทความนี้เป็นเวอร์ชันที่ประยุกต์แล้ว มีการลดทอนบางอย่างลงเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน แต่ยังคงหลักการและแนวคิดเดิมไว้ หลังจากใช้ Framework นี้แล้วคุณผู้อ่านก็อาจจะลองไปวางเป้าหมายให้ชัดเจนขึ้นและเป็นระบบ ตามบทความที่แล้วของผู้เขียน
ในบทความถัดไป ผู้เขียนจะยกตัวอย่างประสบการณ์ของผู้เขียนเองเพื่อเป็นแนวทางใช้งานนะครับ
ธนิท กิตติจารุรักษ์
22 พฤศจิกายน 2567
โฆษณา