เมื่อวาน เวลา 05:37 • การเมือง

"นิการากัว" ตัดสัมพันธ์การทูตอิสราเอล จวกเป็นรัฐ "ฟาสซิสต์-ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์"

รัฐบาลนิการากัวประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล
โดยกล่าวหารัฐบาลยิวว่าเป็นพวก “ฟาสซิสต์” และ “ฆ่าล้างเผ่าพันธุ์”
ชาวปาเลสไตน์
คำแถลงของรัฐบาลนิการากัวระบุว่า การตัดสัมพันธ์ครั้งนี้เกิดจากกรณีที่อิสราเอลโจมตีดินแดนปาเลสไตน์
ก่อนหน้านั้น รัฐสภานิการากัวได้ผ่านมติเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการบางอย่างในช่วงครบรอบ 1 ปีสงครามกาซา
รัฐบาลนิการากัวชี้ว่า ความขัดแย้งครั้งนี้ “ได้ขยายลุกลามไปยังเลบานอน และกำลังเป็นภัยคุกคามต่อซีเรีย เยเมน และอิหร่าน”
บรรดาชาติตะวันออกกลางต่างเฝ้าระวังสูงสุดว่าสงครามอาจยกระดับขึ้นอีก หลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกเข้าไปถล่มอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ต.ค. โดยอิหร่านนั้นถือเป็นพี่ใหญ่ที่คอยหนุนหลังกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ซึ่งกำลังถูกกองทัพยิวเล่นงานอย่างหนักอยู่ในตอนนี้
อิหร่านยังถือเป็นพันธมิตรรายสำคัญของรัฐบาลประธานาธิบดี ดานิเอล ออร์เตกา แห่งนิการากัว ซึ่งถูกนานาชาติโดดเดี่ยวมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจากการใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วงในปี 2018 ซึ่งองค์กรสิทธิมนุษยชนชี้ว่าทำให้มีประชาชนถูกสังหารไปราว 300 คน
สำนักข่าว Anadolu รายงานว่า นิการากัวประกาศเมื่อวันศุกร์ว่าได้ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลเพื่อแสดงความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันกับชาวปาเลสไตน์
รัฐบาลกล่าวว่าความสัมพันธ์ทางการทูตทั้งหมดกับอิสราเอลถูกตัดขาดหลังจากสมัชชาแห่งชาติมีมติเอกฉันท์
รัฐบาลได้ให้ความสนใจต่อความทุกข์ทรมานของชาวปาเลสไตน์อันเนื่องมาจากการโจมตีของอิสราเอล และกล่าวว่านิการากัวจะยืนหยัดเคียงข้างชาวปาเลสไตน์และรัฐบาลที่ตกอยู่ภายใต้ “การทำลายล้างและความป่าเถื่อน” ตลอดไป
นอกจากประณามนโยบาย “การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” และการกดขี่ของอิสราเอลที่มีต่อชาวปาเลสไตน์แล้ว นิการากัวยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับการกระทำของอิสราเอลต่อเลบานอน และภัยคุกคามต่อซีเรีย เยเมน และอิหร่านอีกด้วย โดยเตือนว่าการกระทำของเทลอาวีฟอาจทำให้สันติภาพในภูมิภาคและบริเวณอื่น ๆ ไม่มั่นคง
‘นิการากัว’ ตัดสัมพันธ์การทูตอิสราเอล
คำแถลงของรัฐบาลนิการากัวระบุว่า การตัดสัมพันธ์ครั้งนี้เกิดจากกรณีที่อิสราเอลโจมตีดินแดนปาเลสไตน์
ก่อนหน้านั้น รัฐสภานิการากัวได้ผ่านมติเรียกร้องให้รัฐบาลมีมาตรการบางอย่างในช่วงครบรอบ 1 ปีสงครามกาซา
รัฐบาลนิการากัวชี้ว่า ความขัดแย้งครั้งนี้ “ได้ขยายลุกลามไปยังเลบานอน และกำลังเป็นภัยคุกคามต่อซีเรีย เยเมน และอิหร่าน”
บรรดาชาติตะวันออกกลางต่างเฝ้าระวังสูงสุดว่าสงครามอาจยกระดับขึ้นอีก หลังจากที่อิหร่านยิงขีปนาวุธเกือบ 200 ลูกเข้าไปถล่มอิสราเอลเมื่อวันที่ 1 ต.ค. โดยอิหร่านนั้นถือเป็นพี่ใหญ่ที่คอยหนุนหลังกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน ซึ่งกำลังถูกกองทัพยิวเล่นงานอย่างหนักอยู่ในตอนนี้
อิหร่านยังถือเป็นพันธมิตรรายสำคัญของรัฐบาลประธานาธิบดี ดานิเอล ออร์เตกา แห่งนิการากัว ซึ่งถูกนานาชาติโดดเดี่ยวมากขึ้นในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาจากการใช้ความรุนแรงปราบปรามผู้ประท้วงในปี 2018 ซึ่งองค์กรสิทธิมนุษยชนชี้ว่าทำให้มีประชาชนถูกสังหารไปราว 300 คน
ที่มา: รอยเตอร์
#อิสราเอล #นิการากัว #ยิว #ชาปาเลสไตน์ #Israel #ข่าวรอบโลก #สงคราม
เรียบเรียงโดย อาจารย์ต้นสัก สนิทนาม
โฆษณา