เมื่อวาน เวลา 11:49 • ความคิดเห็น
เรื่องราวของศาสนา มันสืบทอดกันมายาว มีมาก่อนเมื่องไทยจะมีกฏหมายรัฐธรรมนูญ .ก่อนที่จะไม่มีการตรา กฎหมาย ..อะไรต่างๆ มันสืบทอด ในแผ่นดินนี้แหละ ที่มีร่องรอยวัดวาอาราม มีร่องรอย มีร่องของของความเสื่อม ในสิ่งก่อสร้าง มีตำนาน เล่าขานมากมาย กฎหมายนั้น มาในยุคสมัย ..กฎหมาย ก็เปลี่ยนแปลง ปรับไปเรื่อย เมื่อก่อนคนนั่งเกวียน ไปตามท้องร่องท้องนา มันก็ไม่มีกฏหมายจราจร ไม่มีถนนหนทาง ไปไหนก็เดินเอา ..หรือ ไม่ก็ขี่วัวควายไป
1
เรื่องศรัทธาศาสนา มันจึงเป็นเรื่องราว ขิงคนที่เกิดมา คนที่รู้จักคำว่า ศาสนาก็ไม่ ไม่รู้จักก็มีมากมาย แม้แต่ว่า เราเองก็นับศาสนา ตามๆกันมา ตามปู่ย่าตายาย ไปวัดทำบุญ แต่ก็ไม่เคย สนใจประพฤติปฏิบัติธรรม ได้แต่มอง ..รับรู้ ว่า การบวชนั้นเป็นการแทนพระคุณพ่อแม่ ..ก็ไม่รู้ ความหมาย ไม่รู้ว่า ศาสนาสอนอะไรจึงสามารถที่จะแทนพระคุณพ่อแม่ได้ .
1
..ศาสนาไม่ใช่เรื่องทำมาหากิน เรื่องราวของจิตใจ ..เรื่องของบุญกุศลบารมี แต่มันก็มีคนเอาศาสนา ไปทำมาหากิน ..มันเรื่องของคนโลภ ..เรื่องต้องการคำสรรเสริญเยินยอ เค้าก็เอาศาสนามาทำมาหากิน บ้างก็ก็มาอยู่ในศาสนา มาดำรงตนเป็นศาสดจารย์เสียเอง ..เราเคยได้ยิน ..ผู้พูด.ให้ฟังว่า..เทพเทวดา หูทิพย์ตาทิพย์ ..เค้าว่า มนุษย์ยุคนี้ เอาศาสนาขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไปหากินเยี่ยงอย่างเดรัจฉาน..
1
พอเรียนรู้มากขึ้น ศาสนา นั้นสอนให้คนรู้จักกรรม แล้วก็หนี กรรม ไม่ใช่เป็นเรื่ิงราวของศาสนาสร้างกรรม จมอยู่กับโลก ที่เดียว ตรงนั้น ตรงนี้เปลียนแปลงไป สมัยกคนั้น พอรู้ว่าตาย ก็ทำบุญทำทาน เผากันไป มันไม่มีเรื่องราว ที่ต้องไปแจ้งหมอ ไปออกใบมรณะบัตรเกี่ยวข้องมากมาย ..กฏหมายมันเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ..แต่คนก็มีอายุขัย กันแค่แปดสิบปี ร้อยปี ..
1
..ศาสนา นั้นเป็นเรื่องว่า กันมาเป็นพันปีมาแล้ว ..คนที่เกิดมา มันก็มีหลายรุ่น เกิดมาแล้วตาย..มันก็มาจากหลายที่ทาง นรกเปรตอสุรกายบ้าง ที่มาจากที่สูง เปนเทพเห็นเห็นจะน้อย เพราะเห็มาแต่ แก่งแย่ง แบ่งพรรค แบ่งพวก ..แล้วก็แก่ตาย ต่างคนต่างไป ตายแล้วเผา ก็ทำตามกฏหมายด้วยละกัน ช่วยกันไป
1
ศาสนา นั่นมีแต่คำสอน .ที่ดีๆ ศาสนา..ไม่ได้เป็นผู้ที่ตรากฏหมาย มีแต่คน ที่ไปเขียน ..ตรากฏหมายกันเอง..
1
โฆษณา