24 พ.ย. เวลา 11:07 • ประวัติศาสตร์

กำแพงเมืองจีน: มรดกโลกที่สะท้อนความยิ่งใหญ่ของอารยธรรมจีน

"กำแพงเมืองจีน สัญลักษณ์แห่งการป้องกันและความสามัคคี"
สร้างขึ้นเพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่าทางตอนเหนือ โดยเฉพาะกลุ่มมองโกลและซยงหนู โครงสร้างของกำแพงไม่ได้มีเพียงแค่การป้องกันศัตรู แต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีของชาวจีนในยุคโบราณที่ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างสิ่งที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้
1
"ประวัติการสร้างที่ยาวนานนับพันปี"
กำแพงเมืองจีนเริ่มสร้างในยุคราชวงศ์ฉิน (221-206 ปีก่อนคริสต์ศักราช) โดยจักรพรรดิฉินซีฮ่องเต้ ซึ่งเป็นจักรพรรดิองค์แรกของจีนที่ริเริ่มเชื่อมต่อกำแพงที่สร้างไว้ก่อนหน้านี้ในรัฐต่างๆ เข้าด้วยกัน
หลังจากนั้น ราชวงศ์ฮั่นและราชวงศ์หมิงได้ปรับปรุงและขยายกำแพงให้แข็งแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในสมัยราชวงศ์หมิง (1368-1644) กำแพงได้รับการเสริมด้วยอิฐและหิน ซึ่งทำให้กำแพงในปัจจุบันส่วนใหญ่มีลักษณะเหมือนที่เราเห็นในทุกวันนี้
กำแพงเมืองจีนมีความยาวกว่า 21,000 กิโลเมตร ครอบคลุมทั้งเทือกเขา ทุ่งหญ้า และทะเลทราย โครงสร้างไม่ได้เป็นเพียงกำแพง แต่ยังประกอบด้วยหอสังเกตการณ์ ประตูทางเข้า และป้อมปราการซึ่งมีบทบาทสำคัญในยุทธศาสตร์ทางทหาร
การสร้างกำแพงเมืองจีนถือเป็นหนึ่งในงานก่อสร้างที่ท้าทายที่สุดในประวัติศาสตร์ แรงงานจำนวนมหาศาล รวมถึงชาวบ้าน นักโทษ และทหาร ต้องเผชิญกับสภาพอากาศที่เลวร้ายและความยากลำบากในการก่อสร้างบนภูมิประเทศที่หลากหลาย
ในปัจจุบัน กำแพงเมืองจีนกำลังเผชิญกับการกัดเซาะจากธรรมชาติและกิจกรรมของมนุษย์ เช่น การขโมยอิฐจากกำแพงเพื่อใช้สร้างบ้าน ส่งผลให้บางส่วนของกำแพงเสื่อมโทรมอย่างรวดเร็ว องค์กรต่างๆ จึงต้องเร่งมือในการอนุรักษ์และซ่อมแซม
ในปี ค.ศ. 1987 องค์การยูเนสโก (UNESCO) ได้ขึ้นทะเบียนกำแพงเมืองจีนเป็น มรดกโลก เนื่องจากเป็นตัวอย่างที่โดดเด่นของสถาปัตยกรรมและวิศวกรรมที่สะท้อนถึงอารยธรรมที่ยิ่งใหญ่ของจีน
ปัจจุบัน กำแพงเมืองจีนเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกเดินทางมาชมความงดงามและยิ่งใหญ่ของกำแพง โดยจุดยอดนิยม ได้แก่
  • 1.
    ​ปาต๋าหลิง : จุดที่เข้าถึงได้ง่ายและเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยว
  • 2.
    ​มู่เถียนยวี่ : โครงสร้างที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ
  • 3.
    ​จิ้นซานหลิง : จุดที่มีความสวยงามและเงียบสงบ
กำแพงเมืองจีนไม่ได้เป็นเพียงแค่กำแพง แต่ยังเป็นบทเรียนที่สอนเราเกี่ยวกับพลังของความสามัคคี ความคิดสร้างสรรค์ และการใช้ทรัพยากรเพื่อรับมือกับความท้าทายอีกด้วย
รูปภาพ: pixabay
#ความรู้ #ประวัติศาสตร์ #ไลฟ์สไตล์
โฆษณา