รายได้เท่านี้ ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีสูงสุดได้เท่าไร?
ช่วงนี้ #เด็กการเงิน ขอทำโพสต์เกี่ยวกับภาษีมารัวๆ เพื่อตอบหลากหลายคำถามของนักลงทุน โดยอีกหนึ่งในคำถามสำคัญคือ เงินเดือนเท่านี้ ซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีได้สูงสุดเท่าไร?
การที่จะตอบคำถามนี้ ขอยกตัวอย่างให้เห็นตัวเลขชัดๆ เลยดีกว่า
สมมติเรามีรายได้เดือนละ 80,000 บาท ซึ่งรายได้ทั้งปีคือ 960,000 บาท
ตามการคิดเงินได้สุทธิ เราต้องหักค่าใช้จ่าย 50% แต่ไม่เกิน 100,000 บาท และหักค่าลดหย่อนส่วนตัวได้อีก 60,000 บาท
ในเคสนี้รายได้สุทธิ = 960,000-100,000-60,000 = 800,000 บาท ตกฐานภาษี 20% ซึ่งต้องเสียภาษีถึง 75,000 บาท
แต่ในความเป็นจริง เราจะถูกหักประกันสังคม ถูกหักกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย ดังนั้นเงินได้สุทธิก็จะน้อยกว่า 800,000 บาท และจ่ายภาษีน้อยกว่า 75,000 บาท และยิ่งถ้าซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีเพิ่มด้วย ก็จะเสียภาษีน้อยลงไปอีก
แต่โพสต์นี้เราทำให้เข้าใจง่ายๆ และต้องการให้เห็นภาพกว้างๆ ว่าถ้าหากไม่มีรายการลดหย่อนภาษีอื่นๆ เลย (ไม่มีประกันสังคมและไม่มีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพด้วย) แต่ต้องการลดหย่อนภาษีสูงสุดโดยการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีเพียงอย่างเดียว ก็จะสามารถซื้อได้สูงสุดไม่เกิน 650,000 บาท และประหยัดภาษีได้ทั้งหมด 75,000 บาท หรือพูดง่ายๆ ว่าไม่ต้องจ่ายภาษีเลย
โดยยอดที่ซื้อได้สูงสุด ก็คือตัวเลขสีส้มในตารางนั่นเอง
ใครที่เงินเดือนเท่าไร ก็ใช้วิธีการดูรูปในตาราง แบบที่เราอธิบายไปด้านบนได้เลย
คำถามถัดมาคือ แล้วจะเลือกซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีแ่บบไหนดี🤔เพราะมีทั้ง SSF, RMF และ Thai ESG แนะนำให้อ่านเพิ่มเติมในโพสต์ เปรียบเทียบกองทุน SSF vs. RMF vs. TESG เลือกแบบไหนดี? เลือกแบบไหนให้เต็มก่อน? มาพิจารณา 10 ข้อนี้กัน
นอกจากนี้หลายคนก็อาจจะมีคำถามว่า หากไม่ต้องการซื้อกองทุนลดหย่อนภาษี เพราะเห็นมีการลดหย่อนกลุ่มอื่นอยู่ ทำได้ไหม ควรเลือกอย่างไรดี 🤔 แนะนำให้อ่านได้ที่โพสต์นี้เลย https://www.facebook.com/DekFinance101/posts/932529625559865
📌📌คำเตือนสำคัญ โพสต์นี้ไม่ได้บอกว่าต้องซื้อ Thai ESG เต็มที่นะ เพราะแต่ละคนควรบริหารภาษีด้วยเครื่องมือทางการเงินที่เหมาะสมกับตนเอง และซื้อกองทุนลดหย่อนภาษีตามความสามารถทางการเงินของตนเอง ไม่จำเป็นต้องซื้อสูงสุด📌
เด็กการเงิน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
