25 พ.ย. เวลา 04:23 • ความคิดเห็น

ประเทศ(คน)ขี้โกง

เรียกว่าตั้งรับกับการที่ต้องพูดว่า "ยังมีอีกเหรอ"แทบไม่ทัน
จากโกงขายทอง ตามมาด้วย โกงขายตรง โกงยักยอก โกงตบทรัพย์ จนล่าสุด ที่ต้องเรียกว่า ทำเอาสังคมช๊อคกับจำนวนตัวเลขความเสียหายเหยียบหมื่นล้าน ก็คือกรณี โกงลงทุน ของคุณหมอนักลงทุนชื่อดัง
จะว่าไป นับตั้งแต่ช่วงที่มีข่าวว่าประชาชนคนไทย เดือดร้อนจากการถูกพวกแก๊งคอลเซนเตอร์หลอกลวงล้วงเอาเงินในบัญชีอันมีค่าไปมากมายก่ายกองไม่เว้นแต่ละวัน
นั่นก็ทำให้เรา ๆ ต่างรู้สึกได้ว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่ประเทศเรามีปัญหาเศรษฐกิจแบบที่แก้ยากแก้เย็นในทุกวันนี้ ก็เป็นเพราะว่าเงินส่วนหนึ่งของประชาชนคนในประเทศเรา มันถูกดูดออกจากระบบอย่างที่ควรจะเป็น
วัน ๆ เงินที่สูญเสียไปจากการถูกแก๊งพวกนี้หลอกลวงเอาไป ไม่ใช่น้อย ๆ มีตัวเลขที่เคยถูกเปิดเผยออกมาจากหน่วยงานทางวิชาการระบุว่า เข้าหลักหลายหมื่นล้านบาทต่อปี
แต่นั่นคงแป็นแค่ส่วนหนึ่ง ของเงินที่หายไป จากครรลองที่มันควรจะเป็น
เพราะหลังจากกระแสการเปิดโปงบุคคล เหล่ากลุ่มคนและขบวนการขี้ฉ้อ ขี้โกงทั้งหลาย ถูกประเดประดังถ่ายทอดออกมาทางสื่อทุกสำนักในทุก ๆ วัน จนเราจำเคสแทบจะได้ไม่หมด
มันกำลังทำให้เราคนไทย ร้องอ๋อได้ว่า เออ! ไอ้เงินที่หายไปจากระบบ ไม่ได้อยู่ถูกที่ถูกทางของมัน มันหายไปไหนก้อนใหญ่ ๆ อีกก้อนหนึ่ง
มันก็ไม่ได้หายไปไหน แต่มันหายไปเข้ากระเป๋าคนขี้โกงเหล่านี้นี่เอง
เพราะเท่าที่เราประมาณการดูจากจำนวนประเภทและกรณีความเสียหายที่เกิดขึ้นจากข่าวสารที่ถูกเผยแพร่
นี่ขนาดมีจำนวนกรณี และประเภทความเสียหาย เพียงแค่ไม่กี่รูปแบบ จำนวนตัวเลขความเสียหายยังตั้งมากมายเป็นหมื่น ๆ ล้าน เมื่อนำยอดเงินมารวมกัน
แล้วลองจินตนาการดูว่า ในความเป็นจริง ในประเทศที่สังคมออกเป็นสีเทา ๆ ดำ ๆ อย่างบ้านเรา
มันจะมีกรณีขี้โกงอื่น ๆ ยิบย่อย ไล่ตั้งแต่ระดับหมู่บ้าน ตำบล อำเภอ ไปจนถึงระดับนานาชาติ อีกกี่กรณี
โดยหลักใหญ่ใจความ ส่วนมากกรณีพวกนี้ มันต่างกับแก๊งคอลเซนเตอร์ตรงไหน ทราบไหมครับ?
มันต่างกันตรงที่ กรณีคนขี้โกงเหล่านี้ มันคือ การโกงกันเอง หรือแปลไทยเป็นไทยได้ว่า คนไทย(ขี้)โกงคนไทยด้วยกันเอง
ผมเคยฟังนักวิชาการท่านนึงขอไม่เอ่ยนาม ท่านพูดว่า สาเหตุส่วนหนึ่งที่เราพบเห็นคนขี้โกงมากมายในยุคนี้
สาเหตุมันมาจาก การทำมาหากินโดยสุจริตให้รวย มันทำยาก จนถึงเรียกว่าทำยังไงก็คงรวยไม่ได้เลยด้วยซ้ำไป
แน่นอน การฉ้อโกง ก็ไม่ใช่ว่าทำได้ง่าย ๆ คนโง่เง่าเต่าตุ่น ก็คงไม่มีทางทำได้
จะขี้โกงโคร นอกจากมีความเลวในจิตใจเป็นพื้นฐานรองรับแล้ว คุณต้องมีความฉลาดพอสมควรด้วย
ไม่ฉลาดพอ คุณทำไม่ได้หรอก
ทำได้ ก็ไปไม่รอด รอดก็รอดไม่นาน
นักวิชาการท่านนั้น บอกต่อว่า ในเมื่อการทำมาหากินโดยสุจริตให้รวยมันทำยาก
และถึงแม้การทำมาหากินโดยทุจริตมันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเหมือนกัน
แต่เมื่อเอาการทำมาหากินทั้งสองแบบมาชั่งตวงวัดดู
การทำมาหากินโดยทุจริต มันให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าการทำกินแบบสุจริตหลายเท่าตัว จนประเมินแล้วเห็นว่า คุ้มความเสี่ยง
หรือถึงแม้สุดท้ายจะถูกจับได้ ต้องรับโทษรับทัณฑ์ไปตามกฎหมาย
แต่ไอ้ทรัพย์ฉ้อโกงที่ได้มา มันก็ยังมีวิธียักย้ายถ่ายเท หาทางสะสมซ่อนเร้น หลบหลีกเอาไว้ก่อนล่วงหน้า
เอาไว้ใช้เสวยสุขหลังสิ้นสุดการรับโทษ มันก็ยังถูกมองว่า คุ้ม ในสายตา คนขี้โกง ทั้งหลาย อยู่ดี
เพราะฉะนั้น เราจึงได้อย่าแปลกใจว่าทำไม เราจึงเห็นคนที่ถูกระบุว่า ขี้โกง ในทุกวันนี้
ต่างก็มาจากคนทุกสาขาอาชีพ ทุกระดับชั้นการศึกษา ฐานันดรในสังคม
และต้องบอกเลยว่า ไม่มีใคร หน่วยงานไหน ที่จะปกป้องตัวคุณเองจากคนเหล่านี้ได้ นอกจากตัวคุณเองจะปกป้องตัวคุณเองอย่างถึงที่สุด
ตราบใดประเทศเรายังเป็นประเทศ(คน)ขี้โกง แบบนี้อยู่
จำไว้ว่า สิ่งที่จะทำให้เราไม่ตกเป็นเหยื่อคนพวกนี้คือ "สติ" เท่านั้น
1
อย่าโลภ
อย่าเป็นคนมองโลกในแง่ดี(เกินไป)
อย่าคิดว่าอะไรเคยเป็นอย่างไร ต้องเป็นอย่างนั้นไปตลอด
อย่าอยากรวยเร็วแบบไม่มีเหตุผลรองรับ
และถึงแม้จะรู้สึกว่าเจอหนทางที่เหมือนจะช่วยให้รวยเร็วแบบมีเหตุผลรองรับก็ตาม เราก็ควรทบทวนไว้เสมอว่า ...
" ไม่มีใครบอกให้เราเก็บทองคำที่ตกพื้นอยู่หรอก ถ้าเขาเป็นคนเห็นก่อน จริงไหม? "
BBKN
โฆษณา