25 พ.ย. เวลา 06:01 • ปรัชญา
เรื่องราวอดีต โอ้ว..มันนึกไปยาวไกลเชียว เรื่องที่ว่าตอนเกิดมา ..แก้ผ้ามา ..ไม่มีอะไรติดตัวมาเลย ไม่รู้ไปทำให้พ่อแม่ ต้องมีภาระ ..ป้อนข้าวป้อนน้ำ อาบน้ำอาบท่า ทำอะไรให้มาบ้าง กว่าจะฟีนน้ำนมขึ้น ได้หัดคว่ำ หัดกิน หัดพูด..ตอนวัยเดียงสานี่มันจดจำไม่ได้ นึกไม่ค่อยออก พอจะนึกออกบ้าง ..ที่เรียกร้องของของเล่น ..พอไม่ได้ดังใจ ก็ไม่พอใจ . โวยวาย
.. แหม่ ..พอนึกขึ้นมาได้ เอาแค่เรื่องเล็กๆน้อยๆ มันก็มีเรียกร้องที่ละเล็กทีละน้อยทุกวัน ..ขอตังค์ไปโรงเรียน จากวันละน้อยๆ พอโตขึ้น มีก็เรียกร้องเพิ่มขึ้นตามตัว ไม่รับรู้อะไรทั้งนั้น ว่าพ่อแม่ต้องลำบากกายไปหาเงินทอง .. พอไปโรงเรียน ..ก็ไปนั่งเป็นไม้ประดับห้อง เค้าบอกว่าตั้งใจเรียน ..แต่เราก็ไม่เอาตาหูมาเรียนด้วย เอาไปเรียนที่เค้าไม่สินในห้องเรียน มันก็เลยต้องใช้ความอดทนไปทำมาหากิน ต้องอดทนทำงานเหน็ดเหนื่อย ถึงจะได้มา .นี่ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้ จะตั้งใจเรียน ..
ยิ่งไปนึกคิดความเหน็ดเหนื่อยที่พ่อแม่ ใช้กายไปหาเงืนทองมา มันเหน็ดเหนื่อยน่ะ ก็เลย ..ก็เราก็ใช้กายพ่อแม่ ..กายเค้าก็เหน็ดเหนื่อย ไม่เคยหยุดพักเลย .เราก็เลย เอากายพอแม่ที่เราอาศัยอยู่นี่แหละ บังคับกายไปนั่งหน้าพระ ..บังคับให้นิ่งๆ กายพ่อแม่จะได้พัก ไม่เคลื่อนที่ไปหน ไปนั่งนิ่งๆ จิตนิ่งๆ กราบพระ เอาตังค์บาทเดียว กล่าวถวายพระ วางหน้าพระ ..ขอให้กายพ่อแม่ได้อนุโมทนาบุญกุศล ให้ดายนี้มีบุญ จะได้ติยแทนพระคุณพ่อแม่ที่ให้กายเรามาใช้ชั่วขณะหนึ่ง..
โฆษณา