[เรื่องเล่าเมาเมาแมน] สวยงาม ทรงพลัง แต่มันเปลี่ยนอะไรไม่ได้…. ถึงผมจะไม่ใช่กองเชียร์รัสเซีย แต่ด้วยความชอบเทคโนโลยี ต้องยอมรับเลยว่า เจ้าขีปนาวุธใหม่ของพวกรัสเซีย คือเจ้า Oreshnik นั้น ดูน่าทึ่ง สวยงาม และทรงพลังมาก

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

เรื่องเล่าเมาเมาแมน

•

25 พ.ย. เวลา 11:11 • ข่าวรอบโลก

สวยงาม ทรงพลัง แต่มันเปลี่ยนอะไรไม่ได้….

ถึงผมจะไม่ใช่กองเชียร์รัสเซีย แต่ด้วยความชอบเทคโนโลยี

ต้องยอมรับเลยว่า เจ้าขีปนาวุธใหม่ของพวกรัสเซีย

คือเจ้า Oreshnik นั้น ดูน่าทึ่ง สวยงาม และทรงพลังมาก

ภาพวัตถุความเร็วสูง ที่เสียดสีกับอากาศ จนเกิดการแตกตัว

ของอิออนเป็นแสงสว่างวาบเหมือนดาวหาง พร้อมทิ้งโซนิคบูม

เป็นทางยาวบนอากาศนั้นสวยงามมาก

และน่ากลัวมากเช่นกัน

มีรายงานข่าวด้วยว่า มันสามารถกระจายหัวรบได้ถึง

36 หัว และมีแรงลักษณะอาวุธพลังงานจลน์ด้วย

หมายความว่ามันสร้างความเสียหายได้ โดยไม่ต้องพึ่ง

หัวรบมากนัก

แต่…มันเปลี่ยนสงครามได้จริงงั้นเหรอ….

เรื่องที่ดูขัดแย้งที่สุดกับการอธิบายสรรพคุณของรัสเซีย

ก็คือความเสียหายที่เป็นรูปธรรมในยูเครนนั้น ดูน้อยเกินไป

เราอาจบอกได้ว่า ก็มันเป็นแค่การยิงขู่ โดยไม่ใส่หัวรบ

ของรัสเซีย ว่าต่อไปคือของจริงนะ อะไรแบบนั้น

ถ้าสมมุติฐานว่าจุดประสงค์รัสเซียอยู่ตรงนั้น

ก็ต้องบอกว่าการขู่ของรัสเซียครั้งนี้ ราคาแพงเกินไป

และไม่ได้ผลอะไรเลย

หลังการโดนโจมตีไม่ทันข้ามวัน

ยูเครนก็สาด storm shadow กลับไปทันที 12 ลูก

และเข้าเป้าเกินครึ่งเสียด้วย

อังกฤษ และฝรั่งเศส เจ้าของ storm shadow ก็ไม่ใช่ว่ากลัว

จนไปเบรคยูเครนว่า เฮ้ย พอก่อน เดี๋ยวมันยิงใส่ข้า

ทางอเมริกาก็ยังนิ่ง ทั้งไบเดน และทรัมป์

แถมบอก เดี๋ยวจะส่งระบบป้องกันชั้นสูงอย่าง

THAAD ไปให้เสียอีกด้วย…

(…สังเกตให้ดีนะครับ ทรัมป์ที่เคยปากไว ถ้าไม่เห็นด้วย

นิ่งมากกับประเด็นนี้

มีการวิเคราะห์ว่า ทรัมป์เองก็ต้องการให้ยูเครน

อยู่ในสถานะที่ดีกว่านี้ เมื่อต้องขึ้นโต๊ะเจรจา

เพื่อประโยชน์ทางการเมืองของทรัมป์เอง

และรักษาสถานภาพของอเมริกา

ซึ่งด้วยเหตุการณ์ปัจจุบัน มันไม่ดีเลย เขาจึงต้อง

เฉย ยอมให้ไบเดนยื้อไว้อีกสักพัก

เพื่อให้ยูเครนมีกำลังต่อรองมากขึ้น

อันนี้น่าสนใจไว้มาวิเคราะห์กันครับ

เจอบทวิเคราะห์ต้นทางของฝรั่งละ เดี๋ยววันหลังมาเขียน )

ชัดเจนมาก ว่าถ้านี่คือการขู่ มันไม่ได้ผลเลย

พวกนาโต้อาจเรียกประชุมด่วน ประเมินสถานการณ์

แต่ก็เท่านั้น พวกเขาไม่ได้เปลี่ยนท่าทีการอนุญาตให้

ยูเครนใช้อาวุธเลย แถมดูกร้าวขึ้นด้วยซ้ำ

โดยเฉพาะอังกฤษ ห้าวเป้งมาก (แต่ขาสั่นแหละ)

อังกฤษบอกเลย เอ็งยิงมาเดะ เดี๋ยวข้าสวนโชว์ที่มอสโคว์เลย

…ดังนั้น มันจึงค่อนเสียเปล่า สำหรับรัสเซีย…

อาจฟังดูโหด แต่ความจริงถ้าปูตินจะขู่ให้ได้ผล

เขาควรติดหัวรบที่รุนแรง แต่ไม่ใช่นิวเคลียร์

หรือถ้าจะโชว์แค่พิสัยและ

ความเร็วว่าตะวันตกไม่สามารถต่อต้านได้

เป้าหมายก็ไม่ควรเป็นยูเครน….

…หรือมันจะเป็นแค่โฆษณาเกินจริงอีกครั้งของปูติน ?….

ถ้าเรามองจุดมุ่งหมายของการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์

ที่รัสเซียต้องการที่สุด ก็ต้องบอกว่า พวกเขาต้องการขู่

ผู้สนับสนุนยูเครน โดยเฉพาะในยุโรป

ดังนั้นการยิงใส่ยูเครน โดยไม่หวังผลในแนวหน้าอะไร

ไม่ติดหัวรบแบบนี้ ออกจะไม่สมเหตุผลนัก

เมื่อดูจากคุณค่า และราคาของอาวุธ

ปูตินเคยบอกว่า ถ้าใครให้ยูเครนใช้อาวุธตัวเอง

ยิงเข้ารัสเซีย จะต้องถูกตอบโต้

ดังนั้น เป้าหมายที่แท้จริง ควรเป็นผลประโยชน์ของ

อังกฤษ และฝรั่งเศสมากที่สุด

ไม่ใช่การยิงระเบิดใส่ลอนดอน ปารีส

รัสเซียยังไม่มีความชอบธรรมขนาดนั้น

ตราบที่มอสโคว์ยังไม่โดน

แต่การส่งสัญญาณเตือน เช่น การยิงไปตกแถวๆ

ช่องแคบ หรือน่านน้ำอังกฤษที่ใช้ร่วมกับฝรั่งเศสนั้น

เป็นสิ่งที่ควรเกิดขึ้น ถ้าว่ากันตามตำราของสงคราม

ในกรณีถ้าเราคือรัสเซีย

ง่ายๆ ก็เหมือนที่เกาหลีเหนือ ชอบยิงอะไรไปตกในน่านน้ำ

ของญี่ปุ่น เวลาเขาซ้อมรบนั่นแหละ นั่นคือการส่งสัญญาณเตือนที่ถูกต้องตามหลักการทำสงคราม

แล้วทำไมรัสเซียไม่ทำ ?

…ไม่มีความกล้าเหมือนเกาหลีเหนือรึเปล่า

เพราะอังกฤษก็มีสถานะไม่ต่างจากญี่ปุ่นสำหรับสหรัฐ

…คิมกล้า แต่ปูตินปอดแหก งั้นเหรอ ?

…หรือที่จริง ในทางเทคนิคแล้ว….ยังทำไม่ได้ ?….

ทางยูเครนและพันธมิตรตะวันตกนั้นเข้าตรวจสอบ

ซากของจรวดเรียบร้อยแล้ว

แม้จะไม่มีรายละเอียดออกมาเลย

แต่ทางสหรัฐสรุปสั้นๆว่า มันพัฒนามาจาก

ขีปนาวุธข้ามทวีปของรัสเซียเอง

และเชื่อว่า “มีไม่มากนัก” เมื่อประเมินจากวัสดุ

และซัพพลายเชน ที่รัสเซียมีในเบื้องต้น

และอีกว่า ดูเหมือนพวกมัน ยังไม่สมบูรณ์นัก

นี่อาจเป็นสาเหตุที่พวกเขายังไม่เปลี่ยนแปลงท่าที

ที่ยังให้ยูเครนใช้อาวุธของพวกเขาต่อไป

แต่หากเราตั้งสมมุติฐานใหม่ว่า

ถ้ารัสเซียมีขีปนาวุธเหล่านี้มาก และสมบูรณ์แล้วล่ะ

มันจะให้ผลต่อสถานการณ์เปลี่ยนแปลงหรือไม่

…ก็คงต้องตอบว่าไม่….

สิ่งที่เราต้องรู้ คือเป้าหมายของตะวันตกนั้น

ไม่ใช่การให้ยูเครนชนะแต่แรกอยู่แล้ว

แต่เป็นการยื้อ ทอนทรัพยากรของรัสเซียลงไปเรื่อยๆ

ซึ่งมันกำลังได้ผลมากขึ้นเรื่อยๆ โครงสร้างภายในของ

รัสเซียในทุกมิติ กำลังอ่อนแอมากที่สุด หลังยุคโซเวียต

การมีอยู่จริง และสมบูรณ์ของ Oreshnik นั้นเปลี่ยน

แปลงอะไรไม่ได้ แม้แต่ในสนามรบ

ทำไมน่ะเหรอ ?

ง่ายมาก เพราะแม้ Oreshnik จะเจ๋งจริงอย่างรัสเซียว่า

จนไม่มีใครสกัดได้

แต่ในทางกลับกัน รัสเซียเองก็ไม่มีปัญญาป้องกัน

อาวุธหนักจากค่ายตะวันตกที่ว่าล้าสมัยกว่าได้เช่นกัน

การใช้มิไซล์อะไรก็ตามของรัสเซีย โจมตีตะวันตก

พวกเขาก็ต้องถูกตอบโต้ โดยไม่สามารถป้องกันตัวเอง

เช่นกัน การมีหรือไม่มี จึงแทบไม่ต่างกันเลย

ในความเป็นจริงแล้ว สงครามที่มันตรึงกันอยู่

ก็เพราะทั้งสองฝ่ายรู้ดี ว่าไม่สามารถรับการสวนกลับได้

จึงไม่กล้าให้มันบานปลายไปกว่านี้

…รัสเซีย จะมีหรือไม่มี Oreshnik สหรัฐก็ไม่มีปัญญาป้องกัน

อาวุธรัสเซีย ที่ยิงมามากๆอยู่แล้ว ….

…ในทางกลับกัน ถ้าสหรัฐและแก็งค์ยิงกลับไป รัสเซียเองก็ไม่มี

ปัญญาจะจัดการเช่นกัน…

สถานการณ์มันถูกตรึงมาในลักษณะนี้ การมีอาวุธใหม่

จึงไม่ใช่สิ่งที่จะเปลี่ยนอะไรได้

ความสามารถในการโจมตีเป็นเรื่องหนึ่งเท่านั้น

แต่สิ่งที่สิงฝ่ายกังวลมากกว่า คือ

ความสามารถในการป้องกันตัวเอง

สิ่งนี้แหละ ที่หยุดยั้ง Oreshnik ไม่ใช่จรวด

ของฝ่ายตรงข้าม….

แล้วถ้าถามว่า สหรัฐและพรรคพวก ไม่มีอะไร

ตอบโต้รัสเซียได้จริงเหรอ ?

อันนี้ผมเชื่อว่าปูตินเองก็ไม่ได้เชื่อในสิ่งที่เขาพูดนัก

ว่าสหรัฐไม่มีอะไรมาตอบโต้

เขานั่นแหละรู้ดีที่สุด ว่าสหรัฐมีอะไร

และการพูดแบบนี้ ยังเป็นการขิงจีนอีกต่างหาก

จีนเองก็มีไฮเปอร์โซนิคนะ เคลมว่าเร็วกว่ารัสเซียด้วย

แล้วปูว์มาพูดงี้ได้ไง

เอาล่ะ สมมุติว่าสหรัฐไม่มีจรวดที่เร็วเท่าลักษณะเดียวกันจริงๆ

แต่รัสเซียสามารถรับมือกับ Minuteman 2 ที่เหนือกว่า

TRIDENT ของสหรัฐ ที่มีแน่ๆได้งั้นเหรอ ?

โอเค สมมุติต่อว่า Minuteman ไม่ได้ล้ำเท่าทั้ง

Oreshnik และ Avangard ของรัสเซียจริงๆ

และเป็น ballistic หรือขีปนาวุธทิ้งตัว ขนานแท้

แต่ 23 มัคของมัน คือของจริง และแตกหัวรบ TRIDENT

ได้มากกว่า ทุกตัวที่รัสเซียมี

รัสเซีย มีปัญญารับมือกับสิ่งนี้รึเปล่าล่ะ ?

และมันพิสูจน์แล้ว ว่ายิงได้พิสัยไกลมาก จากเรือดำน้ำ

เช่นเดียวกับตัวอื่นในตระกูลของมัน

ด้วยเรือจำนวนมากของสหรัฐ ที่พามันเข้าใกล้เป้าหมายได้

มันจึงสามารถไปถึงทุกเป้าหมายบนโลกได้ ในครึ่งชั่วโมง !

และนี่คือที่มาของชื่อ Minuteman ของมัน

เอาเข้าจริงๆ ถ้าให้รัสเซียรับมือ TRIDENT ก็ไม่น่าเอายู่แล้ว

นี่มี Minuteman2 ตัวใหม่มาอีก ยิ่งไปกันใหญ่

สมมุติว่าล้ำไม่เท่าของรัสเซียจริง

แต่ถ้ารัสเซียรับมือไม่ได้ ผลมันก็ไม่ต่างกัน

ระหว่างของล้ำกับไม่ล้ำ

ดังนั้น การโจมตีด้วยขีปนาวุธขั้นสูงพวกนี้

จะไม่ใช่การตัดสินสงคราม และมันขู่ใครไม่ได้

…เพราะต่างฝ่ายต่างรับรู้ ว่ามันคือการตายตกตามกัน….

…นั่นแหละ มันถึงไม่ใช่สิ่งที่จะเปลี่ยนอะไรได้เลย….

…ปูติน ก็คงไม่อยากชนะแบบรัสเซียหายไปครึ่งนึงหรอก….

Minutemanของสหรัฐ พัฒนาออกมาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ในเจนแรกนั้นทำควาเร็วทิ้งตัวได้ถึง 18 มัค ส่วนเจนสองที่เพิ่งเข้าประจำการทำได้ 23 มัค และคงไม่มีใครกล้ายืนยัน ว่าเจนสามนั้นมีจริงหรือไม่ มีใครเชื่องั้นเหรอ ว่าสหรัฐหยุดเทคโนโลยีไว้แค่ยี่สิบปีก่อน ?

สำหรับปูติน แม้จะเป็นคนยังไง ต่างคนก็คงมองต่างไป

แต่สิ่งหนึ่งที่ผมเชื่อเสมอ คือเขารักแผ่นดินรัสเซียจริง

มันอาจจริง ที่เขาเอาประเทศเข้าสู่จุดอับทางเศรษฐกิจ

สังคม และน่าจะเข้าสู่จุดวิกฤตในอีกไม่ช้าแล้ว

แต่การจะปล่อยให้ประเทศนั้นย่อยยับด้วยนิวเคลียร์

หรืออาวุธสารพัดรูปแบบจากศัตรูนั้นเป็นอีกเรื่อง

…ผมไม่เชื่อ ว่าปูตินจะกล้าเอาแผ่นดินแม่ตัวเองไปเสี่ยง…

…และไม่เชื่อเช่นกันว่าสหรัฐจะกล้า…

…แต่ที่สำคัญที่สุด คือคนจ่ายเงินฝั่งรัสเซียนั่นแหละ

คือเกราะคุ้มกันสหรัฐและยุโรปที่ดีที่สุด ….

…ลื้อยิงอั๊วเจ๊ง อั๊วะไม่มีจ่ายนะโว้ย อาปูติงอ่า 😁😁😁….

ส่วนทำไม จีนถึงหยุดจรวดรัสเซียได้