25 พ.ย. เวลา 07:58 • ปรัชญา
เมื่อราวสักสามสิบปี มีพระท่านพูดให้ฟัง ว่า จิตที่ไม่มีอารมณ์กรรมตัวกระทำ .หรือ พ้นจากอารมณ์กรรมตัวกระทำได้ ..จิตก็มีความสุข
แล้วท่านก็บอกว่า คนเราอยู่กับกรรมก็ไม่รู้จักกรรม อยู่กับอารมณ์ก็ไม่รู้จักอารมณ์ ไม่รู้จักว่า อารมณ์กรรมนั้นไปดึงตัวกระทำต่างๆให้เกิดขึ้น เมื่อมันเกิดขึ้น มันก็มีการเปลี่ยนแปลง ขันธ์ห้า รูปเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณทั้งหก ..มีการเปลี่ยนแปลง .ไปตามอารมณ์ที่ดึงตัวกระทำให้เกิดขึ้น แล้วท่านก็บอกว่า จิตของเราเดินตามอารมณ์กรรมตัวกระทำ เราได้ยินท่านพูด ก็สงสัยว่ามันเป็นอย่างไรหนอ
ท่านก็บอกอีกว่า ห้า ห้า สวรรค์วิถี ..ก็ฟังไปไม่รู้ว่าคืออะไร ..๕ ที่หนึ่ง ก็เรื่ิองราวของขันธ์ห้า ๕ ที่สอง ก็เรื่อง พระคุณพ่อแม่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เรานำกายนำจิต มาเดินอยู่ในรอยทั้งสี่ ..รอยที่ไม่คล้องเวรกรรม ในสิ่งที่มีชัวิตไม่มีชีวิต นำกายนำจิต ให้เป็นหนึ่ง ทำกายให้นิ่ง จิตนิ่ง ..ปราศจากสิ่งปรุงแต่ง ปราศจากนิวรณ์ ..นำไปสร้างบุญกุศล
สิ่งที่เกิดขึ้น ..ก็จะทำให้กายนั้นเป็นกายบุญ มีบุญกุศลหล่อเลี้ยงกาย บุญกุศลก็กระจัดกระจายไป .กระจายกุศลไปให้กับผู้ที่อดยากหิวกระหาย มากัดกินน้ำเลือดน้ำหนองภายในกาย ที่เราก็ไปกินน้ำเลือดน้ำหนองของผู้ที่มีกรรม มาหล่อเลี้ยงให้คงอยู่ได้ เรากินน้ำเลือดน้ำหนอง เค้าเอร็ดอร่อย เค้าก็มากินเราเอร็ดอร่อยบ้าง เกิดอวัยวะพิกลพิการ เจ็บป่วยตาย เหมือนๆ สัตว์ๆทั้งหลาย ที่เค้า..ถูกพรากชีวิต ถูกแหล่เนื้อ ..มาถอนแบ่งขาย ให้เรากินเอร็ดอร่อย เราไปกินเค้า ..ก็ต้องแก่เจ็บตาย เหมือนอย่างเค้า
เมื่อเรารู้จัก สร้างบุญกุศล..เราเผื่อแผ่แบ่งกุศลนั้นไป .เราไม่ได้กินเนื้อกรรมของเค้าเอร็ดอร่อยอย่างเดียว แต่เราก็นำน้ำเลือดน้ำหนองนี้ ..มาสร้างบุญกุศล ให้กายนี้มีบุญ เมื่อกายมีบุญ จิตเรามีกุศล ..รู้จักคุณของผู้ที่หนุนนำกายให้จิตเราอาศัยอยู่ .เราก็เผื่อแผ่กุศลนี้ไปให้จิตของผู้ที่อดอยากหิวกระหาย ..เพราะจิตนั่น ..มีแต่กรรม ..ต้องชดใช้กรรมในสร้างขารกรรม ที่ไม่สามารถนำมาสร้างบุญกุศลบารมีช่วยเหลือจิตของตนได้ ..จิตเราก็มีความสุข สุขที่ได้สร้างบุญกุศล
โฆษณา