26 พ.ย. เวลา 13:01 • ข่าวรอบโลก

รัสเซียเลิกสงครามไม่ได้ ไม่งั้นยับ !

โกหกใครก็ได้ แต่โกหกประชาชนตัวเองไม่ได้
และลูกน้องบางคน ก็ไม่พร้อมช่วยโกหก
ต้องขอบคุณเจ๊ผู้ว่าแบงค์ชาติรัสเซีย ที่ทำให้ชาวโลก
รู้ความเป็นจริง ….
ต้องบอกก่อนว่า บทวิเคราะห์ต้นทางที่ใช้อ้างอิง
แม้มาจากสื่อตะวันตก แต่ตรงจสอบแล้วว่า
พวกเขาใช้ตัวเลขที่แบงค์ชาติรัสเซีย มาเป็นข้อมูลพื้นฐาน
ทั้งหมดมาจากแถลงของแบงค์ชาติรัสเซีย
และคำพูดของปูติน รวมถึงสถานการณ์จริงของชาวรัสเซีย
ในปัจจุบัน มันจึงเขื่อถือได้มากพอสมควร เมื่อคิดตามหลัก
วิชาการ ตัวเลข และสถิติ
เศรษฐกิจของรัสเซียเลี่ยงไม่ได้ กับการพัง
ไม่ว่าผลของสงครามจะเป็นแบบไหน ….
เราลองมาดูตัวเลขจากฝั่งรัสเซียเองกันดูก่อน…
…กองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติในปัจจุบัน มีทรัพย์สินเหลือ
เพียง 55 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือหายไปครึ่งหนึ่ง
ของที่เคยมีก่อนเริ่มสงคราม
….ปัจจุบัน รัสเซียมีดอกเบี้ยนนโยบายอยู่ที่ 21%
จึงผลักให้ดอกเบี้ยเงินกู้จริงสูงถึง 25-30% ตาม
ลักษณะการบริหารหนี้ และเครดิต ซื่งหมายถึงว่า
ถ้าเป็นบัตรเครดิต จะสูงกว่านี้
…แม้ดอกเบี้ยสูง แต่การปล่อยกู้กลับสูงมาก
ซึ่งค่อนข้าแน่นอนว่าดอกเบี้ยสูงขนาดนี้
มีแนวโน้มเป็นหนี้เสีย จากการขยายตัวที่ต่ำมากในภาคเอกชน
มันเป็นไปแทบไม่ได้ที่ผู้กู้ จะชำระดอกเบี้ยได้
1
…การปล่อยกู้ที่สูง แต่การขยายตัวในภาคเอกชนต่ำ
ย่อมหมายถึง การกู้เพื่อการบริโภค ไม่ใช่การลงทุน
หรือเรียกว่าเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดการลงทุน
ประกอบกับ ชาวบ้านเบิกเงินตัวเองไม่ได้ จึงใช้
ช่องทางการกู้แทน เขื่อได้ว่า ดอกเบี้ยขนาดนี้
คนกู้นั้น ไม่ได้คิดจะใช้คืน แต่จำเป็น เพราะเดือดร้อน
…จากผลของดอกเบี้ยที่สูงในรัสเซีย ทำให้ธุรกิจมีต้นทุนสูงขึ้น
และผลักภาระมาที่ผู้บริโภค จนราคาสินค้า บริการต่างๆ
มีอัตราพุ่งขึ้นสูงมาก โดยดัชนีราคาที่แบงค์ชาติรัสเซียทำไว้
ปรากฎว่า เงินเฟ้อสูงขึ้นถึง 9.7 จากไตรมาสก่อน และสูง
กว่ากรอบที่รัสเซียต้องการที่ 4% มาก
…แต่คาดว่าในความเป็นจริงแล้ว เงินเฟ้อสูงกว่านั้นมาก
เพราะราคาสินค้านำเข้าพุ่งสูงมาก หลายรายการ
ที่จำเป็น เช่น เนย หัวหอม น้ำมันปาล์ม มีราคาสูงกว่า
ปีก่อนถึง 30% จากต้นทุนธุรกิจ(ดอกเบี้ย)ที่สูงขึ้น
และค่าเงินรูเบิล ที่ปัจจุบัน อ่อนทะลุ 100 รูเบิลต่อดอลลาร์
ไปเรียบร้อยแล้ว และยังไม่มีทีท่าว่าจะหยุดด้วย
ส่วนนี้คือการสรุปให้เป็นประเด็น ในส่วนที่ธนาคารกลาง
รัสเซียแถลงออกมาเอง ไม่ใช่ข่าวจากฝั่งตะวันตก
…ใครพอเข้าใจเศรษฐศาสตร์ ก็คงทราบดี
ว่าตัวเลขระดับนี้ มันใกล้เคียงภาวะรัฐล้มละลายแล้ว…
…แต่มันไม่ใช่แค่นั้น เพราะรัฐบาลปูตินเอง
เพื่อสงครามแล้ว พวกเขากลับใช้นโยบายที่ซ้ำเติม
ปัญหามากขึ้น….
การบิดเบือนกลไกของภาครัฐ ก็ยิ่งสร้างปัญหา…
เป็นที่รู้กันดี ปูตินแต่งตั้งนักการเงินมาคุมกระทรวงกลาโหม
โดยมีจุดประสงค์หลัก คือใช้สงคราม และอุตสาหกรรมอาวุธ
ในการขับเคลื่อนประเทศให้ไปต่อได้
แต่เอาเข้าจริง ดูเหมือนไม่เป็นไปตามเป้า
และแถมดูแย่กว่าเดิม จนลามไปทั้งระบบ
เชื่อหรือไม่ว่าปัจจุบัน สัดส่วนงบประมาณในส่วนที่เกี่ยวข้อง
กับงบประมาณการทหารของรัสเซีย พุ่งขึ้นถึง 13%
สูงกว่าช่วงต้นปี ที่มากเท่าสมัยโซเวียตติดพันในสงครามเย็น
กับอัฟกานิสถานที่ 7% เข้าไปแล้ว ในช่วงเวลาแค่ไม่กี่เดือน
นี่คือตัวเลขเป็นทางการ ความจริงอาจมากกว่านี้
ลองคิดดู โซเวียต 7% พัง
ยุโรปไม่ถึง 2% ยังพาแย่
นี่ 13% แถมสงครามติดหล่ม มันจะเหลืออะไรล่ะ
และผลลัพธ์ในสมรภูมิ ก็ยังไม่เป็นที่น่าพอใจด้วยซ้ำ
ที่สำคัญมาก ส่วนที่พุ่งสูงขึ้นนี้ ยังไปกระทบ
กับส่วนอื่นของระบบเศรษฐกิจอย่างยิ่ง….
การเพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายภาคการทหารของรัสเซีย
อย่างรวดเร็ว แต่ยังไม่ได้ผล มันมีปัจจัยมาจากหลายอย่าง
เพราะการเพิ่มขึ้นของงบประมาณอย่างรวดเร็ว มันไม่ใช่
เพื่อการผลิตอาวุธที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้มากนัก
แต่ส่วนที่ต้องจ่ายมาที่สุดในปัจจุบัน
คืองบด้านกำลังพล ที่มากถึง 70%….
…คุ้นๆไหมครับ เรื่องนี้ ไม่ไกลตัวหรอก…
ปัญหาที่เกิด มันก็มาจากสิ่งที่เรารู้ดี
ว่ารัสเซียนั้นระดมพลครั้งใหญ่ จนมีขนาดกองทัพ
ในแง่กำลังคนมากกว่าอินเดียไปแล้ว
แน่นอน เมื่อคุณเกณฑ์คนมา ก็ต้องจ่ายเงินเดือนเขา
และคนที่ต้องไปเจ็บ ไปตายในสมรภูมิ ก็ต้องได้รับการ
ชดเชยให้ครอบครัว ซึ่งปัจจุบันแม้ไม่มีตัวเลขที่แน่นอน
แต่ก็คาดกันว่าเกินสามแสนนาย ทั้งเจ็บและตาย
ลองคิดง่ายๆ ว่าเงินเดือนคนละสักแสนรูเบิล
กำลังพลล้านนาย รัฐบาลต้องจ่ายประจำเท่าไหร่
(ซึ่งคงมากกว่านี้แหละ ปัจจุบันรูเบิลอ่อนกว่าบาทเยอะ
ทหารเกณฑ์ไทยยังหมื่นสองหรือเกือบสามหมื่นรูเบิลเลย )
และไอ้ที่ไปเจ็บ ไปตาย ค่ารักษาพยาบาล
จ่ายเงินชดเชยก้อนโตอีกล่ะ คนละเท่าไหร่
เหล่านี้คือรายจ่ายประจำ ที่พุ่งสูงขึ้น
ยิ่งทหารสูญเสียมาก รัสเซียก็ยิ่งจ่ายมาก
มันจึงทำให้พวกเขา ไม่สามารถเอาเงินมากระตุ้น
การผลิตอาวุธ เพื่อภาพรวมได้อย่างที่หวัง
ยังไม่พอนะ !
ปูตินกลัวการต่อต้าน กลัวคนหนีทหาร
ก็เลยเพิ่มเงินเดือน ค่าตอบแทนต่างๆ จนสูงขึ้นกว่าปกติมาก
ทำให้พวกเขาก็ยิ่งต้องจ่ายมาก
…และสิ่งนี้ลามไปที่ภาพรวมของระบบเศรษฐกิจ
เพราะเงินเดือนเจ้าหน้าที่รัฐจำนวนมาก ที่สูงขึ้น
มันไปดันเงินเฟ้อให้ยิ่งพุ่ง ทั้งที่เอกชนไม่โต…
…ตัวอย่างง่ายๆ ก็เหมือนรัฐบาลลุงทหารเรา
ที่ขยันขึ้นเงินเดือนข้าราชการ แล้วขึ้นที ของมันก็แพงขึ้นที
แต่ไม่ช่วยระบบเศรษฐกิจอะไรเลย แถมทำคนทั่วไปที่ไม่ใช่พนักงานภาครัฐเดือดร้อนนั่นเอง ….
มีอีกตัวเลขหนึ่งที่มาจากทางแบงค์ชาติรัสเซีย
และมาจากปากปูตินเองด้วย ซึ่งน่าสนใจมาก
ลองอ่านคร่าวๆก่อนนะครับ….
…รัสเซียปัจจุบัน มีอัตราว่างงานเพียง 2% และมีตำแหน่งงาน
ภาครัฐในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสงครามวางเป็นล้านตำแหน่ง…
….ติ๊ก ต่อก ๆๆๆ….
อ่ะ อ่านเผินๆ นี่คือเศรษฐกิจโคตรดีเลยใช่ไหมครับ
CPI ก็สูงปรี้ด ตั้ง 9.7
อันนี้เทียบได้กับตัวเลขจีนสมัยบูมๆเลย
แต่….พอไปดูไส้ใน ที่แม้แต่ปูตินเองก็ยอมรับ
คือมันโคตรเน่าเลยครับท่าน
ถามว่า ทำไมคนว่างงานต่ำ และมีตำแหน่งงานว่างเยอะ
มันจะเน่าได้ไง
คำตอบคือ ที่ตัวเลขมันเป็นแบบนั้น เพราะรัฐบาล
บิดกลไก แต่ดันมีปัญหาขาดแคลนแรงงาน
คือ 2% ของคนวัยทำงานในรัสเซียที่ว่างงานเนี่ย
อาจด้อยศักยภาพจริงๆ อาจป่วย พิการ ทำงานไม่ได้
ที่เหลือ มีงานมีหน้าที่ประจำหมดแล้ว
ปูตินไม่สามารถเอาคนวัยทำงานทุกคน มาเป็นแรงงาน
ในภาคอุตสาหกรรมการทหารได้ เพราะไม่งั้น ใครจะผลิตอาหาร น้ำมัน และสิ่งอื่นๆล่ะ
แต่ปูตินดันไปผลักดันอุตสาหกรรมการทหาร
ซะใหญ่โต หรืออีกนัยคือโม้เกินเหตุ
มันก็เลยขาดคน เป็นโรงงานเปล่าๆ หรือไม่ใช่
โรงงานที่จะสามารถผลิตได้ตามเป้า
แถมปัจจัยการผลิตที่จำเป็นก็ไม่พอ เหมือนจ้างคน
มากมายมานั่งกินเงินเดือนให้เปลืองเปล่าๆ
ไอ้ที่ต้องอาวุธเกาหลีเหนือ อิหร่านมาใช้
เหตุผลสำคัญมาก ก็คือขาดคนมาผลิตนี่แหละ
ตัวเลขสวย แต่สวยแบบเน่าๆนะ อันนี้คือปัญหา
ขั้นวิกฤตเลย ถ้าประเทศไหนเจอตัวเลขแบบนี้
ให้สันนิษฐานเลยว่า เน่าในแน่
แล้วถามต่อว่า คนรัสเซียหลายร้อยล้าน
มันหายไปไหนหมด
คำตอบก็ง่ายๆ ไปตาย ไปเจ็บ ไปเป็นทหาร
บ้างก็หนีการเกณฑ์ทหาร แม้แต่ผู้หญิงก็หนี
เพราะในบ้าน เอกชนไม่มีการจ้างงานมากพอ
ส่วนที่เหลือ มีหน้าที่ต้องทำอยู่แล้ว
จะดึงมาโรงงานอาวุธสนอง need ปูตินอย่าเดียวมันไม่พอ
ทีนี้ มันก็วนกลับไปจากที่เขียนไปแล้ว
ปูติน ก็เลยต้องขึ้นเงินเดือนเจ้าหน้าที่รัฐ
หวังดึงคน ให้มาทำงานให้
โดยเฉพาะพวกที่ออกมานอกประเทศ
แต่ก็ไม่ค่อยได้ผล คนออกแล้วไม่กลับ แม้จะเริ่มเงินหมด
กันแล้ว หลังผ่านมาสองปี
คนรัสเซียที่อยู่ภูมิภาคตะวันออกไกล ก็ไม่อยากยุ่งด้วย
เกษตรกรก็ทำของเขาไป ไม่มีใครอยากทิ้งบ้าน
ด้วยเหตุนี้ รัสเซียถึงได้ขาดแรงงาน
แม้จะมีประชากรมากก็ตาม….
…มีข่าวที่ไม่รู้ว่าจริงไหม ว่าปูตินถึงขนาดต้องเอาคนแก่
มาทำงานเลยทีเดียว…
…และเราต้องไม่ลืม ว่าในประเทศรัสเซีย มันไม่ได้ทีแต่ชาวรุส
มันยังมีสารพัดเผ่าอีกมาก ซึ่งคนเหล่านี้เขาก็ไม่ได้อยากอยู่
กับรัสเซียซะเท่าไหร่อยู่แล้ว แม้จะอยากได้เงิน แต่ก็ไม่อยากทำงานให้รัฐบาลกลาง จึงไม่สามารถเอาเขามาเป็นแรงงานได้
…คนกลุ่มนี้อยู่ชิลๆ ดูรัสเซียตะวันตกของชาวรุสล่มสลาย
เพื่อรอวันเป็นเอกราชเสียมากกว่า จะไปช่วยปูตินทำไมล่ะ…
1
ความเน่าในของเศรษฐกิจรัสเซียนั้น
ดูเหมือนปิดไม่มิด และแย่ลงตลอดเวลา
แบงค์ชาติรัสเซีย ยอมรับมาตลอดเวลา
ผู้ว่าเองฯก็ไม่อยากทำงาน ที่มันเป็นไปไม่ได้นี้
ก็ไม่รู้เพราะนางพยายามลาออกมากลายครั้งแล้วไม่สำเร็จ
รึเปล่า เลยไม่ช่วยปูตินปิดข้อมูล เหมือนหาเรื่องโดนไล่ออก
1
มันจึงทำให้โลกได้เห็นข้อมูลตรงๆแบบนี้
ในขณะที่ชาวรัสเซียก็ไม่น้อยหน้า ช่วยกันแฉความเละเทะ
ของระบบเศรษฐกิจออกมาเสมอ ทางโซเชี่ยลของตน
ปัจจุบันข้าวของราคาแพง ถึงขนาดซุปเปอร์มาร์เก็ต
ต้องล็อกตู้กัน จำกัดการขายลยทีเดียว โดยเฉพาะของนำเข้า
ซึ่งพุ่งสูงมาก
ปัญหาส่วนมาก พบในเมืองรองๆ ไม่ใช่เมืองใหญ่
ซึ่งนั่นหมายถึงคนส่วนมากของรัสเซียเดือดร้อน
…คลิปปล้นเนย ขโมยหัวหอม แม่บ้านเดินด่าไปตามถนน
คลิปเหล่านี้ ออกมาจากรัสเซีย โดยคนรัสเซียจริงๆ โดนดำเนินคดีกันไปก็เยอะแล้ว…
ปูตินพยายามปิด ด้วยการตั้งค่าปรับ และรางวัลนำจับ
แต่ก็เหมือนยิ่งว่ายิ่งยุ ชาวบ้านกลับยิ่งแฉ
ล่าสุดในการแถลงของแบงค์ชาติรัสเซีย
ประเมินแล้วว่า ปีหน้ารัสเซียจะโตได้อย่างมากที่สุด
ไม่เกิน 1.5% จากการใช้จ่ายภาครัฐ
และมีโอกาสต่ำกว่านั้นมาก โดยตั้งแย่ที่สุดไว้
ที่ 0.5% จากคาดการณ์ว่าจีนเองก็คงมาลงทุนน้อยลง
ซื้อของรัสเซียน้อยลง หากทรัมป์เปิดสงครามการค้ากับจีน
เพราะถ้ามีสงครามการค้าจริง จะอย่างไรจีน
ก็ต้องลดกำลังการผลิตลง การสั่งซื้ออะไรจากรัสเซีย
ย่อมต้องน้อยลงไปด้วย หรือร้ายกว่านั้น คือพวกเขา
จะเอาสินค้าที่ปล่อยยาก มาถล่มตลาดรัสเซียด้วยซ้ำ
…นี่คือสิ่งที่จะเป็นไปในรัสเซีย ซึ่งไม่ว่า propaganda อะไร
ก็คงไม่สามารถหักล้างได้ เพราะคนพูด มันก็คือคนที่ดูแล
การเงินของรัสเซียนั่นเอง….
รัสเซียจะทำอะไรได้ หรือมีอาวุธดีแค่ไหน
มันคงไม่มีประโยชน์อะไรเลย
ถ้าสุดท้ายแล้วประชาชนต้องอยู่ในสภาวะ
ขอทาน และนักส่งออกโสเภณีแห่งยุโรป
เหมือนที่เคยเป็น หลังโซเวียตล่มสลายใหม่ๆ
เราไม่มีทางรู้ ว่านิยามคำว่าชาติ ของปูตินคืออะไร
…เขตแดน แสนยานุภาพ ประชาชน…
…หรือตัวเขาเอง…
แต่สิ่งที่กำลังเป็น และต้องเป็น
มันก็ไม่หนีจากคำว่าสิ้นชาติไกลนักหรอก
…เพราะสิ่งสำคัญที่สุดของความเป็นชาติ คือ ประชาชน…
…ประชาชนเดือดร้อน จะมาบอกว่าข้าชนะ มันไม่ใช่หรอก…
…ตอนนี้ ปูตินจึงต้องหล่อเลี้ยงสงครามไว้ เพื่อเบี่ยงประเด็น…
…เลิกตอนนี้ก็พังสิ ทรัมป์เลิกคิดได้เลย….
อ้างอิง
แถลงของแบงค์ชาติรัสเซีย
บทวิเคราะห์ (ควรอ่านตัวเลขจากแบงค์ชาติรัสเซียประกอบ)
ถ้าออกนอกเมืองใหญ่ไป เนยต้องแย่งกัน จนต้องปล้นแหละ
โฆษณา