26 พ.ย. เวลา 07:49 • หนังสือ

ผู้​ ใ​ ห​ ญ่ ลี​ กั​ บ​ น​ า​ ง​ ม​ า

นิยายโรแมนติกเบาสมองเล่าเรื่องราวของชีวิตชาวนาที่เป็นปัญญาขน​ และต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวนาไทย
นวนิยายเรื่องหนึ่งที่สะท้อนสภาพสังคมชนบทของไทยที่เป็นสังคมเกษตรกรรมได้อย่างสร้างสรรค์และมีสาระร่วมสมัย แม้ผู้เขียนจะแต่งไว้นานเกือบหกสิบปีแล้วก็ตาม​คือเรื่อง​ "ผู้ใหญ่ลีกับนางมา" ของ​ กาญจนา นาคนันทน์​ (นามปากกาของนงไฉน​ ปริญญาธวัช)​ ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (นวนิยายและเรื่องสั้น) ปีพ.ศ.​๒๕๕๕
.
เรื่อง "ผู้ใหญ่ลีกับนางมา" นั้นผู้เขียนได้แรงบันดาลใจจากเพลงลูกทุ่งชื่อ​ 'ผู้ใหญ่ลี'​ ที่ขับร้องโดย ศักดิ์ศรี ศรีอักษร ซึ่งเป็นเพลงยอดนิยมที่ดังไปทั่วเมืองไทยเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๔​ นิยายไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับเพลงเนื่องจากเรื่องราวเกิดขึ้นที่ทุ่งรังสิต อำเภอลำลูกกา​ จังหวัดปทุมธานี ซึ่งผู้เขียนคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก ขณะที่ในเพลง​ 'ผู้ใหญ่ลี' นั้นเรื่องเกิดขึ้นในภาคอีสาน​
.
"ขณะที่เพลงผู้ใหญ่ลีฮิตนั้น ชาวกรุงทั้งที่มีวิทยุและไม่มี จะต้องได้ฟังเพลงนี้แหวกอากาศมาวันหนึ่งๆ ไม่รู้กี่ครั้ง ดิฉันได้ฟังครั้งใดก็นึกถึงผู้ใหญ่ลีและชาวอีสานด้วยความเอ็นดูทุกครั้งไป จึงมาคิดว่าปั้นผู้ใหญ่ลีขึ้นมาใหม่สักคนเถอะ อย่าให้ใครเยาะเย้ยได้เลย ซึ่งมีอยู่ทางเดียวเท่านั้นคือ ให้เขาได้รับการศึกษาอย่างดี... (น. ๖)
.
ในเรื่อง​ "ผู้ใหญ่ลีกับนางมา" ผู้ใหญ่ลีมีชื่อจริงว่า​ "ลีนวัตร" เป็นชาวนาและผู้ใหญ่บ้านที่ยังหนุ่ม​ เรียนจบจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์​ และมุ่งมั่นจะช่วยพัฒนาชีวิตชาวนาชาวไร่ให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี​ ส่วนนางมานั้นชื่อเต็มว่า “มาลินี” หรือที่เพื่อนๆ​ เรียกเธอว่า​ "แม่มา"
.
ครั้นเพลงผู้ใหญ่ลีฮิต​ เธอจึงถูกเพื่อนล้อเลียนว่าเป็น​ "นางมา" ของผู้ใหญ่ลี​ และเธอก็มีอารมณ์ขันพอที่จะรับคำล้อเลียนนี้ด้วย​ มาลินีใช้ชีวิตอยู่คนเดียวอาศัยอยู่ในหอพัก​ที่กรุงเทพฯ​ รับจ้างเดินแบบหารายได้พิเศษบ้าง และไม่เคยคิดจะไปจากที่นี่​ แต่เธออยากมีบ้านของตัวเอง
.
ตั้งแต่เล็กมาลินีไม่สนิทกับคุณยาย​(คุณนายวัน)​ เลย​ แม่เคยเล่าให้ฟังว่า เมื่อสาวๆ คุณยายเคยอยู่ในรั้วในวัง​และแต่งงานกับคุณตา​ แต่คุณตาเป็นคนเจ้าชู้​ คุณยายจึงพาคุณแม่ออกมาอยู่แถวรังสิตและได้สามีใหม่เป็นชาวบ้านธรรมดา แต่เป็นคนดีและซื่อสัตย์ คุณแม่ของมาลินีไม่ชอบชีวิตท้องนา​ และมักกลับไปอยู่กับคุณตาที่กรุงเทพฯ เสมอจนแต่งงานกับคุณพ่อของเธอ​ นานๆ​ ทีคุณแม่จะพาเธอไปเยี่ยมคุณยายสักครั้ง​ มาลินีจึงเหินห่างกับคุณยายและไม่คุ้นเคยกับชีวิตชาวนา
.
 
วันหนึ่งมาลินีได้รับจดหมายจากคุณยายให้ไปรับมรดกเป็นบ้านและที่นาหลายร้อยไร่แถวคลอง​ ๑๑​ ย่านรังสิต แต่เมื่อเธอไปถึงบ้่านคุณยายกลับพบว่าคุณยายเสียไปแล้วสองสัปดาห์ โดย “ผู้ใหญ่ลี” เป็นผู้ดูแลงานศพทั้งหมด มาลินีไม่พอใจที่ผู้ใหญ่ลีแจ้งเธอให้รู้เรื่องการตายของยาย​อย่างล่าช้าทำให้เธอไม่ได้ไปร่วมงานสวดศพคุณยาย​
.
เรื่องราวความผิดพลาดในการสื่อสารระหว่างผู้ใหญ่ลีและนางมาตั้งแต่เริ่มต้นเป็นเหตุทำให้เกิดเรื่องเข้าใจผิดอย่างขำขันและทำให้มาลินีมีอคติต่อผู้ใหญ่ลีไปต่างๆ​ นานา​ โดยที่เธอก็ไม่เคยได้เจอตัวจริงผู้ใหญ่ลี​ เมื่อเจอผู้ใหญ่ลีกำลังซ่อมรถแทร็คเตอร์ เธอก็เข้าใจผิดว่าเขาคือนายเหว่า​ เขาจึงขอให้เจ้าปื้ด ลูกชายวัยเก้าขวบ​ ช่วยปกปิดความจริงต่อไปว่า
.....
"เออ​ ปื้ด พอปื้ดกลับไปบ้านนั้นอย่าพูดถึงพ่อเลยได้ไหม​ ไม่ต้องถามคุณคนนั้นว่าพ่อมาทำไม​ ธุระอะไร"
"ทำไมล่ะครับ"
"พ่อไม่อยากให้คุณผู้หญิงคนนั้นรู้ว่าพ่อคือใคร​ เมื่อเช้านี้เขาคงนึกว่าพ่อเป็นนายเหว่า​ ก็อยากปล่อยให้เขาเข้าใจอย่านั้นต่อไป"
"เรอะครับ​ มิน่าล่ะ!" ปื้ดเอาฝ่ามือทั้งสองตบหน้าขา
"อะไรลูก"
"คุณผู้หญิงคนนั้นซีฮะ​ ชมนายเหว่าใหญ่"
"ชมว่ายังไง"
" ชมว่าหลอมาก​ ที่แท้พ่อนี่เอง​ โอ้ย! ปื้ดดีใจจริง" (น.​๘๓)
.
มาลินีสงสัยด้วยว่า​ผู้ใหญ่ลีคงหวังในที่ดินของยาย​อย่างแน่นอน เพราะคุณยายบอกในจดหมายว่าถ้าเธอไม่คิดจะทำนาต่อก็ห้ามให้ปล่อยใครเช่าที่ดินทั้งหมดนี้ทำนา​ และก็ให้ขายที่นาแก่ผู้ใหญ่ลี แต่เพียงผู้เดียว มาลินี รู้ตัวดีว่าไม่สามารถทำนาได้ เพราะเธอไม่เคยอยู่บ้านนอกไม่เคยทำนาเลย และที่สำคัญเธอยังรักอาชีพเดินแบบของเธอ​ จึงเคืองผู้ใหญ่ลีอย่างมาก
.
ก่อนมาบ้านคุณยายที่คลอง​ ๑๑​ มาลินีเพิ่งทะเลาะกับประดิษฐ์ แฟนเก่าจอมเจ้าชู้​ เมื่อไปอยู่ที่รังสิตเธอคิดว่าจะอยู่ไม่นาน​ แต่แล้วเธอกลับค่อยๆ​ ชอบชีวิตชาวนาชาวไร่​ แม้จะทำอะไรไม่เป็นเลยแต่ก็ไม่รู้สึกเหงาเพราะมีแม่ปุย​ มารดาของผู้ใหญ่ลี​ และเจ้าปื้ด มาอยู่เป็นเพื่อน​ การได้สัมผัสชีวิตชนบท​ ความมีน้ำใจ​และ
ความเอื้อเฟื้อช่วยเหลือต่าง​ ๆ​ จากครอบครัวและคนงานของผู้ใหญ่ลี​ ชีวิตประจำวันในท้องนาและการเตรียมงานเผาคุณยายทำให้มาลินีได้เจอผู้ใหญ่ลีในที่สุด​ มาลินีจึงคลายความทุกข์จากเรื่องแฟนเก่า​...
.
ผู้ใหญ่ลีรักและนับถือคุณนายวัน​ คุณยายของมาลินีอย่างมาก เมื่อเขายังเด็กพ่อและแม่จะไม่ให้เขาเรียนต่อ เพราะเกรงว่าเมื่อเรียนสูงๆ แล้วจะทิ้งท้องนาไปเอาดีทางราชการ​ เพราะพ่อมีลูกชายเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงทำนาอยู่คนเดียว เกรงว่าไร่นาที่อุตส่าห์ซื้อไว้จะไม่มีใครช่วยงานต่อ​ เขาสัญญากับพ่อว่าจะไม่ทิ้งท้องนา​ จึงได้เรียนจนจบมัธยมปีที่​ ๖​ คุณนายวันก็ยังสนับสนุนให้เขาไปเรียนต่อที่กรุงเทพฯ​ เพราะเขาเป็นเด็กที่เรียนดี คุณนายวันคอยช่วยเหลือค่าเสื้อผ้าและหนังสือ​ และจ้างเขาทำงานที่บ้านให้มีรายได้...
.
ลีนวัตรจึงได้เรียนต่อจนสำเร็จปริญญาเกษตรศาสตรบัณฑิต และเป็นที่รักของชาวบ้านและได้รับความไว้วางใจเลือกเขาเป็นผู้ใหญ่บ้านต่อจากพ่อของเขาคือผู้ใหญลอในวัย​เพียง ๒๕​ ปี ผู้ใหญ่ลีจึงคอยดูแลเอาใจใส่ช่วยงานคุณนายวันผู้มีพระคุณกับเขาทุกอย่างจนท่านเสียชีวิต
.
แม้จะโกรธผู้ใหญ่ลีที่ปล่อยให้เธอเข้าใจผิดว่าเขาคือนายเหว่า​ คนงานในบ้าน​ จนเป็นที่ขบขันและดูเปิ่น​ ๆ​ ในสายตาคนอื่นหลายเรื่อง​ แต่ความจริงใจที่เธอได้รับและความเป็นตัวของตัวเองเมื่อได้รู้จักผู้ใหญ่ลี​ ทำให้ทั้งผู้ใหญ่ลีและมาลินีเริ่มมีความรู้สึกประทับใจต่อกัน​มากขึ้น​
.
"ผู้ใหญ่ลีกับนางมา" เป็นเรื่องที่จำลองภาพชีวิตชนบทได้อย่างมีชีวิตชีวาและสาระร่วมสมัย​ที่ล้ำยุคในสังคมไทยเมื่อเกือบหกสิบปีก่อน ชีวิตชาวนายังมีสถานภาพไม่ดีขึ้นจากอดีต​ เช่นที่ผู้เขียนถ่ายทอดความคิดของผู้ใหญ่ลีให้ผู้อ่านรับรู้ว่า​ ชีวิตชาวนาเหน็ดเหนื่อยมาแต่ไหนแต่ไร​ ออกไปทุ่งนาตั้งแต่ท้องฟ้าเพิ่งจะสาง​ กว่าจะกลับบ้านก็ตะวันลับฟ้า
.
"...จะทำอย่างไรชีวิตชาวนาถิ่นนี้ถึงจะดีขึ้นกว่าเดิม​ ... เขาไม่เคยฝันหวานถึงขนาดให้ชาวนาไทยขับคาดิแลคเข้ามาจอดในบ้่านอย่างชาวนาต่างประเทศที่เคยเห็นในภาพยนตร์... เขาเพียงปรารถนาให้พี่น้องชาวนาของเขาได้มีที่นาของตนเองพอสมควร​ ได้รับการศึกษาและเอาใจใส่ในด้านสาธารณูปโภค เพื่อยกมาตรฐานการครองชีพให้ดีกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้​ (น.​๔๕๑)​
.
นอกจากคุณค่าด้านภาษาแล้ว​ เรื่อง​"ผู้ใหญ่ลีกับนางมา" ยังสะท้อนภาพทุ่งรังสิตในอดีตได้อย่างชัดเจน​ ซึ่งปัจจุบันพัฒนาเปลี่ยแปลงไปมาก​ มีทั้งหมู่บ้านจัดสรร​ มหาวิทยาลัย​ โรงพยาบาลขนาดใหญ่​ และคนอาศัยจำนวนมาก​ ฯลฯ​ เรื่องนี้จึงเป็นนิยายที่สะท้อนสังคมไทยอย่างสร้างสรรค์​
.
เราได้เห็นภาพชีวิตที่สมจริงของชาวนา​ เช่นเมื่อผู้เขียนเปรียบความร่ำรวยของคุณนายวันว่ามีโรงเก็บควายใหญ่โตขนาดเทียบเท่าสถานีรถไฟหัวลำโพง​ และภาพเตรียมการปลูกข้าวเมื่อใกล้ถึงฤดูฝน​ ผู้ใหญ่ลีเป็นคนเดียวในคลอง​ ๑๑​ ที่มีรถแทร็คเตอร์ก็ไปช่วยไถนาในที่นาของมาลินี​ เมื่อเสร็จแล้วก็ไปรับจ้างไถนาในที่นาถัดไป
.
นอกจากนี้​ ผู้เขียนยังสอดแทรกเรื่องการเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่​ วัฒนธรรมอาหารในชุมชน​ งานบวช​ งานเผา​ และงานแต่งงานฯลฯ ความสัมพันธ์ของคนในชุมชนจากคลองต่างๆ​ สิ่งที่ทำให้นิยายเรื่องนี้มีเสน่ห์น่าติดตามเสมอคือ​ อารมณ์ขันของตัวละครต่างๆ​ และมุมมองความคิดต่อสังคมผ่านบทสนทนา​ทำให้อ่านได้อย่างเพลิดเพลิน​ตลอดเรื่อง​ ผู้ใหญ่ลีกับนางมาจะลงเอยกันอย่างไรจึงน่าติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ
.
หนังสือเรื่อง"ผู้ใหญ่ลีกับนางมา" ตีพิมพ์ครั้งแรกในนิตยสารสตรีสาร​ ช่วงปี​ พ.ศ.​๒๕๐๘-๒๕๐๙​ และพิมพ์รวมเล่มครั้งแรกเมื่อปี​ พ.ศ.​๒๕๑๑​ นิยายเรื่องนี้มีผู้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์ตั้งแต่ปี​ ๒๕๑๔​- ปี​ ๒๕๕๒​ กาญจนา นาคนันทน์​ เสียชีวิตในวัย​ ๙๓​ ปี​ ท่านยังมีผลงานเขียนเรื่องอื่น​ ๆ​ อีกเช่น​ ธรณีหนี้นี้ใครครอง ผู้กองยอดรัก​ ยอดรักผู้กอง ฯลฯ
=======
เครดิตภาพปกจาก​ Internet
#อ่านอีกครั้งก็ยังชอบ​ #กาญจนานาคนันทน์ #ผู้ใหญ่ลีกับนางมา​ #นวนิยาย #ชาวนา​ #เกษตรกรรม​ #การใช้ชีวิตอย่างพอเพียง​ #รังสิตคลองสิบเอ็ด
โฆษณา