สถานการณ์สัญญาของซาลาห์เกิดขึ้นได้ยังไง ทำไมไม่เซ็นกันซะที อธิบายแบบเข้าใจง่าย
โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ทำให้บรรยากาศในแคมป์แอนฟิลด์ดุเดือดทันที เมื่อพูดตรงๆ ว่า "รอข้อเสนอสัญญาฉบับใหม่" จากลิเวอร์พูลอยู่
คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมการเจรจาถึงไม่คืบหน้าเสียที?
ปัญหาที่สโมสรติดขัดคืออะไร การต่อสัญญากับผู้เล่นคีย์แมนของทีม มันไม่น่าจะยุ่งยากขนาดนั้น
แบ็กกราวน์ของเรื่องนี้ คือซาลาห์จะหมดสัญญากับลิเวอร์พูล หลังจบฤดูกาลนี้ แปลว่าถ้าการต่อสัญญาไม่เกิดขึ้นภายในปีนี้ (2024) เมื่อเข้าสู่เดือนมกราคม 2025 ซาลาห์สามารถเจรจากับทีมอื่น เพื่อเซ็นสัญญาย้ายทีมล่วงหน้า ตามกฎบอสแมนได้ทันที
จนถึงวันนี้ เข้าสู่เดือนพฤศจิกายน 2024 การเจรจาก็ยังไปไม่ถึงไหน คือมันควรจะเซ็นกันได้แล้ว หลายคนเลยเข้าใจว่า ซาลาห์ต้องการปล่อยให้สัญญาหมดหรือเปล่า เพื่อที่ในฤดูกาลหน้า เขาจะได้ย้ายไปทีมอื่นได้ฟรีๆ ตามกฎบอสแมน
ถ้าย้ายฟรี แปลว่าค่าเหนื่อยที่ซาลาห์ได้รับจะเพิ่มขึ้นมหาศาล เพราะสโมสรที่จะซื้อ ไม่ต้องจ่ายค่าตัวแล้ว ก็เอาเงินมาโปะให้ค่าเหนื่อยได้เต็มๆ
อย่างไรก็ตาม ซาลาห์ประกาศจุดยืน หลังเกมพบกับเซาธ์แฮมป์ตันว่า เขาอยากอยู่ลิเวอร์พูลต่อ อยู่ที่ผู้บริหารแล้ว ว่าอยากจะมีเขาต่อไปไหม
---------------------
ตั้งแต่อยู่ลิเวอร์พูลมา 8 ฤดูกาล ซาลาห์แทบจะไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนตาม Mixed Zone เลย
คือนับดูแล้วเขาเดินมาคุยแบบนี้ไม่เกิน 3 ครั้ง แต่จบเกมกับเซาธ์แฮมป์ตัน เขาเดินมาหานักข่าวที่ยืนรออยู่ ประมาณ 2-3 คน หนึ่งในนั้นคือช่อง NBC แล้วตอบคำถามเรื่องสัญญาของตัวเองอย่างละเอียด
นักข่าว: สถานการณ์ล่าสุดเรื่องสัญญาเป็นอย่างไรบ้าง
ซาลาห์ : คือ ตอนนี้ก็ใกล้จะถึงเดือนธันวาคมแล้ว แต่ผมยังไม่ได้รับข้อเสนออะไรจากสโมสร บางทีผมน่าจะมีโอกาสย้ายออกไป มากกว่าได้อยู่ต่อ
นักข่าว : แปลว่าจริงๆ แล้วคุณอยากอยู่ที่ลิเวอร์พูลต่อ?
ซาลาห์ : ผมอยู่กับสโมสรแห่งนี้มานานหลายปีแล้ว แต่ในท้ายที่สุด ทุกอย่างมันไม่ได้อยู่ในมือผม ก็เหมือนที่ผมพูดเมื่อกี้ นี่ก็เดือนธันวาคมแล้ว ผมยังไม่รู้อนาคตของผมเลย
นักข่าว : แต่ดูจากปฏิกริยาของแฟนๆ ในเกมกับเซาธ์แฮมป์ตัน พวกเขาก็อยากให้คุณอยู่ต่อนะ
ซาลาห์ : ผมรักแฟนๆ และแฟนๆ ก็รักผมนะ แต่สุดท้าย ผมกับแฟนๆ ก็ไม่ใช่คนตัดสินใจเรื่องนี้ ดังนั้นเอาเป็นว่ารอดูละกัน
นักข่าว : แล้วคุณรู้สึกอย่างไร ที่สโมสรไม่ยื่นข้อเสนอมาให้ มันทำให้คุณผิดหวังหรือเปล่า
ซาลาห์ : แน่นอนสิ ผมผิดหวัง
นักข่าว : คุณพูดเรื่องนี้กับสโมสรว่าไงบ้าง ที่ไม่ยอมยื่นข้อเสนอมาให้เสียที
ซาลาห์ : คือผมไม่มีแผนที่จะแขวนสตั๊ดใกล้ๆ นี้แน่นอน ดังนั้น ผมก็จะมุ่งมั่นเล่นฟุตบอลต่อไปก่อน ส่วนตอนนี้ก็โฟกัสกับฤดูกาลนี้ และพยายามคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกให้ได้ หรือบางทีอาจรวมถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกด้วย ผมผิดหวัง (ที่ยังไม่ได้รับข้อเสนอ) แต่เราต้องมาดูกัน
นักข่าว : ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีข่าวว่าคุณอาจจะย้ายไปซาอุดิอาระเบีย แต่ดูเหมือนคุณจะไม่อยากย้ายไปที่นั่นนะ
ซาลาห์ : ผมไม่อยากจะพูดถึงเรื่องนั้น ผมแค่อยากโฟกัสกับทีมตัวเองก่อนในตอนนี้
นักข่าว : ปีหน้าคุณจะอายุ 33 ปี คุณคิดว่าสามารถยืนระยะได้แบบเมสซี่ หรือ โรนัลโด้ ในช่วงปลายอาชีพได้ไหม
ซาลาห์ : อย่างที่พวกคุณเห็น ผมเป็นมืออาชีพมากๆ ทุกคนน่าจะเห็นว่าผมมุ่งมั่นแค่ไหน และทัศนคติของผมในการทำงานเป็นอย่างไร ผมต้องการจะสนุกกับฟุตบอล และลงเล่นในระดับสูงสุดนานที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ (ชี้นิ้วไปที่ฟาน ไดค์) ผมกับชายนี้น่ะนะ (Note : จะสื่อว่า เขากับฟาน ไดค์ สามารถยืนระยะต่อไปได้นานๆ แน่นอน)
นักข่าว : ที่คุณมุ่งมั่นเต็มที่ในสนามช่วงนี้ เพื่อโอกาสในการต่อสัญญางั้นหรือ?
ซาลาห์ : ไม่เลย ที่ผมตั้งใจเล่นเต็มที่ เพราะนี่คือตัวตนของผม ผมพยายามทุ่มเททุกอย่าง เพื่อตัวผมเอง และเพื่อสโมสร แต่เอาเป็นว่าเรามาดูละกัน ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป
---------------------
การที่ซาลาห์ออกมาพูดตรงๆ แบบนี้ เป็นการประกาศจุดยืนที่ชัดเจนมาก ว่าเขาอยากอยู่ต่อนะ ไม่คิดจะไปไหนทั้งนั้น อยู่ที่สโมสรเองนั่นแหละ ว่าจะต่อสัญญาหรือไม่ ง่ายๆ แค่นั้นเลย
ที่ผู้คนคาดเดากันว่า ซาลาห์อยากย้ายตัวไปฟรีๆ เพื่อไปโกยเงินกับลีกซาอุฯ หรือ เปแอสเช ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น ตัวเขาอยากอยู่ลิเวอร์พูลอีกนานๆ
คำถามที่น่าสนใจคือ ทำไมการต่อสัญญาซาลาห์ถึงมีปัญหานัก ?
อย่างแรก คือ ทางสโมสรก็คงไม่คาดคิดเช่นกัน ว่าในวัย 32 ปี ซาลาห์จะยังคงยอดเยี่ยมขนาดนี้
ในฤดูกาล 2024-25 ซาลาห์ คือนักเตะที่มี "ส่วนร่วมกับประตู" เยอะที่สุดในพรีเมียร์ลีก ยิง 10 แอสซิสต์ 6
สถิติบอกว่า ถ้าหากไม่มีซาลาห์อยู่ในทีม ลิเวอร์พูลจะทำแต้มหล่นหายไป 17 แต้ม และร่วงมาอยู่อันดับ 13 ของตาราง แทนที่จะเป็นจ่าฝูงอยู่แบบนี้
ถ้าหากซาลาห์เล่นไม่ดีมากขนาดนี้ สโมสรก็จะได้เปรียบในการเจรจา อาจจ่ายค่าเหนื่อยได้ถูกลง หรือ แม้จะไม่ต่อสัญญา แฟนๆ ก็อาจทำใจรับได้
แต่พอซาลาห์ทั้งยิง ทั้งแอสซิสต์ กระจุยแบบนี้ พาทีมทะยานหัวตาราง แถมเขามีลุ้นดาวซัลโวอีก มันก็คนละเรื่องกันแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น เว็บไซต์ Goal ได้จัดอันดับ Power Ranking ว่านักเตะคนไหน ด้วยฟอร์ม ณ ขณะนี้ มีลุ้นบัลลงดอร์มากที่สุด ซึ่งซาลาห์ยืนเบอร์ 1 นำหน้าทุกคนบนโลก
ด้วยฟอร์มเลเวลนี้ ถ้าจะต่อสัญญา เป็นไปไม่ได้เลย ที่สโมสรจะจ่ายค่าเหนื่อยน้อยลงจากเดิม ที่ได้รับอยู่ที่ 350,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์
อย่างที่สอง คือ สโมสรเองหวาดกลัวการ "ถดถอย" ในฝีเท้า
นักเตะที่อายุ 30 ปี หลายๆ คน พออายุเพิ่มขึ้นอีกแค่นิดเดียว จากที่เคยเก่งๆ กลายเป็นเชื่องช้า และเป็น Deadwood ของทีมไปเลย
กรณีศึกษาที่เคยเห็นก่อนหน้านี้ คือ อาร์เซน่อล
ตอนปิแอร์-เอเมริค โอบาเมย็อง เหลือสัญญากับสโมสรอีก 1 ปี เขาระเบิดฟอร์มแรง ยิง 2 ประตูในนัดชิงเอฟเอคัพ ปี 2020 ทำให้อาร์เซน่อลคว้าแชมป์ได้สำเร็จ แฟนๆ กระตุ้นให้สโมสรเก็บฮีโร่คนนี้เอาไว้กับทีมทันที
สุดท้ายอาร์เซน่อลเซ็นสัญญา 3 ปี จ่ายวีกละ 300,000 ปอนด์ให้โอบาเมย็อง ซึ่งพอทันทีที่ได้สัญญา โอบา ฟอร์มร่วงลงไปดื้อๆ กลายเป็นว่าไม่มีแรงกระหายใดๆ ทั้งสิ้น แถมยังทำตัว Toxic กับทีม จนสุดท้ายอาร์เซน่อลต้องปล่อยทิ้งไปให้บาร์เซโลน่า
หรือก่อนหน้านี้เล็กน้อย เคสของเมซุต โอซิล เขาเหลือสัญญากับอาร์เซน่อลอีก 6 เดือน แต่สโมสรไม่อยากเสียฟรีๆ ก็เลยต่อสัญญาด้วยค่าจ้างวีกละ 350,000 ปอนด์ เป็นเวลา 3 ปีครึ่ง สุดท้าย พอต่อสัญญาปั๊บ ก็มีปัญหาอื่นๆ อีกมากมาย จนไม่ได้ใช้งาน สุดท้ายต้องเจรจาฉีกสัญญา จ่ายเงินชดเชยให้โอซิลไปประมาณ 7 ล้านปอนด์
ลองคิดดูว่า ถ้าซาลาห์ เปรี้ยงปร้างในปีนี้ แต่พออายุ 33 ปั๊บในปีหน้า แล้วถดถอยฉับพลันขึ้นมาล่ะ สโมสรก็อาจเจอปัญหาแบบอาร์เซน่อลก็ได้
อย่างที่สาม คือ มีนักเตะ 3 คนของลิเวอร์พูล ที่กำลังจะหมดสัญญาในฤดูกาลนี้ ได้แก่ ซาลาห์, ฟาน ไดค์ และ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์
ตามข่าวก่อนหน้านี้ สโมสรต้องการยื่นข้อเสนอสูงสุดในประวัติศาสตร์ ให้เทรนต์ ด้วยตัวเลข 400,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ เพื่อรั้งให้อยู่กับทีมต่อไป
เทรนต์ คือนักเตะจากอะคาเดมี่ เป็นตัวจริงทีมชาติอังกฤษ และ เป็นว่าที่กัปตัน แถมปัจจุบันอายุ 26 ยังอยู่ในช่วงพีกอีกหลายปี ราคาซื้อขายในวันนี้ ยังไงต้องทะลุ 100 ล้านปอนด์แน่ๆ ดังนั้นลิเวอร์พูลจะยอมเสียเทรนต์ฟรีๆ ตามกฎบอสแมนไม่ได้
แต่ถ้าจ่ายค่าเหนื่อยน้อยเกินไป เทรนต์จะอยู่หงส์แดงต่อทำไม เขาย้ายไปอยู่กับเรอัล มาดริด ดีกว่า ที่อยากได้แบ็กขวาจะตาย เพราะดานี่ คาร์บาฆาล อายุเยอะแล้ว แถมยังเจ็บยาวอีก
ปัญหาคือ ถ้าให้ค่าเหนื่อยเทรนต์สูงสุดของสโมสร (จากปัจจุบัน 180,000 ปอนด์ เพิ่มเป็น 400,000 ปอนด์) แล้วซาลาห์ที่ปัจจุบันรับอยู่ที่ 350,000 ปอนด์ จะยอมหรือ?
ในเมื่อเขาเองคือนักเตะที่มีผลงานดีที่สุดของสโมสร เล่นดีกว่าเทรนต์ด้วยซ้ำ
ถ้าเทรนต์ได้ 400,000 ปอนด์ ซาลาห์ก็ต้องได้ 400,000 ปอนด์ด้วย แล้วทีนี้ฟาน ไดค์จะยอมหรือเปล่า? ในเมื่อเขาคือกัปตันทีม เป็นกองหลังเบอร์หนึ่งของลีก และ เป็นนักเตะที่เคยเกือบได้บัลลงดอร์มากที่สุดในทีมชุดนี้
ก็มีโอกาสเช่นกัน ที่ฟาน ไดค์จะขอขึ้นค่าเหนื่อยในระดับใกล้ๆ กัน อาจจะเป็น 400,000 ปอนด์ อีกคนก็ได้
เท่ากับว่า จากในปัจจุบันที่สโมสรจ่ายค่าเหนื่อย 3 คนรวมกัน 750,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ อาจจะเพิ่มเป็น 1,200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ส่วนต่างมหาศาลขนาดนี้ สโมสรจะหายังไงไหว หรือถ้าไหว ก็ต้องไปลดงบในส่วนอื่นๆ ทำให้ศักยภาพด้านอื่นลดลงอีก
จากเหตุผลทั้งหมด ทำให้การดีลซาลาห์ ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เป็นสิ่งที่สโมสรต้องคิดอ่านอย่างรอบคอบมากๆ ก่อนจะตัดสินใจอะไรลงไป
---------------------
แต่ในมุมของแฟนบอลนั้น ไม่มีข้อสงสัยอยู่แล้ว ทุกคนมองว่าซาลาห์ คู่ควรจะได้รับสัญญาทุกประการ
8 ซีซั่น ที่อยู่กับลิเวอร์พูล ซาลาห์สร้างความมหัศจรรย์นับไม่ถ้วน และเป็นดาวซัลโวของทีม "ทุกซีซั่น"
ซาลาห์เป็นดาวซัลโวพรีเมียร์ลีก 3 สมัย, คว้ารางวัล PFA Awards 2 สมัย, ยิงประตูได้ในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก นัดชิง และ ทำสถิติมากมายยาวเป็นหางว่าว
ซาลาห์มีความเป็นมืออาชีพสูงมาก ไม่เคยสร้างดราม่าใดๆ นอกสนาม และเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนมาตลอด นี่เป็นผู้เล่นที่แฟนๆ รักมาก
เสียง Chant ที่แฟนๆ ร้องให้เขา "Mo Salah Running down the wing... " ถือว่าเป็นเพลงที่ติดหูที่สุดในสนามแอนฟิลด์แล้ว รองจากเพลง YNWA แค่นั้น
ทีนี้ ถ้าคุณทำผลงานได้สุดยอดขนาดนั้น มา 8 ซีซั่นติดต่อกัน คุณก็คู่ควรจะได้รับสัญญาจากทีม ต่อให้อนาคตจะถดถอยลงบ้าง แต่ก็แล้วไง? นักเตะที่เล่นดีมาตลอด ไม่สมควรจะได้รับสิ่งดีๆ บ้างเลยหรือ
อีกอย่าง ซาลาห์ปีหน้าเพิ่งจะ 33 ปี ลองไปดูในลาลีกา สเปน ปัจจุบันดาวซัลโวของลีก คือ โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ อายุ 36 ปี เขาก็ยังเล่นได้แข็งแกร่ง ไม่เห็นจะมีปัญหาตรงไหน
ทุกวันนี้ เลวานดอฟสกี้ รับค่าเหนื่อยแพงที่สุดในบาร์เซโลน่า และ ลาลีกา ด้วยตัวเลข 534,000 ปอนด์ ต่อสัปดาห์ แต่เขาก็ยังจ่ายกันได้
อายุมากขึ้น แต่ถ้าดูแลร่างกายตัวเองดี และมีวินัย ยังไงก็ยืนระยะได้ เลวานดอฟสกี้ 36 ปี ยังทำได้ แล้วทำไมซาลาห์ที่จะอายุ 33 จะทำไม่ได้ เขาเองมีวินัยขั้นสุดอยู่
สาเหตุที่ซาลาห์ถอดเสื้อ โชว์บอดี้ให้เห็นตอนยิงได้ อาจเป็นการบอกทางอ้อมให้รู้ด้วยว่า เฮ้ย ดูร่างกายของผมสิ ว่าผมทุ่มเทกับการซ้อม และการดูแลตัวเองขนาดไหน คุณไม่ต้องห่วงเลย ว่าผมจะปล่อยเนื้อปล่อยตัว แม้จะอายุสามสิบกว่าก็ตาม
แล้วซาลาห์ยุคนี้ ก็ปรับตัวจากเดิมเยอะ จากเคยเป็นปีกจี๊ดจ๊าด เขาก็เล่นด้วยมันสมองมากขึ้น เคลื่อนที่ในจังหวะที่ถูกต้อง โดยไม่ต้องใช้แรงเยอะเกินไป แต่ก็สร้างประโยชน์กับทีมได้ตลอด
ขณะที่เรื่องการเงิน ที่บางคนกังวลกัน ถ้าไปดูจากรายงานของ สวิสรัมเบิ้ล จะพบว่าลิเวอร์พูล เป็นสโมสรที่ "มีความปลอดภัยทางการเงิน" สูงสุด อันดับ 3 ของลีก เป็นรองแค่แมนฯ ซิตี้ กับ ไบรท์ตันเท่านั้น การเงินของหงส์แดง แข็งแรงมากๆ โอกาสที่จะโดนโทษ PSR แทบไม่มี
ดังนั้นจะมาหวงเงินอะไรตอนนี้ สิ่งที่ควรจ่าย ก็จ่ายไปเถอะ ซาลาห์เขาก็ทำเพื่อสโมสรมามากมาย ให้สัญญาตอบแทนเขาสัก 2 ปี จนอยู่สโมสรครบ 10 ปี จัดเทสติโมเนียลแมตช์ได้ แบบนั้นไม่ดีกว่าหรือ?
---------------------
บทสรุปของเรื่องนี้ จึงอยู่ที่ว่า สโมสรจะวางแผนอย่างไร
ถ้าหาก FSG ไม่ช่วยเพิ่มเพดานค่าเหนื่อย ก็คงยาก ที่จะต่อสัญญาทั้ง ซาลาห์, ฟาน ไดค์ และ เทรนต์ พร้อมกันทั้ง 3 คน
แล้วจะหวังให้ทั้ง 3 คน ช่วยรับค่าเหนื่อยลดลงจากเดิมทั้งหมด เพื่ออยู่ด้วยกันต่อไปให้ครบเซ็ต ในทางปฏิบัติมันก็ยากจะเกิดขึ้น
ณ จุดนี้ สโมสรต้องคำนวณว่าในสถานการณ์นี้ ถ้าสมมุติ เก็บได้แค่ 2 ใน 3 ควรเก็บใครไว้บ้างดี
เสียเทรนต์ (ซัมเมอร์หน้าอายุ 26) - เสียว่าที่กัปตัน และเด็กฝึกจากอะคาเดมี่ นี่คือหนึ่งในแบ็กขวาที่เก่งที่สุดในโลกตอนนี้ แถมยังอยู่ในช่วงพีก ไม่มีความเสี่ยงจะเป็น Deadwood
เสียฟาน ไดค์ (ซัมเมอร์หน้าอายุ 34) - เสียกัปตันทีมคนปัจจุบัน และกองหลังหมายเลขหนึ่ง ปัจจุบันลิเวอร์พูลเสียประตูน้อยที่สุดในพรีเมียร์ลีก สมมุติไม่มีฟาน ไดค์ปีหน้า เกมรับจะเป็นอย่างไร ไม่อยากจะนึก
เสียซาลาห์ (ซัมเมอร์หน้าอายุ 33) - เสียคีย์แมน ที่ยิงประตูสม่ำเสมอที่สุด เป็นผู้เล่นที่ไว้ใจได้เสมอ ไม่เคยมีช่วงฟอร์มแผ่วนาน แถมยังสร้างรายได้ให้สโมสรอย่างต่อเนื่อง เขาคือนักเตะหงส์แดงที่มียอดขายเสื้อแข่งสูงสุดเกือบทุกปี
เสียใครไป สโมสรก็แย่ทั้งนั้น นี่คือเหตุผลที่การต่อสัญญากับซาลาห์ไม่ง่ายนัก เพราะมันโยงใยกับแผนในอนาคตเต็มไปหมด ผู้บริหารทีมก็ต้องคิดว่า อะไรคือคำตอบที่ถูกต้องที่สุดในสถานการณ์นี้
บทสรุปคือ เราเองไม่รู้ว่า การเจรจาจะไปจบลงตรงไหน เป็นไปได้ไหม ที่ซีซั่นหน้า จะเก็บทั้ง ซาลาห์ ฟาน ไดค์ และ เทรนต์ เอาไว้ได้ทั้งหมด
ถ้าทำได้ ก็ต้องสดุดีว่าผู้บริหารของลิเวอร์พูล สร้างผลงานระดับมาสเตอร์พีซได้สำเร็จ
แต่ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องตัดสินใจว่าจะเก็บใครไว้ แล้วปล่อยใครออกไป ถึงจะส่งผลดีกับทีมมากที่สุด
สิ่งที่แฟนบอลลิเวอร์พูลต้องยอมรับในตอนนี้ก็คือ แม้จะอยากได้แค่ไหน แต่ก็ยากมากเหลือเกิน ที่คนเราจะครอบครองได้ทุกอย่างที่ต้องการ
ดังนั้นซาลาห์จะอยู่หรือไป ก็อยู่ที่ว่าผู้บริหาร มองว่าเขาสำคัญแค่ไหนกับก้าวต่อไปของสโมสรลิเวอร์พูล
- 5
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
