Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ก
ก่อนกลับดาว
•
ติดตาม
27 พ.ย. เวลา 03:22
สระบุรี
โรงเรียนเพิ่มพิทยา สระบุรี พ.ศ.2515
แม้จะเป็นจิ๊กซอว์ตัวเล็กจิ๋วของความทรงจำ แต่แค่ 1 ปีที่โรงเรียนเพิ่มพิทยามันก็มีความหมาย
ปี พ.ศ.2515 ผมเข้าเรียนประถม 5 ที่โรงเรียนเพิ่มพิทยา
แต่ก่อนหน้านี้ในปี 2507 ผมเข้าเรียนอนุบาล 1 ที่โรงเรียนนี้มาก่อน แต่มันไม่เหลือภาพจำอะไรเลย เท่าที่รู้จากแม่ก็คือผมมีเพื่อนชื่อ “เสือ” ที่ทะเลาะกันหรือผมโดนมันแกล้งฝ่ายเดียวก็ไม่รู้ เพราะผมมาฟ้องแม่ว่าผมหน้าแข้งบวมเพราะโดนไอ้เสือมันเตะ การได้แผลเล็กๆ น้อยๆ มันเกิดหลายครั้งแต่ผมก็จำไม่ได้ว่ามันจบยังไง
ภาพตอนปี 2515
ไม่รู้ว่าเกี่ยวกันหรือเปล่า หลังจากนั้นตอนที่ผมมาเข้าอนุบาล 1 ที่อนุบาลสระบุรี ผมได้เครื่องหมายประจำตัวเป็นจักรยาน พอขึ้นอนุบาล 2 เครื่องหมายประจำตัวก็เปลี่ยนเป็นมีด แม่บอกว่าผมชอบวิ่งและเกเรตอนอยู่อนุบาล แม่พูดเล่นหรือเปล่าไม่รู้
ตอนอยู่ อนุบาล 1 ง เครื่องหมายประจำตัวที่อยู่ล่างสุดเป็นรูปจักรยาน ส่วนของอนุบาล 2 ที่เป็นรูปมีดหาไม่เจอ
จนผมมาเจอ เสือ-อเนก หาญจำปา ที่มาเล่นเทนนิสด้วยกันในปี 2518 สอบถามได้ว่าเสือก็เรียนโรงเรียนเพิ่มฯ เหมือนกัน ตอนที่ถามเสือกำลังเรียนม.ศ.2 รุ่นพี่ผมปีนึง จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเป็นเสือตัวเดียวกัน เพราะผมไปเรียนซ้ำชั้นที่โรงเรียนอนุบาลสระบุรีอีก 1 ปี แต่ก็เป็นแค่ความเชื่อที่ว่าไม่น่าจะมีเสือตัวที่สองอีกที่โรงเรียนเพิ่มฯ
ตอนจบ ป.4 จากโรงเรียนอนุบาลฯ พ่อแม่ว่าจะให้ผมไปเรียนต่อที่โรงเรียนวัดเพรียวซึ่งเป็นโรงเรียนรัฐบาลที่ค่าเทอมน่าจะไม่แพง ทั้งๆ ที่โรงเรียนเพิ่มฯ อยู่ใกล้บ้านมากขนาดที่ตะโกนคุยกันได้เลย
ผมเป็นเด็กที่ไม่มีเพื่อนเล่นเลยชอบไปอ่านหนังสือที่ห้องสมุดของจังหวัดที่อยู่ใกล้ศาลากลาง บรรณารักษ์ห้องสมุดชื่อคุณครูสุทิน พรรคนาวิน ท่านเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเขมะฯ กับคุณครูสมจิตต์ บุญแลบ ผู้จัดการโรงเรียนเพิ่มฯ คุณครูสุทินได้บอกพ่อผมซึ่งคงคุ้นเคยกันจากการเป็นสมาชิกห้องสมุดให้พาผมไปสมัครเรียนที่โรงเรียนเพิ่มฯ ซึ่งพ่อผมก็พูดทีเล่นทีจริงว่างั้นก็เอาแม่ไปเป็นครูด้วยสิ ซึ่งก็ทำให้ผมเข้าไปเรียน ป.5 ในปี 2515 และแม่ก็ได้ไปเป็นครูตั้งแต่ 2515 ถึง 2520
ที่ตั้งห้องสมุดเดิม ขนาดเท่าเดิมแแต่ตอนนั้นเป็นเรือนไม้
ผมเรียน ป.5 ในปีการศึกษา 2515 ได้อยู่ห้อง ป.5ก ห้องเรียนอยู่ชั้นสองของเรือนไม้หลังเรือนผู้จัดการ ด้านหลังนอกรั้วโรงเรียนจำได้ร้านเดียวว่าเป็นร้านขายขนมเด็กและน่าจะขายของชำด้วย เราเรียกว่าร้าน “แม่หน่อง” เจ้าของร้านเป็นคุณแม่ของศรินทิพย์
ข้างๆ เรือนไม้ที่เรียนน่าจะติดกับโรงงานทำขนมจีน เหมือนกับมีกลิ่นขนมจีนหรือน้ำยาหรือทั้งสองอย่างโชยมาเป็นระยะ
บริเวณของอาคารสีเหลืองเป็นที่ตั้งของเรือนไม้ที่ผมเคยเรียน
เมื่อเข้าประตูใหญ่ของโรงเรียนจะเป็นถนนตรงไปยังเรือนไม้ที่เป็นที่พัก-ที่ทำงาน-และห้องเรียนเด็กอนุบาล ด้านซ้ายจะเป็นสนามเด็กเล่น ด้านขวาเป็นเรือนไม้ของเด็กประถมต้นและห้องสมุดเล็กๆ
Credit: คุณวิไลรัตน์ คันธาวัฒน์ (เด็กหญิงในรูป) จะเห็นรูปภาพรถตู้โฟล์ครับส่งนักเรียนผมจำไม่ได้ว่าสีน้ำตาลหรือสีเลือดหมูหรือสีอื่น
ด้านหลังเรือนอนุบาลจะเป็นเรือนไม้สองชั้นที่ผมเรียน พื้นที่ด้านขวาผมนึกไม่ออกว่าเป็นอะไร หรืออาจจะเป็นห้องพักครูก็ได้
ผมจำเพื่อนร่วมรุ่นที่นั่นแทบไม่ได้เลย ตอนนั้นที่จำได้ก็มี อ๊อด-ศรินทิพย์ วุฒิศิริ หัวหน้าห้อง, ศรินธร ไม่แน่ใจว่าเขียนชื่อถูกหรือไม่ เขาเป็นเพื่อนสนิทกับอ๊อด, สิทธิ สาริบุตรานนท์ คนนี้จำนามสกุลได้ที่เป็นรองหัวหน้าห้อง, นุรี จูพานิชย์ คนนี้มาเจอกันเมื่อราวปี 2531 เพราะเขากลายมาเป็นหลานสะใภ้ของเจ้านายผม, ไอ้ยุ่ง-เด็กอนุบาลสระบุรีตัวแสบที่แสบมาตั้งแต่อยู่อนุบาล คือนอกจากชอบแกล้งเพื่อนแล้วไม่พอยังชอบแกล้งครูด้วย จำได้ว่ามีการเอาหมากฝรั่งแม้กระทั่งเป๊กแหลมๆ ไปวางที่เก้าอี้ให้เพื่อนหรือครูนั่งทับ
ภาพแรกราวปี 2531 ไปเที่ยวเขาใหญ่ด้วยกัน-นั่งติดกัน ตอนนั้นผมทำงานสำนักงานกฎหมาย ภาพสอง เจอกับนุรี จูพานิชย์ วันที่ 26 พฤศจิกายน 2565 นุรีจำไม่ได้ว่าเราเคยพบกันที่กรุงเทพฯ ผ่านไปแค่ 34 ปีเองลืมแล้ว
แต่ผมก็ดันไปจำรุ่นน้องได้บางคนแต่จำชั้นเรียนไม่ได้ คือ น้องเล็ก-จิรวดี บุญแลบ ลูกคนสุดท้องของผู้จัดการ, น้องใหญ่-พี่ของน้องเล็กคนถัดขึ้นมา เรียนอยู่กรุงเทพฯ, พัฒนา อุดมศักดิ์, เบญจมาศ ทองเอม, จงใจ และ จี๋ไจ๋ แซ่เจีย สองพี่น้องสองคนหลังนี่จำได้เพราะชื่อเขาแปลกดี
แต่ผมจำชื่อครูได้มากกว่าเพื่อนนักเรียนอีก ตั้งแต่ผู้จัดการ-ครูสมจิตต์ บุญแลบ, ครูใหญ่-ครุจิรเดช บุญแลบ, ครุประจำชั้นผม-ครูจิรพันธ์ บุญแลบ, ครูจิรวัฒน์ บุญแลบ เป็นครูตระกูลบุญแลบคนเล็กสุดขณะนั้น
ครูสุจริต-สอนภาษาอังกฤษ รุปหล่อ ขี่มอเตอร์ไซค์ที่เขียนตรงครื่องยนต์ว่า “LOVE IS BLUE”, ครูมาลินี เทศแก่น, ครูละเอียด, ครูศรีนวล, ครูโสภี, ครูพงษ์ไทย, ครูบุญส่ง ณ บางช้าง, ครูบุปผา แฟนครูบุญส่ง, ครูบุญเลี้ยง-แฟนครูใหญ่, ครูอ้วน ประจำรถรับส่งนักเรียน
ภาพที่เห็นประจำตอนปี 2515 คือรถรับส่งนักเรียนที่คุมโดยครูอ้วน น่าจะคันใหญ่ประมาณนี้ ตอนนั้นไม่แน่ใจว่ารถโฟล์คยังอยู่หรือเปล่า Credit: THAI SMG-GP.com
และก็มีครูโศภิต วรากลาง ซึ่งน่าจะไม่ได้ทำงานประจำที่โรงเรียนเพิ่มฯ จะมาทำงานเฉพาะกิจเกี่ยวกับการเงิน มีลูก 3 คนชื่อ ป๊อด-เปิ้ล-โป่ง
ครูที่ผมรู้ข้อมูลมากที่สุดคือ "ครูแอ๊ว-ศุภรา วงศ์สมบูรณ์"
ภาพราวปี 2501 ที่ครูแอ๊วสอนอยู่ที่โรงเรียนกลับเพชรศึกษา สงขลา
ครูหลายๆ คนที่โรงเรียนเพิ่มฯ โดยเฉพาะครูตระกูลบุญแลบจะจบจากวิทยาลัยครูที่เรียนมาเฉพาะทาง แต่ครูแอ๊วจบแค่มัธยม 4 ซึ่งถ้าเทียบชั้นปีกับปัจจุบันก็คือ ม.2 เดิมครูแอ๊วตั้งใจจะเรียนให้จบอย่างน้อยมัธยม 8 หรือ ม.6 ปัจจุบันแต่ก็ต้องออกจากโรงเรียนกลางคันด้วยเหตุผลทางครอบครัว
แต่ครูแอ๊วก็มีประสบการณ์จากการเคยเป็นครูที่โรงเรียนกลับเพชรศึกษา จังหวัดสงขลา อยู่สองปีมาก่อน แล้วก็กลายไปเป็นแม่บ้านตั้งแต่ปี 2503 จนกระทั่งปี 2515 ถึงได้กลับมาเป็นครูอีกครั้ง ครูแอ๊วสอนชั้น ป.4, ป.3, ป.2 หลายวิชา เช่น ภาษาไทย, ภาษาอังกฤษ,ขับร้อง, การฝีมือ และดูแลห้องสมุดด้วย
ใบอนุญาตให้เป็นครูระบุว่าจบมัธยมปีที่สี่
ผมไม่อยากเชื่อว่าครูแอ๊วจะสอนได้อย่างไร สอบถามได้ความว่า ครูใช้ความรู้จากการสอนหนังสือลูกชายและขอหนังสือจากหลานเจ้าของบ้านที่เรียนอยู่ชั้นสูงกว่าชั้นที่ครูกำลังสอนแล้วก็สอนตามหนังสือนั้น และผมก็ไม่รู้ว่าครูแอ๊วเอาอะไรไปสอนขับร้อง แต่ครูแอ๊วเป็นคนร้องเพลงได้ และเคยสอนให้ลูกชายร้องเพลงแรกในชีวิตคือเพลง “พันท้ายนรสิงห์” ซึ่งตอนนั้นลูกชายยังอ่านหนังสือไม่ออกเลย
26 พฤศจิกายน 2565 ผมได้ไป “งานเลี้ยงสังสรรค์ ส.บ.ว. สัมพันธ์ 20-22” จัดที่โรงเรียนสระบุรีวิทยาคม ก่อนวันงานได้คุยกับเพื่อนหลายคนทางไลน์ ได้นัดเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันตั้งแต่ปี 2520 นั่นคือ 45 ปีมาแล้ว คือ เอส-สุริยา ปั้นสนิท ก็ได้พบหลังจากคิดถึงเป็นระยะ และได้คุยกับ ศศิธร-เพื่อนอนุบาลที่เจอกันครั้งสุดท้ายปี 2514 แต่เขาไม่สะดวกที่จะมางาน แค่ได้คุยทางแชทก็ดีใจมากแล้ว
ที่เป็นผลพลอยได้ที่ทำให้ผมประหลาดใจคือตอนที่ถ่ายรูปกันที่ backdrop ได้มีการเรียกรวมกลุ่มพวกเพื่อนที่เรียนเพิ่มพิทยา ทำให้ผมงงมากที่พบว่ามีเพื่อนโรงเรียนเพิ่มฯ รุ่นเดียวกันรวมเป็นสิบคนเข้ามาร่วมถ่าย ผมจำเพื่อนไม่ได้เลยสักคน ที่จริงที่ผมจำชื่อได้คนเดียวคืออ๊อด-ศรินทิพย์ ที่ผมเคยพบเขาในงานสังสรรค์ส.บ.ว. เมื่อหลายปีก่อน แต่ครั้งนี้เขาไม่มา ผมดีใจมากที่เพื่อนเพิ่มพิทยามารวมตัวกันได้เยอะ คิดว่าคงไม่ได้เจอกันแล้วเพราะก่อนหน้านี้ไม่เคยติดต่อเพื่อน พ.พ. ได้เลยนอกจากอ๊อด
กลุ่มที่เรียนเพิ่มพิทยา พบกันเมื่อ 26 พฤศจิกายน 2565
แผ่นภาพของความทรงจำจะเติมเต็มไม่ได้ถ้าขาดภาพจำของ 1 ปีที่เลือนลางแต่ติดแน่นไปตลอดชิ้นนี้
.....มีความรักให้เสมอ..... โรงเรียนเพิ่มพิทยา...
เรื่องเล่า
สังคม
บันทึก
2
2
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย