Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องนี้เล่าไปยัง
•
ติดตาม
26 พ.ย. เวลา 20:02 • ท่องเที่ยว
Valkenburg
Valkenburg ฟาลเค่นเบิร์ก
Valkenburg ฟาลเค่นเบิร์ก
#ปราสาทและป้อมบนเนินแห่งเดียวของชาวดัตช์
#คริสต์มาสในถ้ำ
#เนเธอร์แลนด์เนเธอร์แบน
#วันนี้ไม่แบน
วันนี้ฉันจะพาไปค้นพบส่วนที่ไม่แบนของประเทศเนเธอร์แลนด์กันค่ะ 😀😀😀 เราจะมุ่งทิศใต้ไปเยี่ยมชมปราสาทและป้อมปราการบนเนินเขาแห่งเดียวของประเทศนี้ที่เมืองฟาลเค่นเบิร์ก ซึ่งตั้งอยู่ในเขตเทศบาลฟาลเค่น อาน เดอ เคล จังหวัดลิมเบิร์กซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศ ใกล้กับชายแดนเยอรมนี
บอกก่อนเลยว่าถ้าจัดอันดับแล้ว ฟาลเค่นเบิร์กถือว่าเป็นเมืองที่ชื่นชอบในลำดับต้น👍🧡 เพราะว่าไม่แบนเหรอ ก็ไม่เชิง น่าจะเพราะบรรยากาศและภูมิประเทศของเมืองนี้มีความต่างไปจากเมืองดัชต์ที่เคยไปเยี่ยมเยือนมาอยู่พอสมควร อาหารอร่อยกว่าด้วยแหละ 😀😋 (ได้คะแนนเพิ่ม 555) กับมีกลิ่นอายของวัฒนธรรมผสมกับประเทศเพื่อนบ้านก็เลยคิดว่าเป็นเสน่ห์ที่น่าสนใจ ให้มาอีกรอบก็โอเคนะ
กลับมาที่ปราสาทและป้อมปราการ นางเอกของเราวันนี้ 🙆♂️🙆♀️🙆 (ถ้าจะหาชื่อที่ถูกต้อง เขาเรียกว่า Valkenburg Ruin Castle) ต้องเรียกกันว่าซากแหละเพราะเมื่อมองดูสิ่งปรักหักพังที่หลงเหลืออยู่ตรงหน้าก็แทบจะจินตนาการของเดิมไม่ออกกันเลยว่าเธอเคยมีหน้าตาเป็นอย่างไรมาก่อน ตามประวัติเขาบอกว่าสิ่งปลูกสร้างนี้มีมาตั้งแต่สมัยยุคกลาง เป็นปราสาท + ป้อมบนเนินสูงเพียงหนึ่งเดียวของประเทศนี้ (เนินมีชื่อว่า เฮินส์แบร์ก Heunsberg สูง 145 เมตร นี่คือสูงแล้วใช่มั๊ย!?) 🤣🤣🤣⛰
เขา (คนไหนไม่รู้) บอกว่าชื่อเมืองฟาลเค่นที่ในภาษาดัชต์แปลว่านกเหยี่ยว 🦅🪶 (Falcon ในภาษาอังกฤษ) บ่งชี้ถึงคนที่มีอาชีพเลี้ยงนกนักล่าตระกูลเหยี่ยวในยุคกลางซึ่งถือว่าเป็นชนชั้นสูง แต่เรื่องเล่าก็ไม่ได้นำไปสู่วีรกรรมอะไรที่เกี่ยวข้องในกาลต่อมาของที่นี่ จบแบบจืดจางไปแบบนั้นแหละ ไปต่อไม่ได้ เอ็นดู
เรื่องเล่ายังบอกว่าทั้งปราสาทและป้อมถูกสร้างขึ้นโดยท่านลอร์ดแห่งเฮินส์แบร์ก หรือ Heinsberg ในภาษาเยอรมัน ชื่อ คูซไวน์ที่ 1 (Gosewijn I) ต่อมาชุมชนที่ตีนเนินเขาลูกนี้ก็ขยายตัวขึ้นเรื่อยๆ 🏘🏘🏘 แต่ชะตากรรมของปราสาทบนเนินดูจะลำเค็ญมากหน่อยจากที่อ่านเจอ
ปราสาทและป้อมปราการเมืองฟาลเค่นเบิร์กตกอยู่ในวังวนของการถูกปิดล้อม ยึด ทำลาย สร้างใหม่นับครั้งไม่ถ้วน พังมากที่สุดตอนที่โดนปืนใหญ่ในช่วงสงคราม 80 ปีกับสเปน 💣💥 ที่น่าสงสารมากคือในวาระสุดท้ายกลับถูกทำลายลงโดยมือของเจ้าเมืองเอง (วิลเลียมที่ 3 ซึ่งต่อมาเป็นกษัตริย์อังกฤษ🤴) ในปี 1672 หรือที่ปีเรียกกันว่า Disaster Year เพราะเจ้าเมืองไม่ต้องการให้ปราสาทและป้อมปราการตกไปอยู่ในมือกองทัพฝรั่งเศสหลังแพ้สงคราม ฟาลเค่นเบิร์กจึงไม่เหลือเป็นสถานะเมืองป้อมอีกต่อไปตั้งแต่วันนั้น
ที่ผ่านมาเธอก็ยืนพังๆ อย่างเดียวดายมาตลอด ไม่ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์อย่างเป็นกิจจะลักษณะเท่าไร ทุกวันนี้เธอก็ยังยืนอยู่เงียบๆ บนเนินนั่นต่อไป
ทางขึ้นจะเดินผ่านบันไดหินที่มีสิงโตเฝ้าอยู่สองตัวก็ได้ 🦁🪜🦁 หรือขึ้นลิฟท์ไปก็ได้ ⏫⏬ อยู่ติดกัน
ซึ่งนอกจากความเหงาแล้ว การเข้าชมและการให้ข้อมูลต่างๆ ของสถานที่นี้ก็ดูแห้งแล้งพอๆ กัน ทางเข้าไม่มีคน ณ จุดจำหน่ายตั๋วก็ไม่มีใคร (แต่มีป้ายบอกว่าฉันมีกล้องวงจรปิดนะ) เอาค่ะ ทัวร์แบบพึ่งตนเองเริ่มได้! 😆😆😆 เราสามารถจัดการตัวเองได้ด้วยการสแกนมิวเซียมการ์ด (ถ้ามี) หรือกดซื้อตั๋วจากตู้แล้วผ่านประตูเข้าไป เสร็จแล้วเดินตามป้ายไปนะคะ สนใจอะไรก็ดูแผนที่หรือสแกน QR code อ่านเอา ขาออกก็เดินกลับมาทางเดิม มาออกตรงประตูหนามทุเรียนเป็นอันจบรอบ
แม้ว่าคุณเธอจะดูว้าเหว่เอกา นักท่องเที่ยวก็น้อย แต่สิ่งที่เราได้คือการเดินที่ชิลแบบสวยๆ สงบใจ เขาพยายามติดป้ายให้เราสร้างจินตนาการร่วมไปว่าซากตรงนี้เคยเป็นอะไรมาก่อน ประตูทางเข้า โบสถ์ ห้องเก็บอาวุธ หอยาม อะไรต่างๆ และพอมองจากยอดเนินลงไปด้านล่างจะเห็นตัวเมือง บ้านเรือน โบสถ์แบบนีโอโกธิคและสถาปัตยกรรมต่างๆ กระทั่งบ้านแบบ half-timber ที่เราเคยเห็นในฝรั่งเศส และอีกหลายอย่างที่ดูไม่ค่อยเป็นชาวดัชต์เท่าไรนัก
และก็ขำดีที่ตอนนี้ไปเที่ยวหลายแหล่งท่องเที่ยวในยุโรป เราจะไปเจอคนเอาแม่กุญแจมาล็อคตามสะพาน ลูกกรงต่างๆ ที่นี่ก็มีเหมือนกันแฮะ 🔐🔒 เธอคิดดีแล้วใช่ไหมมาล็อคใจกันไว้บนเนินเขาแห่งความโลนลี่ที่นี่ 555
กลับกลายเป็นว่าสถานที่ที่คนให้ความสนใจมากกว่าปราสาทและป้อมพังๆ นี้ คือถ้ำที่เจาะทะลุข้างใต้ ซึ่งถูกค้นพบในอีกหลายทศวรรษต่อมา ในปี 1937 เขามีชื่อเรียกว่าถ้ำกำมะหยี่ หรือ Velvet Cave ถ้ำนี้เป็นช่องทางลับๆ สำหรับโจมตีและหลบหนีศัตรูของเหล่าอัศวินและทหารราบในช่วงที่ป้อมถูกปิดล้อม รวมถึงใช้ขนส่งเสบียงเข้าออก นอกจากนี้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ยังเป็นที่หลบภัยของชาวบ้านด้วย 😁👨👩👧👦👣🤺🥖🥔🧅🥕
ในช่วงนี้ของปี (พ.ย. – ธ.ค.) ถ้ำที่ว่ายิ่งเป็นที่นิยมมากเป็นพิเศษเพราะเทศบาลเขาจัดตลาดคริสต์มาสในถ้ำ เป็น Christmas market in the cave ที่โด่งดังมานานหลายปีของทางใต้ 🎁🎊🎉🎅🤶 วันที่เราไปเขากำลังเตรียมงานนี้อยู่ จึงไม่เปิดให้เข้าชม เราจึงเดินตามไฟคริสต์มาสกลับไปในเมืองแทน ใครที่เคยไปมาแล้วจะใจดีมาเล่าให้ฟังบ้างก็จักเป็นพระคุณยิ่ง🙏
ในเมืองก็น่ารัก มีโบสถ์แบบนีโอโกธิค กับสถาปัตยกรรมหลากหลายที่เรามองเห็นจากยอดเนินนั่นแหละ แต่ไม่ให้ความรู้สึกเหมือนเดินอยู่ในเมืองดัชต์แบบที่เคยไปมาเท่าไหร่ ก็เลยเพลินๆ เดินไปถ่ายรูปไปจนจะมืด 🕍🏘🏠🏰
ถ้าเดินๆ อยู่เกิดหิวขึ้นมาไม่ต้องฝืนนะ เข้าร้านอาหารเลย อย่างที่บอกไปว่าที่นี่ได้คะแนนเพิ่มจากอาหารการกินอ่ะแหละ อาหารทางใต้ของเนเธอร์แลนด์มีรสมีชาติกว่าทางเหนือแน่นอน ใช้ได้อยู่😛😛😛
#เรื่องนี้เล่าไปยัง
#HaveIToldYouThis
สามารถติดตาม "เรื่องนี้เล่าไปยัง"ได้ที่ช่องทางอื่นได้ด้วย ดังนี้ค่ะ
FB Fanpage
https://www.facebook.com/profile.php?id=61567333684516
Instagram
https://www.instagram.com/reungnee_laopaiyang/profilecard/?igsh=MTE1cTh2eDN0cDUzaw==
เรื่องเล่า
ท่องเที่ยว
ประวัติศาสตร์
บันทึก
2
3
2
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย