ขับรถเที่ยว แล้วเลี้ยวเข้า "เบตง"
ทริปนี้เรามีแพลนไปเที่ยว "เบตง" กัน การเดินทางของเราเริ่มต้นที่สนามบินสุวรรณภูมิ ไปลงที่หาดใหญ่ และเช่ารถขับไปเบตง โดยใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง
สัญลักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองเบตง คือ หอนาฬิกา ที่สร้างมาจากหินอ่อนของจังหวัดยะลา อีกทั้งบริเวณนี้ยังมีฝูงนกนางแอ่น ที่เยอะมากๆเกาะตามหอนาฬิกา สายไฟ ซึ่งจะเยอะมากช่วงเดือนกันยายน ถึง มีนาคม เพราะนกเหล่านี้บินหนีหนาวมาจากไซบีเรียทีเดียว
ใกล้ๆกับหอนาฬิกา ก็จะเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกัน คือ ตู้ไปรษณีย์ ที่ใหญ่ที่สุด สร้างเมือปี 2476 ลักษณะตู้เป็นทรงกลม คอนเกรีดเสริมเหล็ก เส้นรอบวงตัวตู้ประมาณ 140 ซม. สูง 290 ซม. แต่พอช่วงหลังการสื่อสารทางไปรณีย์น้อยลง ทางเทศบาลจึงจำลองจากตู้เก่าให้ใหญ่ขึ้นจากเดิม 3.5 เท่า ซึ่งสูงประมาณ 9 เมตร ให้เป็นสัญลักษณ์ของเมืองเบตงแทน
เดินเล่นไปเรื่อยๆ ในตัวเมืองเบตง ตามมุมต่างๆ ก็จะมีภาพวาดสวยๆ ให้เราได้ถ่ายรูปกันด้วย
📌 Landmark Grandview Hotel 📌
Map: https://maps.app.goo.gl/CRqq2K...
ที่พักที่ใหญ่ และใหม่ ที่จอดรถสะดวกสบายในเมืองเบตง อยู่ใกล้ๆกับอุโมงเบตงมงคลฤทธิ์ และตลาด เดินไปเรื่อยๆก็ได้ หรือขับรถไปก็ไม่ไกล
ห้องพักที่เราพักแบบเตียงคู่ ห้องพักใหญ่ กว้างขวาง นอนสบาย แอร์เย็นฉ่ำ เครื่องอำนวยความสะดวกครบครัน และ ที่โรงแรมไม่มีบริการอาหารเช้านะ
📌 วัดพุทธาธิวาส📌
วัดพุทธาธิวาส ตั้งอยู่บนเนินเขาในตัวเมืองเบตง
เจดีย์สีทองอร่าม สร้างแบบศรีวิชัยประยุกต์ สูง 39.9 เมตร บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ สร้างถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสพระชมมายุครบ 60 พรรษา
มาเบตงก็ต้องมาถ่ายคู่ป้าย "ใต้สุดสยาม" บริเวณด่านพรมแดนเบตง ขับรถมาจากตัวเมืองประมาณ 15 นาทีเอง
📌 สกายวอล์คทะเลหมอกอัยเยอร์เวง 📌
เวลา: เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 05.30-16.00 น.
ค่าเข้า: คนไทย 40 บาท และต่างชาติ 200 บาท
ค่ารถขึ้นไปด้านบน: รถกะบะ 20 บาท (รอเต็มรถ) , มอเตอร์ไซด์ 30 บาท
Map: https://maps.app.goo.gl/wdacVj...
สกายวอล์คทะเลหมอกอัยเยอร์เวง ถูกรายล้อมด้วยผืนป่าขนาดใหญ่ในเขตพื้นที่เขาไมโครเวฟ สูงกว่าระดับน้ำทะล 2,038 ฟุต
เวลาที่สวยที่สุดในการมาเยือน คือ ช่วงเช้ามืดก่อนพระอาทิตย์ขึ้น จะเห็นทะเลหมอกที่ใหญ่และสวยมากๆ
** ส่วนเรา ไปกันตอน 08.00 น. ก็ยังเห็นทะเลหมอกแบบจัดเต็มแบบนี้เช่นกัน ***
** รูปถ่ายตอน 08.00 น. โดยประมาณ **
📌 อุโมงค์ปิยะมิตร 📌
เวลา: เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 08.00-16.30 น.
ค่าเข้า: คนไทย 40 บาท
Map: https://maps.app.goo.gl/5hYi4F...
อุโมงค์ปิยะมิตร ที่ตอนแรกเราคิดว่าจอดรถ - ซื้อตั๋ว - เข้าอุโมงค์ แต่ความเป็นจริง ซื้อตั๋วแล้วเดิน ประมาณ 300 เมตร (แบบขึ้นเขา) ก่อนถึงจะถึงอุโมงค์ เอาเหนื่อยหอบพอสมควร ฟิตร่างกายกันก่อนนะ
อุโมงค์ปิยะมิตร เป็นอุโมงค์ประวัติศาสตร์ของการรบของขบวนการโจรคอมมิวนิสต์มาลายา สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2519 ปัจจุบันอุโมงค์ปิยะมิตร ถูกปรับปรุงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวให้กับบุคคลทั่วไปเข้าเยี่ยมชม
เป็นอุโมงค์ที่ผู้ร่วมพัฒนาชาติไทย หรืออดีตกลุ่มโจรคอมมิวนิสต์มลายา (จคม.) สร้างขึ้นเป็นฐานของพรรคคอมมิวนิสต์มลายา เขต 2 เมื่อปี พ.ศ. 2519 ใช้หลบการโจมตีทางอากาศและสะสมเสบียง การสร้างใช้กำลังคน 40 - 50 คน ขุดเข้าไปในภูเขา และใช้เวลาเพียง 3 เดือนจึงแล้วเสร็จ
อุโมงค์มีความกว้าง 50-60 ฟุต ยาวประมาณ 1 กิโลเมตร สามารถจุคนได้เกือบ 200 คน มีทางเข้าออกทั้งหมด 9 ทาง เชื่อมต่อถึงกันหมด ปัจจุบันเหลือ 6 ทาง
จุดที่ห้ามพลาดของอุโมงค์ปิยะมิตรอีกจุด คือ ต้นไม้พันปี (ต้นไทรยักษ์) อยู่บริเวณด้านนอกอุโมงค์
กลับมาตอนเย็นก็แวะหาอะไรทานกันที่หอนาฬิกา ของกินเยอะมาก และก่อนกลับโรงแรม ก็แวะถ่ายรูปสวยๆกันที่อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์
อุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ เป็นอุโมงค์รถยนต์ลอดภูเขาแห่งแรกของเมืองไทย ที่ขุดทอดโค้งให้รถวิ่งไป-มาก่อสร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก มีความยาวตลอดอุโมงค์ ประมาณ 273 เมตร กว้าง 9 เมตร และมีทางเท้ากว้างข้างละ 1 เมตร สามารถเดินผ่านทะลุอุโมงค์จากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่งได้ด้วย
สิ่งที่เราได้รับจากทริปเบตง คือ ความสวยงาม บรรยากาศ ที่สวยงามของเมืองเบตง ที่สำคัญคือ ความน่ารักของชาวเบตง น่ารัก ยิ้มแย้มและใจดีมากๆ
อยากให้เพื่อนๆลองมาเที่ยวกัน เมืองเบตงน่ารักทั้งบรรยากาศและผู้คน ไม่ได้น่ากลัวเหมือนที่คิด
⭐️ ถ้าชอบการท่องเที่ยว โรงแรม ร้านอาหาร ดูรีวิวเพิ่มเติมได้ที่
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
