Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
nothing but movie
•
ติดตาม
27 พ.ย. เวลา 03:21 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์
Deadpool and Wolverine
เดดพูลกับลูกไล่
โดยส่วนตัวแล้วผมรู้สึกเฉยๆ กับหนัง Deadpool ทั้งสองภาคแรก อาจจะเป็นเพราะไม่ค่อยชอบตัวละครที่เอะอะโวยวาย ยิงมุกเถื่อน โดยเฉพาะฉากแอ็กชั่นที่เหมือนกับว่าเป็นมาตรฐานของหนังมาร์เวล(แม้เดดพูลจะสร้างโดยฟอกซ์)ที่ไม่ว่าเป็นซุปเปอร์ฮีโร่ตัวไหนก็ออกมามีฉากแอ็กชั่นคล้ายๆกัน ก็เลยขอลาจากการเจอกันในโรงดีกว่า คิดว่าดูผ่านสตรีมมิ่งก็เพียงพอ แม้ว่าส่วนตัวกลับชอบ Wolverine ทั้งในหนัง X-Men หรือหนังเดี่ยว
ทั้งสองต่างกันสิ้นเชิง คนหนึ่งเหลวไหลไร้สาระ อีกคนหนึ่งซีเรียสจริงจังสุดๆ หรือคนหนึ่งพวกX-Men ไม่ต้องการให้เข้ากลุ่ม แต่อีกคนหนึ่งไม่อยากร่วมกลุ่ม X-Men
Deadpool and Wolverine จึงเป็นความพยายามนำเสนอความขัดแย้งในเชิงบุคลิกของทั้งสองตัวละคร โดย Deadpool เป็นตัวละครที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ขันแบบล้อเลียนตัวเอง ในขณะที่ Wolverine เป็นตัวละครที่จริงจังที่สุดในจักรวาล X-Men เป็นการผสมผสานนี้ดูเหมือนจะมีศักยภาพในทางทฤษฎี และทั้งนักแสดงคือไรอัน เรย์โนลด์และฮิวจ์ แจ็คแมนก็ทำหน้าที่ของคนเองได้ดี เข้าขากันไม่เคอะเขิน แต่กลับรู้สึกว่าหนังมันไปไม่สุด และน้ำหนักบทที่ห่างกันมากพอควรจนมองได้ว่าวูลฟเวอรีนเป็นตัวประกอบหรือรับเชิญเท่านั้น
แต่ก็ว่าแหละนะ นี่มันหนังของเดดพูลนี่หน่า แต่ควรเปลี่ยนชื่อเป็น
Deadpool and The Sidekick จะเหมาะสมกว่า
.........................
จุดเด่นหลักของ Deadpool and Wolverine ยังคงเป็นอารมณ์ขันแบบ "เมตา" ที่ตัวละครพูดถึงสิ่งต่าง ๆ นอกเหนือไปจากโลกในหนัง เช่น การแซะการที่ Disney ซื้อกิจการของ Fox และผลกระทบที่ตามมา หรือการเปิดฉากด้วยการเต้นเพลง Bye Bye Bye บนหลุมศพของ Wolverine ซึ่งเป็นการล้อเลียน Logan (2017)
อย่างไรก็ตาม การเล่นมุกตลกที่ต้องพึ่งพาการเข้าใจจักรวาล Marvel Cinematic Universe (MCU) อย่างลึกซึ้ง รวมถึงไทม์ไลน์และมัลติเวิร์สที่ซับซ้อน สำหรับแฟน ๆ ที่ติดตามจักรวาล X-Men และ Marvel มายาวนาน ผมว่าน่าจะสนุกกับการอ้างอิงถึงตัวละครหรือเหตุการณ์ในอดีต แต่สำหรับผู้ชมทั่วไปที่ไม่ได้คุ้นเคยกับรายละเอียดเหล่านี้ หนังอาจให้ความรู้สึกซับซ้อน หรือหลุดความเข้าใจไปได้ โดยเฉพาะในช่วงที่โครงเรื่องเน้นการอธิบายมัลติเวิร์ส และการหลงเข้าไปอยู่ในเดอะ วอยด์ ที่ดูผ่านๆ นึกว่า Fury Road
สรุปได้ว่า Deadpool and Wolverine ผมสนุกกับมุกตลกล้อเลียนแบบเมตา แต่ทว่าหนังกลับขาดความสม่ำเสมอในการสร้างความบันเทิงและการเล่าเรื่องที่สมดุล การผสานระหว่างความตลกและอารมณ์ขันแบบเมตาที่ไม่ได้เข้าถึงผู้ชมทุกคนอยู่แล้ว อีกทั้งฉากแอ็กชันของหนังที่น่าจะเป็นจุดขายหลัก กลับไม่โดดเด่นเท่าที่ควร หลายฉากเหมือนเด็กเล่นกันในสนามเด็กเล่น ขาดความตื่นเต้นที่ควรจะมี สร้างความงุนงงว่าทำไมหนังมันถึงทำรายได้มหาศาลถึงขนาดนี้ได้
ซึ่งส่วนหนังต้องยกความดีให้กับการตลาดที่สุดยอดมาก ถ้าจะบอกว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงประสบความสำเร็จระดับนี้ น่าจะมาจากการที่มันรู้วิธี "ขโมยซีน" ทั้งในจอและนอกจอ การตลาดของหนังเหมือนกับตัว Deadpool เอง ทั้งตลกเสียดสีและเล่นใหญ่จนคนรู้สึกว่าไม่ดูไม่ได้ และเน้นการสื่อสารที่มีความเป็นกันเอง มีอารมณ์ขัน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งแคมเปญที่ใช้ความเป็น "เมตา" ของ Deadpool เช่น คลิปเบื้องหลังสุดฮาและการพูดถึงเรื่องจริงของวงการภาพยนตร์อย่างตรงไปตรงมา มุกที่ Deadpool ล้อทุกอย่างตั้งแต่ Wolverine ยัน Disney เรียกเสียงหัวเราะและแชร์กระหน่ำบนโซเชียล ใครไม่เก็ตมุกก็ต้องเก็ตว่า “ขำไว้ก่อน เดี๋ยวไปค้นเพิ่มในหนังเอง”
อีกทั้งการดึงความสนใจของแฟน Marvel ด้วยการรวมตัวของสองตัวละครจากแฟรนไชส์ X-Men และ MCU ในภาพยนตร์เดียวกันก็สร้างความตื่นเต้นอย่างมาก ยิ่งกว่านั้นตัวหนังเป็นที่คาดหวังในหมู่แฟน ๆ ว่าจะเป็นการรวมตัวครั้งสำคัญของ Wolverine และ Deadpool หลังจากที่แฟน ๆ โหยหาภาคต่อและการคืนจอของฮิวจ์ แจ็คแมนการกลับมาของเขาถูกมองว่าเป็นครั้งสุดท้าย(อีกแล้ว) ซึ่งดึงดูดผู้ชมให้ไม่อยากพลาด
สุดท้ายแล้วเสียดายเพียงแค่วูลฟเวอรีนที่น่าจะมีบทมากกว่านี้สักหน่อย
6/10
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2024 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย