28 พ.ย. เวลา 04:38 • หุ้น & เศรษฐกิจ
เงื่อนไขเงินสนับสนุน 7.86 พันล้านดอลลาร์ของรัฐบาลสหรัฐฯ
ส่งผลจำกัดการขายแผนกการผลิตชิปของอินเทล
ล่าสุด CEO ของอินเทล Pat Gelsinger เปิดเผยในเดือนกันยายนว่า บริษัทมีแผนแยกธุรกิจการผลิตชิปออกเป็นบริษัทลูก และต้องการเปิดรับนักลงทุนภายนอกสำหรับแผนกใหม่นี้ ชื่อ Intel Foundry
1
อย่างไรก็ตาม เอกสารที่อินเทลยื่นต่อคณะกรรมการหลักทรัพย์เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ระบุเงื่อนไขการให้เงินสนับสนุนจากรัฐบาล โดยหากแผนก Intel Foundry แยกออกเป็นบริษัทเอกชน อินเทลต้องถือหุ้นอย่างน้อย 50.1%
หากกลายเป็นบริษัทมหาชน และอินเทลไม่ใช่ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุด อินเทลจะขายหุ้นได้เพียง 35% เท่านั้น มิฉะนั้นจะถือว่าเปลี่ยนแปลงการควบคุม ซึ่งต้องได้รับอนุญาตจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ
ข้อจำกัดนี้จะส่งผลต่อแผนการลงทุน 90 พันล้านดอลลาร์ของอินเทลในสหรัฐฯ เพื่อผลิตชิปขั้นสูง โดยมีโรงงานใหม่ในรัฐแอริโซนา, นิวเม็กซิโก, โอไฮโอ และออริกอน
ดูเหมือนว่ารัฐบาลสหรัฐฯ จะระมัดระวังเรื่องการถือครองและการควบคุมบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำ เพื่อป้องกันไม่ให้ตกเป็นของต่างชาติ ซึ่งอาจส่งผลต่อความมั่นคงทางเทคโนโลยีของประเทศ
นักลงทุนควรติดตามการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมชิปของอินเทลอย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจและมูลค่าหุ้นในอนาคต
โฆษณา