29 พ.ย. เวลา 02:30 • กีฬา

กรณีศึกษา เมื่อ FSG ปล่อยสตาร์ตัวหลักทิ้ง เพื่อคอนโทรลการเงินให้มั่นคง

FSG (เฟนเวย์ สปอร์ต กรุ๊ป) เป็นอาณาจักรกีฬาขนาดใหญ่ และมีทีมกีฬาอาชีพอยู่ในพอร์ทมากมาย ในจำนวนนั้นคือ ลิเวอร์พูล ในพรีเมียร์ลีก และ บอสตัน เรด ซ็อกซ์ ในศึกเบสบอล MLB
ผู้ก่อตั้ง FSG คือ จอห์น เฮนรี่ กับ ทอม แวร์เนอร์ ผลงานการบริหารของพวกเขาก็ถือว่าไม่เลวนัก พาบอสตัน เรดซ็อกซ์ ปลดปล่อยคำสาปแบมบิโน่ คว้าแชมป์เวิลด์ซีรีส์ ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 86 ปี
รวมถึงพาลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ลีกสูงสุดของอังกฤษ ได้เป็นครั้งแรกในรอบ 30 ปี และแชมป์ยุโรปสมัยที่ 6 ได้อย่างยิ่งใหญ่อีกด้วย
การบริหาร ที่ถือเป็นโลโก้ของ FSG คือสิ่งที่เรียกว่า "มันนี่บอล"
ถ้าให้อธิบายแบบเห็นภาพ เวลาเราพูดถึงการทำทีมของโค้ชคนไหน เราก็มักจะมีคำว่าบอลต่อท้าย เช่น อโมริมบอล, สล้อธบอล, ซาร์รี่บอล ฯลฯ
ดังนั้นความหมายของ "มันนี่บอล" คือการทำทีม โดยคิดถึงเรื่องการเงินไว้ก่อนเป็นอันดับแรก
1
หลักการมันนี่บอล ที่ถูกใช้บอสตัน เรดซ็อกซ์ และ ที่ลิเวอร์พูล คือ
1) จะไม่ทำสงครามสู้เรื่องราคากับใคร
2) จะไม่เอาเงินในอนาคตมาซื้อ จะซื้อเท่าที่มีงบ
และ 3) จะเล็งไปที่ผู้เล่นฝีมือดีราคาไม่แพง โดยอ้างอิงจากสถิติ แล้วเอามาปั้นต่อจนเป็นซูเปอร์สตาร์
1
แอนดรูว์ โรเบิร์ตสัน ราคา 10 ล้านปอนด์, โรแบร์โต้ ฟีร์มีโน่ ราคา 29 ล้านปอนด์ หรือ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ราคา 36.9 ล้านปอนด์ แต่ละคนที่กล่าวมา ถูก FSG ซื้อตัวในราคาที่ย่อมเยากว่าฝีเท้าจริงด้วยซ้ำ
วิธีการมันนี่บอล เอาจริงๆ ก็มีข้อดี และ ข้อเสีย ปนๆ กัน
ข้อดี คือ การเงินของสโมสรจะแข็งแรงมาก ไม่อยู่ในสภาวะตัวแดง ไม่ต้องลุ้นว่าจะล้มละลายไหม มีความยั่งยืนมากกว่า
1
ข้อเสีย คือ ทุกอย่างจะเป็นเรื่องเงินไปหมด ความสำเร็จจะเป็นเรื่องรอง การสร้าง Dynasty ประเภทคว้าแชมป์ติดๆ กัน หลายปี จะทำได้ยาก
4
สำหรับทีมเบสบอลบอสตัน เรดซ็อกซ์ ถูก FSG ซื้อมาอยู่ในพอร์ท ในปี 2002 และจนถึงปัจจุบัน พวกเขาคว้าแชมป์เวิลด์ซีรีส์ได้ทั้งหมด 4 ครั้ง 2004, 2007, 2013 และ 2018 ก็ถือว่าโอเคเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม นับจากปี 2018 ที่ได้แชมป์ บอสตัน เรดซ็อกซ์ เกิดสภาวะ "ถดถอย" อย่างรุนแรง
6 ซีซั่นต่อมา (2018-2024) พวกเขาเข้าเพลย์ออฟ แค่ 1 ครั้ง จากยอดทีม ที่มีลุ้นแชมป์ทุกปี กลายเป็นทีมระดับกลางตารางเฉยเลย
สื่อในสหรัฐฯ วิเคราะห์ว่า การตัดสินใจที่ผิดพลาดที่สุด คือเคสที่ FSG ปล่อย "มูกี้ เบ็ตส์" ผู้เล่นคนสำคัญที่สุดของทีม เนื่องจากไม่อยากจ่ายค่าเหนื่อยแพงเกินไป
มูกี้ เบ็ตส์ คือผู้เล่นอัจฉริยะ เขาถูกยกย่องว่าเป็นหนึ่งในนักเบสบอลที่เก่งที่สุดในโลก เขาตีบอลได้เยี่ยม เล่นเกมรับก็ดี สูงแค่ 175 เซนติเมตร แต่ฟาดโฮมรันเป็นว่าเล่น ทำผลงานได้ดีกว่าฮิตเตอร์ตัวสูงใหญ่หลายๆ คนเสียอีก
นี่เป็นผู้เล่นที่แฟนๆ บอสตันรักมาก เพราะเป็นผู้เล่น Homegrown เป็นนักกีฬาที่ถูกปั้นมาจากทีมเยาวชนของเรดซ็อกซ์ แล้วไต่เต้าขึ้นมาอยู่ทีมชุดใหญ่ได้สำเร็จ
ในปี 2018 มูกี้ เบ็ตส์ ช่วยทีมคว้าแชมป์เวิลด์ซีรีส์ พร้อมด้วยรางวัล MVP ของอเมริกันลีก แถมยังติดทีมออลสตาร์อีกต่างหาก นี่คือนักกีฬาที่คุณสามารถฝากอนาคตเอาไว้กับทีมได้
มูกี้ เบ็ตส์เองก็อยากอยู่บอสตันเช่นกัน เขาบอกว่า "ผมอยากอยู่บอสตันไปตลอดอาชีพ เมืองนี้ ทีมนี้ คือชีวิตของผม ผมรู้จักทุกคนที่นั่น และอีกอย่างบอสตัน กับ แนชวิลล์ บ้านเกิดของผม มันบินแค่สั้นๆ เท่านั้นเอง ทุกอย่างที่บอสตัน มันลงตัวหมดเลย"
แต่แล้วด้วยความไม่คาดคิด ในปี 2020 มูกี้ เบ็ตส์ มีอายุ 27 ปี กำลังอยู่ในช่วงพีก กลับถูกบอสตัน เรดซ็อกซ์ เทรดตัวไปให้กับ ลอสแองเจลิส ด็อดเจอร์ส คู่แข่งแย่งแชมป์เฉยเลย
เรดซ็อกซ์ กับ ด็อดเจอร์ส คือคู่แข่งแย่งแชมป์กัน แม้จะเล่นกันคนละลีก แต่ก็มีโอกาสมาปะทะกันในรอบเวิลด์ซีรีส์
ถ้าให้เปรียบเทียบกับฟุตบอล ก็เหมือนอยู่ๆ อาร์เซน่อล ขายบูกาโย่ ซาก้า เด็กปั้นของทีมที่กลายมาเป็นสตาร์ ให้กับคู่แข่งแย่งแชมป์อย่างแมนเชสเตอร์ ซิตี้ นั่นแหละ
เมื่อมีการคอนเฟิร์มว่าจะปล่อยมูกี้ เบ็ตส์ ทำให้แฟนๆ เดือดดาลมาก คุณเทรดสตาร์ของเราให้กับคู่แข่งได้ยังไง บ้าไปแล้ว
สำหรับแอลเอ ด็อดเจอร์ส พอได้ตัวมูกี้ เบตส์ พวกเขาก็กลายเป็นทีมที่แข็งแกร่งขึ้น และคว้าแชมป์เวิลด์ซีรีส์ได้ทันที 2 ครั้ง (2020 และ 2024) จากที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยได้แชมป์มา 32 ปี
ในทีมด็อดเจอร์ส เราอาจคิดถึงโชเฮ โอทานิ หรือ เฟรดดี้ ฟรีแมน แต่จริงๆ มูกี้ เบตส์ ก็เป็นคนสำคัญไม่ด้อยไปกว่ากัน และเป็นหนึ่งในคีย์แมนของทีมชุดแชมป์ด้วย
สาเหตุที่ FSG ตัดสินใจปล่อยมูกี้ เบตส์ ทิ้ง เพราะเหตุผลเดียวคือ "เงิน"
ในปี 2020 มูกี้ เบ็ตส์ เหลือสัญญาปีสุดท้ายกับบอสตัน เขาต้องการสัญญาฉบับใหม่ มูลค่าปีละ 30 ล้านดอลลาร์ ที่ถือว่าแพงที่สุดเป็นอันดับ 2 ของลีก ณ ขณะนั้น เป็นรองแค่ไมค์ เทราต์ ของแอลเอ แองเจิลส์ ที่รับอยู่ปีละ 35 ล้านดอลลาร์
มูกี้ เบ็ตส์ มองว่าตัวเองคู่ควรกับสัญญานี้ เพราะเขาคือผู้เล่นดีกรี MVP และช่วยทีมคว้าแชมป์มาแล้ว คนที่เก่งที่สุด ก็ควรได้รับค่าจ้างที่สมน้ำสมเนื้อไม่ใช่หรือ?
อย่างไรก็ตาม ธรรมชาติของเรดซ็อกซ์ ที่ยึดหลักการมันนี่บอล ไม่พร้อมจะจ่ายค่าเหนื่อยให้ผู้เล่นเพียงคนเดียว มากขนาดนั้น
การเจรจาดำเนินไปหลายรอบ แต่หาข้อสรุปไม่ได้ ทำให้มีแนวโน้มว่า มูกี้ เบ็ตส์ จะอดทนรอให้ตัวเองเป็นผู้เล่นฟรีเอเยนต์ในอีก 1 ปีข้างหน้า ถ้าเทียบกับฟุตบอล คือรอให้ย้ายฟรีตามกฎบอสแมนนั่นเอง
เรดซ็อกซ์ ไม่พร้อมจ่ายค่าเหนื่อย และ ไม่พร้อมจะเสียผู้เล่นไปฟรีๆ แบบไม่ได้อะไร
ดังนั้นจึงยอมเทรด มูกี้ เบ็ตส์ ให้กับแอลเอ ด็อดเจอร์ส ในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2020 ก่อนที่นักกีฬาจะหมดสัญญา โดยเอาไปเทรดกับผู้เล่นเกรด C สามคน คือ จีเตอร์ ดาวน์ส, คอนเนอร์ หว่อง และ อเล็กซ์ เวอร์ดัลโก้ อย่างน้อยก็ได้อะไรกลับมาบ้าง
จุดประสงค์หลักของเรดซ็อกซ์ คือต้องการรักษาเพดานค่าเหนื่อยเอาไว้ ถ้าจ่ายให้มูกี้ เบ็ตส์ สักคน อนาคตคนอื่นในทีมก็อาจจะมาขอเพิ่มอีก แล้วหลักการมันนี่บอลก็อาจจะพังทลาย
ESPN ตัดเกรดการเทรดครั้งนี้ ให้ด็อดเจอร์ส ได้ A ที่คว้ามูกี้ เบ็ตส์มาได้ ส่วนเรดซ็อกซ์ ได้ D
คำวิจารณ์คือ คุณปล่อยตัวสตาร์แบบนี้ได้ยังไง ผู้เล่นที่ร่วมทุกข์ ร่วมสุขกับทีมมาตั้งแต่เป็นเยาวชน นี่คือเด็กปั้นที่เก่งที่สุดของทีม ถัดจากเท็ด วิลเลียมส์ ในยุค 1940s
เข้าใจได้ที่ห่วงเรื่องเงิน แต่กับนักกีฬาบางคน ที่ยอดเยี่ยมมากๆ และพิสูจน์ตัวเองมาแล้วมากมาย มันน่าจะมีกรณียกเว้นให้บ้างหรือเปล่า?
แฟนบอสตันเองก็เดือดดาล เพราะรู้สึกว่าเจ้าของรวยจะตาย ทำกำไรได้ตั้งมหาศาลแล้ว แต่พอจะควักเงินจ่ายอะไรใหญ่ๆ ทำไมดูมีปัญหามากเหลือเกิน
นิตยสารฟอร์บส์ ระบุว่า FSG คือองค์กรกีฬาที่รวยที่สุดอันดับ 3 ของโลก เป็นรองแค่ ลิเบอร์ตี้ มีเดีย (เจ้าของ F1 และ โมโตจีพี) กับ โครเอ็นเก้กรุ๊ป (เจ้าของอาร์เซน่อล, แอลเอ แรมส์, เดนเวอร์ นักเกตส์) เท่านั้น
แฟนๆ เลยคิดว่าถ้าคุณรวยซะขนาดนั้น แล้วจะมาหวงอะไรกับค่าเหนื่อย ที่ควรมอบให้ซูเปอร์สตาร์ของทีม คุณกล้าปล่อยผู้เล่นเบอร์หนึ่งออกไป แปลว่า เงินทอง ต้องมาก่อนความสำเร็จแบบนั้นหรือ?
สื่อสหรัฐฯ สปอร์ต อิลลัสเทรต พาดหัวข่าวว่า "เรดซ็อกซ์ เทรดมูกี้ เบ็ตส์ แบบนี้ เหมือนถุยน้ำลายใส่หน้าแฟนๆ ทีมตัวเอง"
ในเนื้อหาเขียนว่า "นี่คือการเทรดผู้เล่นที่เห็นแก่ตัว และ ไร้เหตุผล เหลื่อเชื่อมาก นี่คือความผิดพลาด แบบไม่รู้จะพลาดยังไงแล้ว คือมันยากนะ ที่คุณจะเล่นเบสบอลได้เก่ง และ เล่นได้ดีในทีมที่กดดันสุดๆ อย่างบอสตัน แต่มูกี้ เบ็ตส์ พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า เขาทำได้ยอดเยี่ยม ทุกคนรู้ดี ว่าเขาคือผู้นำของทีมนี้"
ในวงการกีฬานั้น การประหยัดเป็นสิ่งดี ควบคุมการเงินได้ ก็ย่อมดีกว่า แต่เพื่อการทะยานไปสู่ ทีมอันดับหนึ่งของลีก หรือของโลก มันเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องใช้เงิน
ของดีราคาถูกก็พอมี แต่คุณไม่สามารถค้นหาผู้เล่นแบบนั้นไปได้ตลอดกาล บางครั้งก็ต้องยอมจ่าย ในดีลที่ควรจ่าย
สุดท้ายมูกี้ เบ็ตส์ ก็เลยต้องเก็บข้าวของ ย้ายไปอยู่แอลเอ ด็อดเจอร์ส แต่พอย้ายไปปั๊บ ปีแรกก็คว้าแชมป์เวิลด์ซีรีส์ได้ทันที
ด็อดเจอร์ส เห็นผลงานยอดเยี่ยม ก็เลยจับต่อสัญญา 12 ฤดูกาล มูลค่า 365 ล้านดอลลาร์ เฉลี่ยปีละ 30 ล้านดอลลาร์นิดๆ
จนถึงปัจจุบันนี้ นี่คือสัญญาที่แพงที่สุดอันดับ 3 ของวงการเบสบอล เป็นรองแค่ โชเฮ โอทานิ 700 ล้านดอลลาร์ และ ไมค์ เทราต์ 426.5 ล้านดอลลาร์เท่านั้น แต่ด็อดเจอร์สมองว่า มูกี้ เบ็ตส์ คู่ควรกับสัญญาฉบับนี้ เพราะฝีมือของเขาคือของจริง
เบ็ตส์บอกว่า "ถ้าเรดซ็อกซ์ให้ค่าจ้างผม เท่ากับที่ด็อดเจอร์สให้ ผมคงอยู่บอสตันต่อไปแล้ว"
เมื่อสูญเสียมูกี้ เบ็ตส์ ทำให้เรดซ็อกซ์ อยู่ในช่วง "ขาลง" พวกเขาไม่เคยกลับไปเวิลด์ซีรีส์ได้อีกเลย แค่จะเข้าเพลย์ออฟในแต่ละปี ก็ยากเย็นแสนสาหัส การเสียซูเปอร์สตาร์ไป ส่งผลมหาศาลกว่าที่คิด
เรื่องการเงินอาจจะไหลลื่น ไม่ต้องกลัวทีมจะล้มละลาย แต่ความสำเร็จก็ไม่มีเหมือนกัน
ในเบสบอสเวิลด์ซีรีส์ ฤดูกาลหน้า 2025 เต็งหนึ่งที่คาดว่าจะได้แชมป์คือ แอลเอ ด็อดเจอร์ส ของมูกี้ เบ็ตส์ กับ โชเฮ โอทานิ ขณะที่บอสตัน เรดซ็อกซ์ อยู่ "เต็ง 16" ว่าง่ายๆ คือเป็นม้านอกสายตาไปแล้ว
บอสตัน ไม่ได้แชมป์มาแล้ว 6 ปี และไม่รู้ว่าจะกลับไปสู่จุดนั้นได้อีกเมื่อไหร่
แต่แน่นอนเรื่องการเงินก็ปลอดภัยมากๆ ใน 30 ทีมของเบสบอล เมเจอร์ลีก บอสตันคือทีมที่มี Payroll หรือ ค่าจ้างโดยรวม อันดับ 11 ในลีก เป็นทีมใหญ่ที่จ่ายค่าเหนื่อยน้อยที่สุด หากเทียบกับ นิวยอร์ก แยงกีส์ หรือ แอลเอ ด็อดเจอร์ส
เรื่องราวของมูกี้ เบ็ตส์ แสดงให้เห็นถึงคาแรคเตอร์ของ FSG ในการบริหารทีมกีฬา ตั้งแต่ในอดีต มาจนถึงปัจจุบัน
พวกเขาคิดคำนวณเรื่องค่าใช้จ่ายอย่างละเอียด และพร้อมจะทำให้แฟนๆ ผิดหวัง ถ้ามันจะส่งผลเสียต่อระบบการเงิน
ก็ใช่ ว่าอาจจะดูไม่ทะเยอทะยาน แต่มันก็ทำให้ธุรกิจของพวกเขา ไม่อยู่ในความเสี่ยง
จะเด็กปั้น หรือ ซูเปอร์สตาร์ ก็ปล่อยได้หมด ถ้าต้องจ่ายค่าจ้างเกินลิมิตที่ตั้งไว้
เรื่องของของมูกี้ เบ็ตส์ ถูกพูดถึงอีกครั้ง เมื่อ FSG ต้องตัดสินใจครั้งสำคัญกับซูเปอร์สตาร์ของลิเวอร์พูล ที่กำลังจะหมดสัญญาในฤดูกาลนี้
เพราะถ้าหากเด็กปั้น และ ซูเปอร์สตาร์ ของเรดซ็อกซ์ยังถูกปล่อยตัวไปคู่แข่งได้ จะแปลกอะไร ถ้าเด็กปั้นของลิเวอร์พูลอย่างเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ และ ซูเปอร์สตาร์อย่างโมฮาเหม็ด ซาลาห์ จะโดนปล่อยตัวทิ้ง เพื่อทำให้การเงินของทีม "ปลอดภัย" และไม่อยู่ในความเสี่ยงใดๆ เลย
และแฟนๆ หงส์แดงอาจต้องทำใจไว้บ้าง ว่าด้วยความซีเรียสเรื่องการเงิน ทำให้ท้ายที่สุดแล้ว เทรนต์, ซาลาห์ รวมถึง ฟาน ไดค์ อาจมีแค่บางคนเท่านั้น ที่ได้อยู่แอนฟิลด์ต่อไป ในฤดูกาลหน้า
#MONEYBALL
โฆษณา