30 พ.ย. เวลา 10:45 • ข่าวรอบโลก

แม่อังกฤษใจโหด! ซ่อนลูกไว้ใน “ลิ้นชักใต้เตียง” นาน 3 ปี

ศาลอังกฤษสั่งคำคุก 7 ปีครึ่งหญิงรายหนึ่งที่ซ่อนลูกวัยแบเบาะไว้ใน “ลิ้นชักใต้เตียง” นานเกือบ 3 ปี เหตุผลเพราะ “กลัวแฟนใหม่รู้”
ที่ประเทศอังกฤษ เกิดคดีซึ่งชวนให้ตั้งคำถามถึงความเป็นแม่ เมื่อหญิงรายหนึ่งกลัวว่าแฟนใหม่ที่คบหาอยู่จะรู้ว่าเธอมีลูก จึงนำลูกสาววัยแบเบาะไปซ่อนไว้ใน “ลิ้นชักใต้เตียง” นานถึงเกือบ 3 ปี
ล่าสุดศาลเขตเชสเตอร์คราวน์ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ มีคำพิพากษาจำคุกแม่รายนี้ 7 ปีครึ่ง โดย สตีเวน เอเวอเรตต์ ผู้พิพากษา ระบุว่า เด็กได้รับความทุกข์ทรมานจาก “ความลับอันเลวร้าย” ของผู้เป็นแม่
ลิ้นชักใต้เตียงที่เด็กถูกนำตัวมาซ่อนไว้นาน 3 ปี
ผู้พิพากษากล่าวว่า เด็กถูกพบในบ้านของครอบครัวในเชสเชียร์ก่อนวันเกิดอายุครบ 3 ขวบเพียงไม่กี่สัปดาห์ โดยถูกพบในสภาพที่ผมเผ้าพันกันยุ่งเหยิง มีผื่นหลายจุด และร่างกายมีความผิดปกติบางอย่าง
ศาลได้รับแจ้งว่า หญิงคนดังกล่าว ซึ่งสารภาพในข้อกล่าวหาทารุณกรรมเด็ก 4 กระทงเมื่อเดือนที่แล้ว ได้ซ่อนลูกสาวไว้จากแฟนใหม่ของเธอ ซึ่งมักจะมาพักที่บ้านเป็นประจำ รวมถึงซ่อนจากลูก ๆ คนอื่นของเธอไม่ให้รู้ด้วยว่าพวกเขามีน้องสาว
เอเวอเรตต์กล่าวกับจำเลยว่า “ในความคิดของผม สิ่งที่คุณทำนั้นขัดกับความเชื่อโดยสิ้นเชิง ... คุณทำให้เด็กน้อยคนนั้นไม่ได้รับทั้งความรัก ความเอาใจใส่ ปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น อาหารที่เหมาะสม การดูแลทางการแพทย์ที่จำเป็น”
เขาเสริมว่า “คุณพยายามควบคุมสถานการณ์นี้อย่างระมัดระวังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ความลับอันเลวร้ายของคุณกลับถูกเปิดเผยด้วยความบังเอิญ ผลที่ตามมาสำหรับเด็กนั้นเลวร้ายอย่างยิ่ง ทั้งทางร่างกาย จิตใจ และสังคม”
เอเวอเรตต์กล่าวต่อว่า ตอนนี้เด็กน้อยอยู่ในสถานสงเคราะห์ “เธอเป็นเด็กหญิงตัวน้อยที่ฉลาดและอาจจะค่อย ๆ ฟื้นคืนจากสภาวะที่เกือบจะตายไปแล้วในห้องนั้น”
ด้านอัยการ ซิออน อัป มิฮังเกล กล่าวว่า เมื่อเด็กถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล พบว่าเธอขาดสารอาหารและขาดน้ำอย่างมาก โดยมีข้อมูลว่าเธอได้รับอาหารเป็นเพียง “ซีเรียลนมผ่านหลอดฉีดยา” เท่านั้น รวมถึงเด็กหญิงยังมีภาวะเพดานโหว่ซึ่งไม่ได้รับการรักษาด้วย
มิฮังเกลบอกว่า “เธอถูกขังไว้ในลิ้นชักในห้องนอน ไม่ได้พาออกไปข้างนอก ไม่ได้เข้าสังคม ไม่ได้โต้ตอบกับใคร” และเสริมว่า แม้จะมีอายุ 3 ขวบ แต่เธอมีอายุพัฒนาการระหว่าง 0 ถึง 10 เดือนเท่านั้น
มิฮังเกลเล่าว่า เด็กหญิงตัวน้อยถูกทิ้งให้อยู่ตัวคนเดียวเมื่อแม่ของเธอไปทำงาน หรือตอนพาลูกคนอื่น ๆ ไปโรงเรียน และแม้กระทั่งตอนที่เธอไปอยู่กับญาติ ๆ ช่วงคริสต์มาส
เมื่อแฟนใหม่ของผู้หญิงคนดังกล่าวเริ่มมาค้างคืน เธอจึงย้ายเด็กไปที่ห้องอื่น ซึ่งเธอถูกทิ้งให้อยู่คนเดียว แต่ในที่สุดแฟนใหม่รายนี้ก็มาพบเด็กเมื่อเขากลับเข้าไปในบ้านในวันหนึ่งเพื่อใช้ห้องน้ำ และได้ยินเสียงดังมาจากห้องนอนห้องหนึ่ง
แฟนใหม่ของแม่แจ้งให้สมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวทราบทันที และต่อมาในวันนั้น เจ้าหน้าที่สังคมสงเคราะห์ก็ไปที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งพวกเขาพบเด็กหญิงในลิ้นชัก
นักสังคมสงเคราะห์กล่าวว่า เมื่อถูกสอบสวน “แม่ของเด็กไม่ได้แสดงอารมณ์ใด ๆ และดูเฉยเมย ... มันกลายเป็นเรื่องสยองขวัญอย่างมากที่ฉันอาจเป็นคนเดียวที่เด็กเคยได้เห็นหน้านอกเหนือจากใบหน้าของแม่ของเธอ”
ระหว่างการให้สัมภาษณ์กับตำรวจ หญิงคนดังกล่าวบอกว่าเธอไม่รู้ว่าตัวเองตั้งครรภ์และรู้สึก “กลัวมาก” ที่จะคลอดบุตร เธอบอกว่าลิ้นชักไม่เคยปิดและทารกไม่ได้อยู่ในนั้นตลอดเวลา แต่เธอบอกว่าเด็กคนนี้ “ไม่ใช่ส่วนหนึ่งของครอบครัว”
ด้าน แมทธิว ดันฟอร์ด ทนายความฝ่ายจำเลย กล่าวว่า สุขภาพจิตของแม่รายนี้ได้รับผลกระทบจากความสัมพันธ์ที่ไม่แน่นอนกับพ่อที่ทำร้ายเด็ก และการล็อกดาวน์เนื่องจากโควิด-19 รวมกันทำให้เกิด “สถานการณ์ที่ไม่ปกติ”
เรียบเรียงจาก CNN
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/news/237549
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา