29 พ.ย. เวลา 06:54 • ความคิดเห็น
การที่เราได้พบเห็น ..เรื่องราวของชีวิต ได้เรียนรู้จัก ว่าชีวิตเค้าให้มาชั่วขณะหนึ่ง ที่มีค่าของชีวิตที่เรียกว่า คะแนนหนึ่งร้อย ค่าของชีวิตที่เราได้กายนี้มา กายที่สามารถ ที่จะใช้ ..หรือ หยุดยั้ง ..ไปทำเรื่องราวที่ไม่ดี มีการใช้อารมณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้น .ไปสร้างกรรมด่วยกายวาจาใจ ทำให้ผู้อื่นเดือดร้อน เสียใจ ทุกข์ยากลำบาก ไปเอารัดเอาเปรียบคนนั้นคนนี้ พูดจาเชือดเฉือน ตำหนิติเตียน ..ดูถูกคนนั้นคนนี้ ..ช่อโกง ..ยักยอก ..มันมีคะแนนของเค้าอยู่
บางคนเค้าก็มีบุญมาดี ..เกิดมาฉลาดแต่ก็ใช้ความฉลาดเอารัดเอาเปรียบผู้อื่น ..ก็หลงสร้างกรรม ..เสียมากมายก่ายกอง เหมือนกลัวว่า เมื่อหมดกายนี้ ต้องให้มันตกนรกลึก ไม่ต้องมาผุดมาเป็นมนุษย์กับเค้าอีก เราเคยนั่งคุยกับพระท่านในเรื่องนี้ ว่าทำไมกรรมของเค้าไม่ตัดรอนสักที ..
กลับเรื่องราว ของกรรมตัดรอน ที่ส่งผลมาก ก็เรื่องกรรมที่เราใช้สังขารพ่อแม่อยู่ ..แต่กลับใช้กายวาจาใจที่ไม่ก่อให้เกิดเป็นคุณกับพ่อแม่ของตนเอง . ก็เมื่อเราอาศัยกายพ่อแม่อยู่ ..อาศัยธาตุนะโมนี้อยู่ แต่เรากลับใช้กายนี้ ..ไปกระทำไม่ดีกับพ่อแม่ กายนี้เค้าก็สำแดง ..เกิดอุปสรรคในการใช้กายไปทำมาหากิน .ต้องมีความลำบากกายลำบากจ้ตเกิดขึ้น
แล้วการมีกาย ที่มันมีสภาพ .ไม่คงที่ ..มันเสื่อมสภาพไปตามอายุขัย เมื่อเดินไปถึงจุดที่ ว่า เค้าให้ลมหยุด .ก็ต้องหยุดลมหายใจ ..
คราวนี้ ..เราก็มีเรื่องราวของพระ ที่ท่านบอก พูดเปรยว่า ข้างบนเค้าจะให้ฉันกลับ เราก็รีบขออาราธนา ..ผ่านไปสองครั้ง ..จนสุดท้าย ก่อนเข้าพรรษา ท่านก็พูดเรื่องงานศพของท่าน ..ออกพรรษา ท่านก็ต้องเข้าฮอกโรงพยาบาล . จนมาราวเดือนมกราคม ก็มีญาตท่านมาเยี่ยม ..แล้วกำลังจะกลับ
ท่านก็พูดว่า ไหนๆมาแล้ว ไม่คุยกันหน่อยล่ะ พอท่านพูดไปแค่นั้น .คนที่กำลังจะลุกกลับ ก็กลับมานั่ง ..คุยนั้นคนนี้ให้ฟัง ..บอกว่า ที่เห็นท่านนอนอยู่อย่างนี้ องค์ข้างในท่านขึ้นไปสอนธรรม พวกเทพยดาอินทร์พรหมบ่อยๆ .. แล้วเค้าก็บอกว่า พระท่านต้องกลับ เราก็เลยรีบขออาราธนาอีก แต่คราวนี้ ท่านบอกว่า ไม่ได้อยู่กับฉัน ขึ้นอยู่กับอวค์ท้าวสักกะเทวราช เราก็ต้องหาวิธีขอจากท่าน . พอเราขอท่านก็บอกว่า มันเลยเส้นที่สามแล้ว เทพยดาเค้าจัดงานเตรียมรับท่านแล้ว ..แล้วท่านก็ละสีงขาร
ที่เขียนมายืดยาว ก็เพื่อจะบอกว่า เรากำหนดอายขัยตัวเองไม่ได้เลย ..ไม่รู้ว่า เค้าจะให้หยุดลม วันเวลาไหน ..เราก็ได้ปัจฉิมโอวาท ..ปัจฉิมโอวาทของพระพุทธเจ้า คือ “วยธมฺมา สงฺขารา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ” แปลว่า “สังขารทั้งหลาย มีความเสื่อมสลายไปเป็นธรรมดา ท่านทั้งหลายจง (ยังประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่น) ให้ถึงพร้อม ด้วยความไม่ประมาทเถิด”
โฆษณา