พระเจ้ากับกฎแรงดึงดูด: พลังที่มองไม่เห็นหรือพระประสงค์ของพระองค์?
ในโลกที่เต็มไปด้วยความเชื่อและความคิดหลากหลาย เรามักได้ยินคำพูดเกี่ยวกับ “กฎแรงดึงดูด” ว่าความคิดและพลังงานของเราสามารถดึงดูดสิ่งที่เราต้องการเข้ามาในชีวิตได้ ขณะเดียวกัน ผู้ที่เชื่อใน พระเจ้า มองว่า ทุกสิ่งในชีวิตถูกกำหนดไว้ตามพระประสงค์ของพระองค์ แล้วสองสิ่งนี้เกี่ยวข้องหรือแตกต่างกันอย่างไร? มันคือพลังเดียวกันในรูปแบบที่ต่างกัน หรือเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกันโดยสิ้นเชิง? มาร่วมสำรวจคำตอบในบทความนี้
กฎแรงดึงดูด: ดึงดูดสิ่งที่คิด สิ่งที่เชื่อ
กฎแรงดึงดูด (Law of Attraction) มีแนวคิดง่ายๆ คือ “คุณคิดอย่างไร ชีวิตคุณก็จะเป็นแบบนั้น” หากคุณคิดบวก มองโลกในแง่ดี เชื่อมั่นในความสำเร็จ คุณก็จะดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต แต่หากจมอยู่กับความคิดลบหรือความกลัว คุณก็จะดึงดูดปัญหาและอุปสรรคมาหาตัวเอง กฎนี้เปรียบเสมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดสิ่งที่มีพลังงานแบบเดียวกันกับความคิดของเรา
ลองนึกภาพว่าชีวิตของเราคือสวน ความคิดคือต้นไม้ หากคุณปลูกต้นไม้ที่ดี ดูแลด้วยความคิดบวก ผลลัพธ์ที่ได้ย่อมเป็นผลผลิตที่ดี แต่ถ้าคุณปลูกเมล็ดแห่งความสงสัย ความกลัว ก็จะได้แต่ต้นไม้ที่ไม่แข็งแรงและไร้ผล
พระเจ้า: ผู้สร้างและผู้กำหนดทุกสิ่ง
ในมุมของ คริสเตียน พระเจ้าไม่ใช่เพียงพลังงาน แต่เป็นบุคคลที่มีความรักและพระประสงค์ที่ดีต่อมนุษย์ พระองค์ทรงเป็นผู้สร้างจักรวาลและควบคุมทุกสิ่ง พระคัมภีร์สอนว่า “ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นล้วนอยู่ในแผนการของพระเจ้า” (โรม 8:28) นั่นหมายความว่า ชีวิตเราไม่ได้ขึ้นอยู่กับความคิดของเราล้วนๆ แต่ขึ้นอยู่กับพระเจ้า พระองค์เป็นผู้ที่นำพาเราไปสู่สิ่งที่ดีที่สุด แม้บางครั้งเราจะไม่เข้าใจเส้นทางที่พระองค์กำหนด
การอธิษฐานต่อพระเจ้าในศาสนาคริสต์จึงเป็นการแสดงความเชื่อมั่น ไม่ใช่เพื่อเปลี่ยนแปลงชะตากรรมด้วยพลังความคิด แต่เพื่อยอมรับในพระประสงค์ของพระองค์และขอการนำทางที่ถูกต้อง
พลังจากภายในหรือพระเจ้าเป็นผู้กำหนด?
คำถามสำคัญคือ กฎแรงดึงดูดกับพระเจ้าไปด้วยกันได้หรือไม่? บางคนอาจมองว่ากฎแรงดึงดูดคือเครื่องมือที่พระเจ้ามอบให้เราใช้ในการดึงดูดสิ่งที่ดี แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรลืมว่าชีวิตทั้งหมดอยู่ในพระหัตถ์ของพระองค์
บางคนอาจพบความสมดุลระหว่างสองสิ่งนี้ โดยมองว่า การคิดบวกและเชื่อมั่นในสิ่งที่ดีเป็นการแสดงความศรัทธาต่อพระเจ้า และการอธิษฐานก็เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการดึงดูดสิ่งดีๆ เข้ามาในชีวิต แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการยอมรับว่า พระเจ้าทรงมีแผนที่ดีที่สุดสำหรับเรา แม้บางครั้งแผนนั้นอาจไม่ตรงกับสิ่งที่เราคิดไว้ก็ตาม
สรุป: จะเลือกเชื่ออะไร?
กฎแรงดึงดูดเน้นพลังจากความคิดของเราเอง ขณะที่ความเชื่อในพระเจ้าเน้นความไว้วางใจในพระองค์ หากคุณเชื่อในกฎแรงดึงดูด คุณอาจรู้สึกว่าตนเองควบคุมชีวิตได้ แต่ถ้าคุณเชื่อในพระเจ้า คุณจะพบความสงบในใจ เพราะรู้ว่ามีผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่าคอยดูแลคุณอยู่เสมอ
ท้ายที่สุด ไม่ว่าคุณจะเลือกเชื่อใน พลังของความคิด หรือ พลังของพระเจ้า สิ่งสำคัญคือการดำเนินชีวิตด้วยความหวัง ความรัก และการทำสิ่งดีๆ เพราะนั่นคือสิ่งที่จะนำพาความสุขที่แท้จริงมาให้คุณเสมอ
“จงทำดีต่อไป และเชื่อมั่นว่าความดีนั้นจะตอบแทนคุณในแบบที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะผ่านกฎแห่งแรงดึงดูดหรือพระประสงค์ของพระเจ้า”
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
