29 พ.ย. เวลา 11:09 • ความคิดเห็น
เราอาจจะมีความคิดประหลาดไม่เหมือนใครอยู่บ้าง แต่มันเกิดจากการตกผลึกสิ่งต่างๆในชีวิตและการมองเห็นประสบการณ์ชีวิตจากผู้คนรอบตัว
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จดับขันธปรินิพพาน ขณะพระชนมายุ 80 พรรษา ทรงทำงานเพื่อมวลมนุษยชาติ 45 ปี (คือการที่ทรงออกสั่งสอนมนุษย์ สัตว์และเทวดาทั้งหลาย) ซึ่งหากจะเปรียบกับคนทั่วไป ก็แปลว่าท่านทรงใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ทั่วไป เสพสุข เรียนรู้ ศึกษาตามหลักสูตร ประสบทุกข์ แล้วก็เริ่มแสวงหาสัจธรรม รวมเวลา 35 ปี อายุขัยพระสัมมาสัมพุทธเจ้ายังอยู่แค่เพียง 80 แล้วพวกเราจะอยากอายุยืนไปทำไมกันนะ?
คุณพ่อเราเสียชีวิตในวัย 45 ใครๆก็บอกว่า น่าเสียดาย บุญน้อยเหลือเกินอายุสั้นมาก และคุณแม่เราเสียชีวิตในวัย 87 สมัยที่คุณแม่ยังมีชีวิตอยู่ เวลาเราพาไปกราบไหว้พระสงฆ์องค์เจ้า ท่านก็บอกคุณแม่ว่า คนมีบุญจะอายุยืนอย่างนี้แหละโยม! เป็นงั้นไป!
เรามองว่าอายุขัยมนุษย์ไม่ควรจะยาวมากนัก เพราะมันหมายถึงภาระทั้งทางสังคม และภาระสำหรับลูกหลาน มันมาพร้อมความทุกข์ทางกายและใจ คือสังขารที่ร่วงโรย ความเหงาเปล่าเปลี่ยว เพราะลูกๆหลานๆก็ต้องมุ่งเรื่องการงานและการทำมาหากินกันเป็นหลัก
เรามองว่าตัวเลขอายุขัยที่พอดี
ควรจะอยู่ที่ 65 ปีก็พอแล้ว
หากว่าเฉลี่ยการศึกษา และการใช้ชีวิตอยู่ที่ 35 ปี
ทำงานสัก 20 ปี อีก 10 ปีที่เหลือ
ทิ้งอะไรไว้ให้สังคมหรือคนข้างหลัง
ก็น่าจะเพียงพอแล้วล่ะค่ะ
(นี่คือคำตอบของคนวัย 40+ที่มีพร้อมทุกอย่างนะคะ)
โฆษณา