เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ Ki-21
เครื่องบินแบบ Ki-21 (หรือที่รู้จักกันในชื่อ "ซูคอย" หรือ "Sally" ในชื่อที่ได้รับการตั้งจากฝ่ายพันธมิตร) เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดของญี่ปุ่นที่ผลิตในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง โดยการพัฒนาเริ่มในปี 1937 และเครื่องบินนี้ถูกนำไปใช้ในหลายการปฏิบัติการของกองทัพอากาศญี่ปุ่นในช่วงสงคราม
ในส่วนของกองทัพอากาศไทย เครื่องบิน Ki-21i ไม่ได้เป็นเครื่องบินที่บรรจุใช้งานในกองทัพไทย โดยทั่วไปกองทัพอากาศไทยในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองใช้เครื่องบินจากสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกา เช่น เครื่องบินแบบ Bristol Blenheim, Lockheed Hudson หรือ North American B-25 Mitchell เป็นต้น
ภาพ simulate จากไฟร์ซิม
เครื่องบินแบบ Ki-21 (Sally) ไม่ได้ถูกใช้งานในกองทัพของประเทศใดในปัจจุบันแล้ว เนื่องจากมันเป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ถูกใช้งานในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง และไม่ได้รับการใช้งานอีกต่อไปหลังจากสงครามจบลง
สำหรับในพิพิธภัณฑ์และสถานที่ที่มีการอนุรักษ์เครื่องบิน Ki-21 ในปัจจุบันนั้น เครื่องบินแบบนี้ยังคงมีการเก็บรักษาและแสดงในพิพิธภัณฑ์บางแห่ง โดยเฉพาะในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่พัฒนาเครื่องบินรุ่นนี้
ตัวอย่างของพิพิธภัณฑ์ที่อาจมีการเก็บรักษาเครื่องบิน Ki-21 ได้แก่:
1. พิพิธภัณฑ์การบินญี่ปุ่น (Japan Aerospace Museum) - ที่ตั้งในเมืองจิโรบูชิ อาจมีการเก็บรักษาเครื่องบินหรือชิ้นส่วนของ Ki-21
2. พิพิธภัณฑ์เครื่องบินแห่งชาติของญี่ปุ่น (National Air and Space Museum of Japan) - พิพิธภัณฑ์ในญี่ปุ่นที่มีการอนุรักษ์เครื่องบินและชิ้นส่วนต่างๆ จากช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
3. พิพิธภัณฑ์การทหารของญี่ปุ่น - บางแห่งอาจมีการเก็บรักษาเครื่องบินทิ้งระเบิดในรูปแบบต่างๆ จากสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ในปัจจุบันก็ยังคงมีเครื่องบิน Ki-21 บางรุ่นที่สามารถพบได้ในพิพิธภัณฑ์ต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นชิ้นส่วนหรือโมเดลจำลองของเครื่องบินเหล่านี้.
เครื่องบินแบบ Ki-21 (หรือที่ฝ่ายพันธมิตรเรียกว่า "Sally") เป็นเครื่องบินทิ้งระเบิดที่ใช้ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองโดยกองทัพอากาศจักรวรรดิญี่ปุ่น โดยมีภารกิจที่สำคัญดังนี้:
1. การทิ้งระเบิดในแนวหน้า: Ki-21 ถูกใช้ในการทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายสำคัญในแนวหน้าของฝ่ายพันธมิตร รวมถึงฐานทัพของสหรัฐฯ ในแปซิฟิก เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจีน
2. การโจมตีพื้นที่สำคัญในจีน: ในช่วงปี 1930s และต้นปี 1940s Ki-21 ได้รับการใช้ในการโจมตีเมืองและพื้นที่ต่างๆ ในประเทศจีน ซึ่งรวมถึงการโจมตีทางอากาศที่ได้รับคำสั่งจากรัฐบาลญี่ปุ่นในการปราบปรามกองทัพของจีนในช่วงสงครามจีน-ญี่ปุ่น (1937–1945)
3. การโจมตีฐานทัพของสหรัฐฯ: Ki-21 ถูกใช้ในการโจมตีฐานทัพสหรัฐฯ ในภูมิภาคแปซิฟิกในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง เช่น การโจมตีที่ฐานทัพฮาวาย, ฟิลิปปินส์ และกวม
4. การสนับสนุนการโจมตีจากเรือบรรทุกเครื่องบิน: Ki-21 ยังได้รับการใช้งานร่วมกับการปฏิบัติการของเรือบรรทุกเครื่องบินของญี่ปุ่นในการโจมตีจากอากาศต่อเรือรบของฝ่ายพันธมิตร
แม้ว่าจะเป็นเครื่องบินที่สำคัญในช่วงต้นของสงครามโลกครั้งที่สอง, Ki-21 ก็มีข้อจำกัดในเรื่องความเร็วและความคล่องตัวเมื่อเทียบกับเครื่องบินรุ่นใหม่ๆ ที่เริ่มพัฒนาในช่วงกลางสงคราม. แต่ยังคงมีบทบาทในช่วงปีแรกๆ ของสงคราม โดยเฉพาะในการโจมตีทางยุทธศาสตร์
นามเรียกขาน Sally
เครื่องบินทิ้งระเบิดแบบ Ki-21 (Sally) ต้องใช้นักบินและลูกเรือในการปฏิบัติภารกิจ 4 คน ซึ่งประกอบด้วย:
1. นักบิน (Pilot) – เป็นผู้ควบคุมเครื่องบินและรับผิดชอบในการนำเครื่องบินขึ้น, บิน, และลงจอด
2. ผู้ช่วยนักบิน (Co-pilot) – ช่วยในการควบคุมเครื่องบินและมีบทบาทในการช่วยเหลือในการปฏิบัติภารกิจ
3. นักยิงปืน (Gunner) – รับผิดชอบในการใช้อาวุธปืนต่อต้านเครื่องบินศัตรูและรักษาความปลอดภัยจากการโจมตีทางอากาศ
4. ผู้บรรทุกระเบิด (Bombardier) – ควบคุมการทิ้งระเบิดและเล็งเป้าหมาย
ลูกเรือเหล่านี้ทำงานร่วมกันเพื่อให้การโจมตีสำเร็จ โดยมีการแบ่งหน้าที่อย่างชัดเจนในการปฏิบัติภารกิจทางอากาศ
เครื่องบินทิ้งระเบิด Ki-21 (Sally) มีข้อมูลที่เกี่ยวกับระยะเวลาในการบินและการบรรทุกกระสุนดังนี้:
1. ระยะเวลาในการบิน (Flight Endurance)
Ki-21 สามารถบินได้นานประมาณ 6-7 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับน้ำหนักบรรทุกและสภาพการบิน โดยทั่วไปมันมีระยะบินสูงสุดประมาณ 2,500 กิโลเมตร ที่ความเร็ว 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งทำให้เครื่องบินรุ่นนี้สามารถบินได้ไกลพอสมควรในการโจมตีเป้าหมายในระยะไกล.
2. การบรรทุกกระสุน (Bomb Load)
Ki-21 สามารถบรรทุกระเบิดได้สูงสุดประมาณ 800 กิโลกรัม หรือ 1,764 ปอนด์ ซึ่งสามารถเป็นระเบิดขนาดใหญ่หรือชุดระเบิดหลายลูกตามความต้องการของภารกิจ
นอกจากนี้ยังสามารถบรรทุกกระสุนปืนและอาวุธต่างๆ สำหรับการป้องกันตัวเองจากการโจมตีทางอากาศได้ รวมถึงอาวุธปืนที่ติดตั้งในเครื่องบินเพื่อยิงต่อต้านเครื่องบินศัตรู.
เครื่องบิน Ki-21 ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับภารกิจทิ้งระเบิดในระยะไกล โดยมีการออกแบบให้สามารถบินได้ในระยะเวลานานและบรรทุกระเบิดหนักในระดับที่เหมาะสม.
เครื่องบิน Ki-21 (Sally) ผลิตโดยประเทศญี่ปุ่น โดยบริษัท Mitsubishi Heavy Industries ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทอุตสาหกรรมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
Mitsubishi เป็นผู้พัฒนาและผลิตเครื่องบินหลายรุ่นที่สำคัญในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง รวมถึงเครื่องบินรบและเครื่องบินทิ้งระเบิดหลายรุ่น เช่น Mitsubishi A6M Zero และ Mitsubishi G4M Betty นอกจากนี้ยังเป็นผู้ผลิตเครื่องบิน Ki-21 ซึ่งถูกใช้งานในภารกิจทิ้งระเบิดของกองทัพอากาศจักรวรรดิญี่ปุ่นในช่วงสงคราม.
ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก chat gpt ครับและ ภาพสวยๆจากพี่ไพบูลย์ขอบคุณครับ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
