30 พ.ย. เวลา 05:27 • ความคิดเห็น
ในฐานะ ผู้ประสบภัยแบบก้ำกึ่ง คือ ออกจากบ้านค่อนข้างลำบาก เพราะปากซอยกับหลังซอย ระดับน้ำขึ้นๆ ลงๆ แล้วแต่ปริมาณฝนที่ถล่ม ( ราวกับหอบทะเลมาเทใส่หลังคา!!! จริงๆ นะคะ )
😅😂✌️
แล้วรถรุ่นไฮบริดของเรา ดูแล้วทรงรถใหญ่ก็จริง แต่เครื่องยนต์โคตรจะต่ำ ( แอบงงใจ )
วานนี้ หลังจากฝนกระหน่ำมาทั้งวันและแทบจะทั้งคืน ตอนเช้าเห็นข่าว ว่าเขตที่ทำงานเรา เตรียมยกธงเตือนสถานการณ์น้ำขั้นวิกฤติในเขตเทศบาลนครฯ
น้องหัวหน้าหน่วย ไลน์เช็คคนเข้างานวันนี้ ว่าจะมีใครเข้ามาบ้าง คือเราทำงาน รพ. น่ะค่ะ
พอคุยกัน น้องๆ ล้วนอยู่หอ รพ. รึไม่ก็เขตปลอดภัยจึงมากันได้ ส่วนเราบ้านอยู่อีกอำเภอค่ะ ( รพท.ติดกะบ้านก็มี แต่คิดคึกไปทำงานถึง รพ.ศูนย์ฯ )
ประเมินสถานการณ์อย่างรวดเร็ว รถก็ไฮบริด เมื่อวานเย็น ตรูก็ลุยน้ำซ้ะ!! เกือบครึ่งทางกว่าจะถึงบ้าน ถ้าเกิดขับไปติดน้ำทางนู้น นอกจากจะไม่ช่วยแบ่งเบางานใดๆ ยังไปสร้างภาระต่อตนเองและผู้อื่น
จึงตอบไปเลยค่ะ พี่คงไปไม่ได้นะคะ น้ำรอบซอยบ้านน่าจะไว้ใจไม่ได้ในยามนี้
ทั้งนี้ทั้งนั้น ... ก็แค่อยากจะบอกว่า ยามภัยมา ต้องประเมินเขาประเมินเราเสมอค่ะ ถ้าคิดว่าอยากจะไปช่วย แล้วกลับเป็นภาระมากกว่าได้ประโยชน์ ทั้งตนและผู้อื่น ก็ช่วยเป็นแบบอื่นไป น่าจะดีกว่า
เมื่อวานสายๆ ยัยเลขาส่งสภาพบ้านมาทางไลน์ ตู้เย็น และข้าวของใดๆ ลอยเกลื่อนบ้าน เลยโอนเงินให้นาง แล้วบอกให้เซฟแบตฯ
หวังใจให้ทุกๆ ท่าน อยู่กับภาวะ extreme weather of our warmer planet อย่างปลอดภัยต่อไปนะคะ
โชคดีค่ะะ 🤩❤️✌️
ของเราระดับ warning & danger เพื่อนบ้านคือ X~treme level 🤩☔🫧
โฆษณา