1 ธ.ค. เวลา 01:00 • ข่าวรอบโลก

ปูตินเร่งเพิ่ม “ขีปนาวุธ” ในครอบครอง อิหร่าน-เกาหลีเหนือ ส่งอาวุธให้เต็มคลัง

หลังจากรัสเซียถูกโจมตีด้วยขีปนาวุธ ATACMS และขีปนาวุธ Storm Shadow ซึ่งยูเครนได้รับจากชาติตะวันตก รัสเซียได้ตอบโต้กลับไปยังยูเครนด้วยขีปนาวุธที่กำลังเหนือกว่า การวัดกำลังสงครามกันด้วยขีปนาวุธนั้น เป็นที่กังวลในนานาชาติว่าจะพัฒนาไปสู่การติดหัวรบนิวเคลียร์
เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน สำนักข่าว Tass ของรัสเซีย รายงานว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธ Iskander ทำลายระบบยิง 5 ระบบ ของขีปนาวุธพิสัยไกล ATACMS ในภูมิภาคซูมี ซึ่งประกอบด้วยระบบยิง MLRS 2 ระบบ ระบบยิง HIMARS 3 ระบบ ทำให้ระบบขีปนาวุธเสียหายมากถึง 30 เครื่อง
การโจมตีทำให้สำนักงานใหญ่หน่วยข่าวกรองหลัก (GUR) 'Kraken' ในกรุงคาร์คิฟ เสียหาย ส่งผลให้ผู้เชี่ยวชาญต่างชาติเสียชีวิตถึง 40 ราย โดยส่วนใหญ่มาจากสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ ขีปนาวุธ Iskander ยังทำลายศูนย์ปฏิบัติการพิเศษของกองกำลังติดอาวุธยูเครน ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 72 ราย รวมถึงผู้ฝึกสอนและผู้เชี่ยวชาญด้านเทคนิคชาวฝรั่งเศส 9 ราย
.
เช้าวันที่ 28 พฤศจิกายน กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศโจมตีทางอากาศร่วมด้วยขีปนาวุธ 90 ลูก และโดรน Geran-2 จำนวน 100 ลำ อีกทั้งยังโจมตีบริษัทอุตสาหกรรมการทหารที่สำคัญของยูเครน 17 แห่งด้วย
ขีปนาวุธที่รัสเซียครอบครองและใช้งาน:>
ระบบขีปนาวุธพิสัยกลางความเร็วเหนือเสียงโอเรชนิก (Oreshnik)
เมื่อพิจารณาจากภารกิจและพิสัยการยิงของอาวุธนี้แล้ว อาวุธนี้สามารถโจมตีเป้าหมายทั่วทั้งยุโรปได้ ซึ่งทำให้อาวุธนี้แตกต่างจากอาวุธระยะไกลที่มีความแม่นยำสูงชนิดอื่นๆ
ผู้บัญชาการกองกำลังขีปนาวุธยุทธศาสตร์ของรัสเซีย พลเอกซอร์เกย์ คาราไกเยฟ กล่าวถึง Oreshnik
21 พฤศจิกายน 2567 รัสเซียยิงขีปนาวุธ Oreshnik เป็นครั้งแรก เพื่อตอบโต้ยูเครนที่ยิงขีปนาวุธ ATACMS และขีปนาวุธ Storm Shadow เข้ามาในรัสเซีย โดย30 นาทีก่อนการปล่อย Oreshnik รัสเซียส่งการแจ้งเตือนอัตโนมัติไปยังสหรัฐอเมริกา ผ่านทางศูนย์ลดความเสี่ยงด้านนิวเคลียร์ ความทรงพลังของ Oreshnik ทำให้ยูเครนแตกตื่นเนื่องจากมีลักษณะเหมือนขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ต่อมารัสเซียได้ออกมาชี้แจงว่า “นี่คือการยิงเพื่อการทดลอง” เท่านั้น
Oreshnik ได้รับการพัฒนาโดยสถาบันเทคโนโลยีความร้อนแห่งกรุงมอสโก (MIT) และศูนย์ขีปนาวุธเมเคเยฟ Ilya Kramnik ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารของรัสเซียกล่าวกับหนังสือพิมพ์ Izvestiya ว่า ขีปนาวุธ Oreshnik เป็นขีปนาวุธพิสัยกลางรุ่นใหม่ของรัสเซียซึ่งมีพิสัยการโจมตี 2,500-3,000 กิโลเมตร (1,550-1,860 ไมล์) และอาจขยายได้ถึง 5,000 กิโลเมตร (3,100 ไมล์) แต่ไม่ใช่ขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) ซึ่งมีพิสัยการยิงอยู่ที่ 1,000-5,500 กิโลเมตร (621-3,418 ไมล์)
Oreshnik อาจเป็นขีปนาวุธข้ามทวีป (ICBM) รุ่นย่อส่วน
ขีปนาวุธ Oreshnik สามารถโจมตีเป้าหมายด้วยความเร็ว 10 มัค (2.5 ถึง 3 กิโลเมตรต่อวินาที) และสามารถติดตั้งหัวรบนิวเคลียร์ได้ 3 ถึง 6 หัว โดย Oreshnik มีพิสัยการโจมตีไปถึงยุโรปจากจุดที่ยิงไปทางตะวันตกเฉียงใต้ของรัสเซียได้ แต่ไม่ถึงสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ ผู้เชี่ยวชาญระบุตัวเลขว่าขีปนาวุธนิวเคลียร์จะต้องมีความเร็ว 3,200 กม./ชม. หรือเกือบ 900 ม./วินาที
.
ปัจจุบันรัสเซียจำเป็นต้องใช้ขีปนาวุธ Iskander-M เพื่อทำลายระบบยิง HIMARS และ ATACMS ของสหรัฐอเมริกา ซึ่ง Iskander-M มีความสามารถเข้าถึงเป้าหมายได้เร็วกว่าขีปนาวุธอื่นๆ ของรัสเซีย ระบบนี้สามารถรับมือกับภารกิจในกิจกรรมภาคพื้นดินทุกประเภท ในพื้นที่ปฏิบัติการทุกรูปแบบ และทุกสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน การสั่งการผ่านระบบสั่งการและระบบควบคุมอัตโนมัติ
ระบบขีปนาวุธพิสัยสั้นเคลื่อนที่ Iskander-M ของรัสเซีย© อันตัน โนโวเดอเรซกิน/TASS
ขีปนาวุธ Iskander-M ของรัสเซียโดยทั่วไปมีหัวรบขนาด 480 กิโลกรัมและมีพิสัยการยิงไกลถึง 500 กม. เป็นระบบขีปนาวุธร่อนพิสัยไกล แม้ว่ารัสเซียพยายามจะผลิตเพิ่มขึ้น แต่จำนวนขีปนาวุธ Iskander-M ที่กองทัพรัสเซียมีไว้ใช้ก็มีแนวโน้มว่าจะยังต่ำกว่าจำนวนที่ต้องการอย่างมาก นอกจากนี้ ขีปนาวุธ Iskander-M ยังมีราคาแพงและมีพลังทำลายล้างสูงกว่าความจำเป็นในการทำลายเป้าหมายกองกำลัง
.
ในคลังอาวุธขีปนาวุธพิสัยไกลของรัสเซียนอกจากมีขีปนาวุธ Iskander-M ของตัวเองแล้ว ยังมีขีปนาวุธ KN-23 (Hwasong-11) ของเกาหลีเหนือที่ส่งมาให้รัสเซียอยู่ในการครอบครองด้วย ฮวาซอง-11 บินในวิถีคล้ายขีปนาวุธพิสัยไกลและสามารถบรรทุกหัวรบขนาด 500 กิโลกรัมได้ไกลถึง 450 กิโลเมตร พิสัยยิงไกลถึง 690 กิโลเมตร
ขีปนาวุธ KN-23 / โอเพ่นซอร์ส
มีรายงานจากหน่วยข่าวกรองกลาโหมของยูเครนเปิดเผยว่า มีการส่งมอบอาวุธของเกาหลีเหนือให้แก่รัสเซียในวันที่ 3 ตุลาคม 2024 นอกจากขีปนาวุธพิสัยใกล้แบบ KN-23/24 มากกว่า 100 ลูก แล้ว ยังมีปืนใหญ่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองขนาด 170 มม. M-1989 Koksan และระบบจรวดหลายลำกล้องขนาด 240 มม. M-1991 นอกเหนือจากอุปกรณ์ดังกล่าวแล้ว เกาหลีเหนือยังส่งมอบกระสุนขนาดใหญ่จำนวนมากกว่า 5 ล้านหน่วยให้อีกด้วย
ระบบปืนใหญ่ M-1989 / โอเพ่นซอร์ส
สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างแหล่งข่าวในหน่วยข่าวกรองยุโรประบุว่า เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ลงนามในสัญญากับเจ้าหน้าที่อิหร่านเพื่อจัดหาขีปนาวุธระบบ Fath 360 และระบบขีปนาวุธอีกระบบหนึ่งที่พัฒนาโดยองค์กรอุตสาหกรรมอวกาศ (AIO) ของรัฐอิหร่านที่เรียกว่า "Ababil" และในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 จะมีการส่งมอบขีปนาวุธพิสัยไกลของอิหร่านให้กับรัสเซีย 400 ลูก พร้อมส่งผู้เชี่ยวชาญด้านขีปนาวุธของรัสเซียหลายสิบคนเข้ารับการฝึกฝนการใช้งานขีปนาวุธ Fath-360 ในอิหร่าน ซึ่งข้อมูลดังกล่าวยังไม่ได้รับการยืนยัน
ขีปนาวุธทางยุทธศาสตร์เหล่านี้มีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับขีปนาวุธ GMLRS ของอเมริกาที่ใช้กับขีปนาวุธ HIMARS (M270) MLRS ที่กองทัพยูเครนใช้ อย่างไรก็ตาม ขีปนาวุธ FATH-360 นั้น มีความแม่นยำต่ำกว่าขีปนาวุธ HIMARS มาก แต่ขีปนาวุธ FATH-360 เน้นการเคลื่อนตัวและการใช้งานที่รวดเร็ว รวมทั้งมีพิสัยการโจมตีที่ไกลกว่าเมื่อเทียบกับ HIMARS ช่วยชดเชยความแม่นยำที่น้อยกว่าได้
ระบบยิงขีปนาวุธ Fath-360 ของอิหร่าน (tasnimnews.com)
ระบบขีปนาวุธ Fath-360 ใช้เครื่องยิงขีปนาวุธ Transporter Erector Launcher (TEL) ที่ติดตั้งบนรถบรรทุก ซึ่งออกแบบมาเพื่อบรรทุกและยิงขีปนาวุธได้หลายลูก เครื่องยิงนี้สามารถติดตั้งคอนเทนเนอร์ยิงขีปนาวุธได้ 2, 3, 4 หรือ 6 นัด โดยแต่ละคอนเทนเนอร์จะบรรจุขีปนาวุธได้ 1 ลูก ทำให้สามารถบรรจุขีปนาวุธได้หลายแบบตามความต้องการของภารกิจ
เครื่องยิงเหล่านี้ติดตั้งอยู่บนรถบรรทุกและได้รับการปรับให้เหมาะสมสำหรับการ "ยิงและเคลื่อนที่" โดยสามารถย้ายตำแหน่งได้อย่างรวดเร็วหลังการยิงเพื่อหลีกเลี่ยงการยิงตอบโต้จากปืนใหญ่
ความแม่นยำของ Ababil และ Fath-360 ถือว่าสูงกว่าขีปนาวุธต่อต้านอากาศยาน S-300 ของรัสเซีย การซื้อ Ababil หรือ Fateh-360 จะทำให้กองทัพรัสเซียสามารถโจมตีเป้าหมายในแนวหลังได้มากขึ้น
ขีปนาวุธ Fath-360 (หรือเรียกอีกอย่างว่า BM-120) มีลักษณะคล้ายกับขีปนาวุธนำวิถี Tornado-S ของรัสเซีย ซึ่งไม่ทราบแน่ชัดว่าอิหร่านได้ส่งเครื่องยิงขีปนาวุธ Fath-360 ไปให้รัสเซียกี่เครื่อง มีเพียงรายงานอย่างไม่เป็นทางการว่ามีการส่งขีปนาวุธ Fath-360 ไปเพียง 200 ลูกเท่านั้น
เครื่องยิง Fath-360 ในขบวนพาเหรดของกองทัพอิหร่านในสถานที่ที่ไม่ทราบแน่ชัดในปี 2022 (วิกิมีเดีย)
เมื่อเปรียบเทียบราคากันแล้ว ขีปนาวุธ Patriot ของสหรัฐอเมริกาหนึ่งลูกมีราคา 3-4 ล้านดอลลาร์ ในขณะที่ขีปนาวุธ Fath-360 มีมูลค่าตั้งแต่ 500,000 ถึง 1 ล้านดอลลาร์ ขีปนาวุธ FATH-360 ของอิหร่านจึงเป็นทางเลือกที่ราคาไม่แพงและมีประสิทธิภาพสำหรับรัสเซีย นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าระบบขีปนาวุธของอิหร่านจะต้องติดตั้งอุปกรณ์เพื่อลดภัยคุกคามจากโดรน เช่น ระบบ SATNAV ของรัสเซียที่ผ่านการใช้งานในสนามรบมาอย่างโชกโชน
.
เรื่องอิหร่านได้ส่งมอบขีปนาวุธพิสัยไกลให้กับรัสเซียนั้น ทางสหรัฐอเมริกาได้ออกมายืนยันเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2567 ว่า ทางอิหร่านได้ส่งมอบขีปนาวุธชุดแรกจำนวน 200 ลูก ให้แก่รัสเซียแล้ว ส่วนหนังสือพิมพ์วอลล์สตรีทเจอร์นัล รายงานเมื่อวันที่ 6 กันยายนว่า อิหร่านได้ส่งมอบขีปนาวุธพิสัยใกล้ รวมถึง Fath-360 ให้กับรัสเซียแล้วเช่นกัน
.
ขีปนาวุธของอิหร่านที่คาดว่ารัสเซียให้ความสนใจและอยู่ในการเจรจา น่าจะเป็นขีปนาวุธระยะสั้นและระยะกลาง 5 ประเภท ขีปนาวุธระยะสั้นได้แก่ Ababil และ Fath-360 ส่วนขีปนาวุธระยะกลางเป็นตัวแทนของกลุ่ม Fateh ได้แก่ Fateh-110, Zolfaghar และ Dezful
Ababil เป็นรุ่นที่ได้รับการพัฒนาล่าสุด ขีปนาวุธดังกล่าวมีน้ำหนักหัวรบ 45 กิโลกรัม และมีพิสัยการยิงสูงสุด 86 กิโลเมตร ส่วน Fath-360 มีหัวรบ 150 กิโลกรัม และมีพิสัยการยิงสูงสุด 120 กิโลเมตร
Fateh-110 มีหัวรบนิวเคลียร์ขนาด 400-500 กิโลกรัม และมีพิสัยการยิงสูงสุดถึง 300 กิโลเมตร ส่วน Zolfaghar ยิงได้ไกลกว่าและแม่นยำกว่า หัวรบนิวเคลียร์มีน้ำหนัก 579 กิโลกรัม และมีพิสัยการยิงสูงสุดถึง 700 กิโลเมตร ส่วน Dezful นั้นเป็นรุ่นที่มีพิสัยการยิงไกลที่สุดในบรรดาทั้ง 5 รุ่นนี้ โดยมีหัวรบนิวเคลียร์ขนาด 700 กิโลกรัม และมีพิสัยการยิงสูงสุดถึง 1,000 กิโลเมตร
.
แม้จะพ้นยุคสงครามเย็นมานานมากแล้ว แต่รัสเซียยังคงมีขีปนาวุธพิสัยไกลและขีปนาวุธร่อนมากที่สุดในโลก ครองตำแหน่งมหาอำนาจในการพัฒนาขีปนาวุธทุกประเภท และกองกำลังจรวดเชิงยุทธศาสตร์ของรัสเซียถือเป็นองค์ประกอบสำคัญของกลยุทธ์ทางการทหารของมอสโก
นอกจากรัสเซียแล้ว ความพยายามสะสมอาวุธสงครามในหลาย ๆ ประเทศ แสดงให้เห็นว่าสนธิสัญญาควบคุมอาวุธ ไม่สามารถจำกัดการใช้งานและคลังอาวุธขีปนาวุธ รวมทั้งระบบต่อต้านขีปนาวุธเชิงยุทธศาสตร์ และขีปนาวุธร่อนนิวเคลียร์ได้อย่างมีประสิทธิผล ความเสี่ยงที่จะเกิดสงครามโลกจึงเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อไม่มีประเทศใดสนใจในข้อตกลงสันติภาพอีกต่อไป.
โฆษณา