1 ธ.ค. เวลา 03:36 • หุ้น & เศรษฐกิจ

สิ่งที่ควรรู้ สำหรับคนที่สนใจ ลงทุนพลังงานสะอาด

.
1️⃣ MW คือความเร็วในการผลิต ไม่ใช่ปริมาณการผลิต เอาโรงไฟฟ้าคนละชนิดมาเปรียบเทียบ MW กันตรงๆ ไม่ได้ เพราะโรงไฟฟ้าแต่ละชนิดมีจำนวนชั่วโมงที่ผลิตได้ในแต่ละวันไม่เท่ากัน เช่นโรงไฟฟ้าพลังแสงอาทิตย์ผลิตได้ประมาณ 4 ชั่วโมงต่อวัน ในขณะที่พลังงานลม ถ้าอยู่ตำแหน่งที่เหมาะสมจะได้ถึง 7 ชั่วโมงต่อวัน ทำให้ SolarFarm 2 MW ผลิตหน่วยไฟฟ้าได้พอๆ กับ WindFarm 1 MW
.
2️⃣ ราคาขายไฟฟ้าต่อหน่วยของแต่ละประเทศไม่เท่ากัน ต่อให้เป็นโรงไฟฟ้าแบบเดียวกัน
.
3️⃣ จากเหตุผลในข้างต้น ทำให้มูลค่าการลงทุนและราคาขายต่อ MW ของโรงไฟฟ้าแต่ละชนิดมีมูลค่าไม่เท่ากัน เช่น SolarFarm ในไทยราคาจะประมาณ 20-30 ล้านบาท ในขณะที่ WindFarm ตกประมาณ 45-50 ล้านบาท
.
4️⃣ หากเราอยากพิจารณาว่าบริษัทลงทุนคุ้มค่าหรือเปล่า ให้ลองเปรียบเทียบ ROI หรือไม่ก็เปรียบเทียบมูลค่ากับโครงการอื่นที่เป็นพลังงานชนิดเดียวกัน ในประเทศที่มีอัตราค่าไฟฟ้าต่อหน่วยใกล้เคียงกัน
.
5
5️⃣ธุรกิจนี้มี Barrier of entry ต่ำจริง แต่มี Barrier of long term success สูง >>> จริงอยู่ ที่ใครๆ ก็เข้ามาประมูลโครงการได้ แต่ในระยะยาว ถ้าไม่เจ๋งจริง ก็จะขาดทุน ไม่ก็ต้องขายโครงการออกไป หรือ ไม่ก็หาโครงการใหม่เพิ่มไม่ได้
.
นั่นก็เพราะว่าผู้ชนะในธุรกิจนี้ ต้องมีพลังครบสามด้าน
.
1
👑 Conner resource : ต้องมี Edge ของตัวเอง โดยการเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อให้ได้โครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง สังเกตุดีๆ ครับ บริษัท Green Energy ขนาดใหญ่ มีลูกพี่ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น WHA, CK, BCP, GULF หรือ PTT
.
🐋 Economy of scale : ถ้าไม่ใหญ่ จะคุม Cost ให้ต่ำสู้คู่แข่งไม่ได้
.
👷‍♂️ Efficient Process : บริษัทต้องทำมานาน จนมีความชำนาญมากพอ เพราะถ้าชำนาญจะทำให้ Capital investment ต่ำ และ Capacity factor สูง (ผลิตไฟต่อ MW ได้มากกว่าคู่แข่ง)
.
.
.
แล้วคุณหละครับ คิดว่าพลังงานสะอาดจะเป็นหุ้นแห่งอนาคตหรือเปล่า ? เมื่ออ่านปัจจัยแห่งชัยชนะที่ผมพูดถึงแล้ว มีชื่อบริษัทไหนขึ้นมาในใจมั้ย ?
#Salarymanติดปีก #พลังงานสะอาด
โฆษณา