3 ธ.ค. เวลา 02:13 • นิยาย เรื่องสั้น

#ย้อนรอยเรื่องเล่า THE GHOST RADIO

เด็กฝึกงาน • คุณพิมพ์ภัส
เรื่องนี้คุณพิมพ์ภัสได้พบเจอตอนที่ไปฝึกงาน
และได้ไปเช่าห้องที่คอนโดแห่งหนึ่ง
ที่ได้เจอกับเรื่องสยองขวัญจนจำไม่ลืม
ด้ายแดง (红线) เป็นความเชื่อที่มีต้นกำเนิดในวัฒนธรรมจีนเกี่ยวกับความสัมพันธ์และโชคชะตา
ว่ากันว่าคนสองคนที่ถูกกำหนดให้เป็นคู่แท้จะถูกเชื่อมโยงกันด้วยด้ายแดงที่มองไม่เห็น
ซึ่งผูกไว้โดยเทพเจ้าหรือ "เย่ว์เหล่า" (月老) เทพเจ้าแห่งความรักและการแต่งงาน
ที่เชื่อว่า นิ้วก้อยข้างหนึ่งของเราจะมีด้ายแดงที่มองไม่เห็นผูกไว้อยู่
และปลายทางของเส้นด้ายนั้นก็คือ นิ้วก้อยของคนอีกคนหนึ่งที่เป็นเนื้อคู่ของเรา
แม้จะอยู่ห่างกันแสนไกลแค่ไหน สักวันหนึ่งด้ายแดงจะนำพาความรักให้คนทั้งสองมาพบกันและรักกันตลอดไป
ด้ายแดง ส่วนใหญ่นั้นทำมาจากเชือกถัก
โดยมีสีแดง ที่เป็นสีมงคลของชาวจีน
มีความหมายโดยตีความจากธาตุไฟที่แสดงถึง แสงสว่าง ความอบอุ่น รุ่งโรจน์ โชคดี ความสุข
ปัจจุบันความเชื่อเรื่องด้ายแดงได้รับความนิยมอย่างมาก
ซึ่งสะท้อนผ่านสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่ผู้คนนิยมไปสักการบูชา
เพื่อตอบสนองความศรัทธาที่สืบต่อกันมาอย่างช้านาน อาทิ
1. วัดเย่ว์เหล่า (Yue Lao Temple) - ไต้หวัน
เป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่มีชื่อเสียงเรื่องการขอพรความรัก
โดยเทพเย่ว์เหล่าถือเป็นผู้ผูกด้ายแดงให้กับคู่รักที่ถูกกำหนดไว้
นักท่องเที่ยวมักนำด้ายแดงมาอธิษฐานและมัดไว้ที่แท่นบูชาเพื่อเสริมดวงความรักให้มั่นคงหรือพบรักแท้
2. วัดหวังต้าเซียน (Wong Tai Sin Temple) - ฮ่องกง
นอกจากการไหว้ขอพรคู่รักแล้ว ที่นี่มีพิธีกรรมที่ช่วยเสริมดวงความรัก
เช่น การเขียนคำอธิษฐานลงบนกระดาษและผูกไว้ที่ต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์
3. วัดหลงหัว (Longhua Temple) - เซี่ยงไฮ้ ประเทศจีน
เป็นวัดเก่าแก่ที่มีเทพเย่ว์เหล่าประดิษฐานอยู่
ผู้คนมักเดินทางมาเพื่อขอพรให้โชคชะตาด้านความรักสมหวัง
และที่นี่ยังมีพิธีมัดด้ายแดงรอบต้นไม้ศักดิ์สิทธิ์เพื่อเชื่อมโยงคู่รักในอนาคต
4. ศาลเจ้าโตเกียว ไดจินกุ (Tokyo Daijingu) - ญี่ปุ่น
แม้จะเป็นสถานที่ที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับด้ายแดง แต่ศาลเจ้าโตเกียว ไดจินกุ
เป็นหนึ่งในศาลเจ้าที่โด่งดังเรื่องการขอพรด้านความรักในญี่ปุ่น
เชื่อว่าผู้ที่มาขอพรจะได้รับโชคดีเรื่องความสัมพันธ์ที่สมหวัง
ในยุคปัจจุบัน ด้ายแดงยังคงเป็นที่นิยมและถูกใช้เป็นแรงบันดาลใจในวรรณกรรม ภาพยนตร์ และศิลปะ
อีกทั้งยังมีความหมายเชิงสัญลักษณ์ในพิธีกรรมและความสัมพันธ์
เช่น การผูกด้ายแดงที่ข้อมือเพื่อเสริมดวงความรัก
ด้ายแดงไม่เพียงเป็นตำนานแห่งโชคชะตา แต่ยังสอนให้เราเชื่อมั่นในความรักและความสัมพันธ์ที่มีความหมาย
โดยไม่ว่าจะผ่านไปนานเท่าไร ด้ายแดงนี้จะยังคงเชื่อมโยงผู้คนไว้เสมอ
ทีมงาน THE GHOST RADIO
ขอขอบคุณสำหรับการติดตาม
#ย้อนรอยเรื่องเล่า #Theghostradio
#เด็กฝึกงาน #ด้ายแดง #เดอะโกสท์เรดิโอ
โฆษณา