1 ธ.ค. เวลา 09:38 • ประวัติศาสตร์

กษัตริย์ผู้ใช้พระหัตถ์ควักหัวใจฆาตกรที่ฆ่าพระมเหสี

เรื่องราวของเจ้าชายหนุ่มตกหลุมรักเด็กสาววัยแรกแย้ม คงจะฟังดูเหมือนเป็นเรื่องราวจากในเทพนิยายที่จบอย่างแฮปปี้เอนดิ้ง
หากแต่สำหรับเรื่องราวของ “พระเจ้าปีเตอร์ที่ 1 แห่งโปรตุเกส (Peter I of Portugal)” กับ “อิเนส เด คัสโตร (Inês de Castro)“ กลับไม่ได้จบลงอย่างมีความสุขและสมหวัง หากแต่เต็มไปด้วยความโหดร้าย การแก้แค้น และพลัดพราก
เรื่อวราวเป็นอย่างไร ผมจะเล่าให้ฟังครับ
ในปีค.ศ.1336 (พ.ศ.1879) “พระเจ้าอาฟงซูที่ 4 แห่งโปรตุเกส (Afonso IV of Portugal)” ได้วางแผนจัดงานเสกสมรสแก่ “เจ้าชายปีเตอร์” หรือภายหลังก็คือพระเจ้าปีเตอร์ที่ 1 กับ “คอนสแตนซา มานูเอล (Constanza Manuel)” บุตรสาวของขุนนางที่ทรงอำนาจ โดยการเสกสมรสนี้เป็นการสมรสทางการเมือง เป็นการชิงไหวชิงพริบทางการเมืองระหว่างขั้วอำนาจ
คอนสแตนซาเดินทางมายังโปรตุเกสในปีค.ศ.1340 (พ.ศ.1883) เพื่อเตรียมเสกสมรสกับเจ้าชายปีเตอร์ ซึ่งคอนสแตนซาก็ได้นำผู้ติดตามที่มีนามว่า “อิเนส เด คัสโตร (Inês de Castro)“ มาด้วย
อิเนสเป็นบุตรขุนนางเช่นกันและมีรูปโฉมงดงาม โดยในเวลานั้น อิเนสมีอายุเพียงแค่ 14-15 ปีเท่านั้น มีผมสีทอง ดวงตาสีฟ้าคม และผิวขาวจัด
พระเจ้าอาฟงซูที่ 4 แห่งโปรตุเกส (Afonso IV of Portugal)
ด้วยความงดงามของอิเนส ทำให้เจ้าชายปีเตอร์วัย 19 พรรษาเกิดหลงใหล ไม่สนพระทัยคอนสแตนซาซึ่งเป็นว่าที่มเหสีของตนเลย กลับไปสนพระทัยอิเนสซึ่งเป็นผู้ติดตาม
แต่ถึงอย่างนั้น คอนสแตนซาก็ได้มีพระราชบุตรกับเจ้าชายปีเตอร์ถึงสี่องค์ หากแต่ความรู้สึกที่เจ้าชายปีเตอร์กับอิเนสมีให้แก่กันและกันนั้น นับวันมีแต่ลงลึกและยิ่งผูกพันธ์
อิเนสเองก็มีความสัมพันธ์กับเจ้าชายปีเตอร์และมีพระราชบุตรด้วยกันถึงสามคน อีกทั้งพี่ชายของอิเนสก็กลายเป็นพระสหายสนิทกับเจ้าชายปีเตอร์ กลายเป็นที่ปรึกษาส่วนพระองค์ของเจ้าชายปีเตอร์ และเจ้าชายปีเตอร์ก็ได้ประทานตำแหน่งสำคัญให้
พระเจ้าปีเตอร์ที่ 1 แห่งโปรตุเกส (Peter I of Portugal)
พฤติกรรมของเจ้าชายปีเตอร์ทำให้พระราชบิดาอย่างพระเจ้าอาฟงซูที่ 4 ทรงนั่งไม่ติด เรื่องที่เจ้าชายปีเตอร์ทรงมีสัมพันธ์กับอิเนสไม่ใช่ความลับ เป็นที่ซุบซิบนินทาไปทั่ว และอาจจะสั่นสะเทือนต่อความสัมพันธ์ระหว่างราชสำนักกับตระกูลของคอนสแตนซา และอาจจะร้ายแรงถึงขั้นกลายเป็นสงครามกลางเมือง
ในทีแรก พระเจ้าอาฟงซูที่ 4 ก็ยังทรงข่มพระทัย ทรงคิดว่าเมื่อเวลาผ่านไป เจ้าชายปีเตอร์ก็คงเบื่อ เลิกสนพระทัยอิเนสไปเอง แต่พระองค์คิดผิด นับวัน เจ้าชายปีเตอร์มีแต่จะยิ่งหลงอิเนสมากขึ้นเรื่อยๆ
พระเจ้าอาฟงซูก็ทรงพยายามกีดกันอิเนสในทุกทาง ไม่ว่าจะเป็นการกีดกันจากราชสำนักและสั่งให้คุมตัวไว้ในวิหาร หากแต่ก็ยังไม่สามารถหยุดความรักที่เจ้าชายปีเตอร์มีต่ออิเนสได้ โดยเจ้าชายปีเตอร์มักจะทรงเขียนจดหมายรัก แอบส่งไปหาอิเนสในที่คุมขังเสมอๆ
อิเนส เด คัสโตร (Inês de Castro)
ต่อมา คอนสแตนซาเสียชีวิตในปีค.ศ.1349 (พ.ศ.1892) จากการคลอดบุตร ทำให้พระเจ้าอาฟงซูที่ 4 ทรงจัดการลิสต์รายชื่อหญิงสาวที่เหมาะสมที่จะเป็นมเหสีคนใหม่ของเจ้าชายปีเตอร์
แต่เจ้าชายปีเตอร์ไม่สนพระทัยหญิงสาวคนใด คนที่พระองค์ทรงรักคืออิเนส ผู้ซึ่งเป็นรักแท้เพียงคนเดียวของพระองค์
เจ้าชายปีเตอร์ทรงประกาศว่าอิเนสคือมเหสีของพระองค์ และพระองค์กับอิเนสได้เสกสมรสกันแล้วอย่างลับๆ ซึ่งเหตุการณ์นี้คือฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้พระเจ้าอาฟงซูที่ 4 ทรงฟิวส์ขาด และตัดสินพระทัยว่าต้องใช้วิธีที่เด็ดขาดในการกำจัดอิเนส
คอนสแตนซา มานูเอล (Constanza Manuel)
มกราคม ค.ศ.1355 (พ.ศ.1898) ขณะที่เจ้าชายปีเตอร์เสด็จไปล่าสัตว์ ก็ปรากฎขุนนางสามคนซึ่งเป็นคนของพระเจ้าอาฟงซูที่ 4 ได้เดินทางมายังวิหารที่คุมขังอิเนส และได้ทำการสังหารและตัดศีรษะอิเนสต่อหน้าพระโอรส
อิเนสมีอายุเพียง 29 ปีเท่านั้น
เมื่อทราบข่าวการเสียชีวิตของอิเนส เจ้าชายปีเตอร์ทรงโศกเศร้า พระทัยแตกสลาย และพระองค์ทรงสาบานว่าจะต้องแก้แค้นผู้ที่ทำลายดวงใจของพระองค์ให้ได้
เจ้าชายปีเตอร์ทรงก่อกบฏ ต่อต้านพระราชบิดา ทำให้เกิดสงครามภายใน และทรงออกไล่ล่าผู้ที่สังหารอิเนสราวกับนายพรานออกล่ากระต่าย
เจ้าชายปีเตอร์ทรงสามารถจับตัวมือสังหารที่สังหารอิเนสได้สองคน และพระองค์ก็ทรงสังหารคนทั้งสองด้วยการควักหัวใจของทั้งคู่ด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง โดยพระองค์ทรงกล่าวว่าสองคนนี้ทำลายหัวใจของพระองค์ ดังนั้นพระองค์จะขยี้หัวใจของทั้งคู่เช่นกัน
จากนั้น เจ้าชายปีเตอร์ก็ทรงหมกมุ่นอยู่กับการตามล่ามือสังหารที่เหลืออีกหนึ่งคน ซึ่งถึงแม้พระองค์จะตามจับไม่ได้ แต่ก็ทำให้มือสังหารรายที่สามอยู่ไม่ได้ ต้องรีบเผ่นหนีไปฝรั่งเศส ไม่สามารถอยู่บ้านได้ เนื่องจากถ้าอยู่โปรตุเกสต่อ ตายแน่นอน
หลังจากเจ้าชายปีเตอร์ขึ้นครองราชย์ พระองค์ทรงแต่งตั้งอิเนสเป็นราชินีถึงแม้ว่าอิเนสจะเสียชีวิตไปก่อนแล้วก็ตาม และมีรับสั่งให้สร้างอนุสาวรีย์อิเนส เป็นการสดุดีต่อหญิงที่พระองค์ทรงรักมากที่สุด
และนี่ก็คือเรื่องราวรักแท้ของกษัตริย์หนุ่มที่ทรงรักมั่น ไม่สนหญิงใด และทำทุกอย่างเพื่อความรัก ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้จบลงอย่างมีความสุขเหมือนในเทพนิยาย แต่ก็เป็นบทพิสูจน์ว่ารักแท้นั้นมีอยู่จริง
1
โฆษณา