1 ธ.ค. เวลา 07:31 • ข่าวรอบโลก

ไฮโดรเจนเพื่อการขับเคลื่อน (H2 for Mobility) พลังงานแห่งอนาคต

ไฮโดรเจนคืออะไร?
ไฮโดรเจน (H2) เป็นธาตุที่เบาที่สุดในธรรมชาติและพบได้ทั่วไปในจักรวาล สามารถแยกออกจากน้ำและสารประกอบอินทรีย์ต่าง ๆ ผ่านกระบวนการ เช่น การแยกน้ำด้วยไฟฟ้า (Electrolysis) หรือการผลิตจากก๊าซธรรมชาติ
ไฮโดรเจนมีคุณสมบัติเด่นคือ เป็นพลังงานสะอาด เนื่องจากการเผาไหม้ไฮโดรเจนผลิตเพียงน้ำ (H2O) เป็นผลพลอยได้ จึงไม่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก
ไฮโดรเจนในระบบการขับเคลื่อน
H2 for Mobility หมายถึงการนำไฮโดรเจนมาใช้ในภาคการขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรถยนต์ที่ใช้เซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicles: FCEVs)
รถยนต์เหล่านี้ทำงานโดยเปลี่ยนไฮโดรเจนเป็นพลังงานไฟฟ้าในเซลล์เชื้อเพลิง ซึ่งให้พลังงานเพียงพอสำหรับการขับเคลื่อนและปล่อยเพียงน้ำบริสุทธิ์ออกจากท่อไอเสีย
ข้อดีของไฮโดรเจนสำหรับการขับเคลื่อน
1. พลังงานสะอาด
การใช้ไฮโดรเจนช่วยลดการปล่อยมลพิษ โดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และมลพิษทางอากาศ
2. ประสิทธิภาพและการใช้งานที่ยาวนาน
เซลล์เชื้อเพลิงที่ใช้ไฮโดรเจนสามารถให้พลังงานต่อเนื่องได้ไกลถึง 500-700 กิโลเมตรต่อการเติมไฮโดรเจนหนึ่งครั้ง และใช้เวลาเติมเพียง 3-5 นาที
3. ความสามารถในการเก็บพลังงาน
ไฮโดรเจนสามารถผลิตและเก็บสำรองได้ในปริมาณมาก ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในยานพาหนะขนาดใหญ่ เช่น รถบัส รถบรรทุก และรถไฟ
4. ลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิง
การใช้ไฮโดรเจนเป็นพลังงานทางเลือกช่วยเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาว
ความท้าทายของการใช้ไฮโดรเจนในระบบขับเคลื่อน
1. ต้นทุนการผลิต
การผลิตไฮโดรเจนยังมีต้นทุนสูง โดยเฉพาะการผลิตจากแหล่งพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม
2. โครงสร้างพื้นฐาน
การพัฒนาเครือข่ายสถานีเติมไฮโดรเจนยังไม่แพร่หลาย และต้องใช้เงินลงทุนมหาศาล
3. ความปลอดภัย
ไฮโดรเจนเป็นก๊าซไวไฟที่ต้องการมาตรการจัดเก็บและการขนส่งอย่างปลอดภัย
แนวโน้มในอนาคต
ไฮโดรเจนได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนทั่วโลก หลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และเยอรมนี ได้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและนโยบายสนับสนุนการใช้ไฮโดรเจนในภาคขนส่ง
นอกจากนี้ ความก้าวหน้าในเทคโนโลยีการผลิตไฮโดรเจนจากพลังงานหมุนเวียนยังช่วยลดต้นทุนและเพิ่มการใช้งานในวงกว้าง
ไฮโดรเจนเพื่อการขับเคลื่อน (H2 for Mobility) เป็นพลังงานทางเลือกที่มีศักยภาพสูงในการสร้างโลกที่สะอาดและยั่งยืน
แม้ว่าจะมีความท้าทายด้านต้นทุนและโครงสร้างพื้นฐาน แต่ด้วยการสนับสนุนและการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง
ไฮโดรเจนจะเป็นกุญแจสำคัญสู่ระบบการขนส่งแห่งอนาคตที่ปลอดมลพิษและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
โฆษณา