2 ธ.ค. เวลา 15:30

สุดยอด 10 สถานที่ทำงานสำหรับนวัตกร ประจำปี 2024

ในช่วงปลายปีแบบนี้ มักจะมีการจัดลำดับข่าวหรือเรื่องราวที่น่าสนใจประจำปี ในเรื่องนวัตกรรมก็มีการจัดลำดับที่หลากหลาย วันนี้จะขอนำสุดยอดบริษัทและองค์กรระดับโลกที่ได้รับเลือกให้เป็นสุดยอดสถานที่ทำงานสำหรับนวัตกร ซึ่งทำการจัดลำดับโดยนิตรสาร Fast Company จะมีที่ไหนกันบ้าง ตามไปดูกัน
1. Lenovo
ผู้ผลิตคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลรายใหญ่ที่สุดของโลก โดยบริษัทได้วางเป้าหมายในการขยายส่วนงานวิจัยและนวัตกรรมของบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการพyฒนา AI ในช่วงอีก 3 ปีข้างหน้าเป็นเงินถึง 2,200 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราวๆ 70,000 ล้านบาท)
โดย Lenovo วางเป้าหมายที่จะพัฒนาให้ AI ให้มีความสามารถในการทำงานใกล้เคียงกับคนมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในการพัฒนาล่าสุดคือ การที่ AI สามารถจดจำลักษณะของภาษามือ และทำการแปลเป็นข้อความหรือสังเคราะห์เป็นเสียงได้แบบทันที (real time) ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้พิการนับล้านสามารถสื่อสารกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
เทคโนโลยีในการแปลภาษามือของ Lenovo
2. Dentsu Creative Mexico
บริษัทเอเจนซี่โฆษณาระดับโลกที่มีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่น โดยออฟฟิศที่เม็กซิโกได้รับคัดเลือกเข้ามาในครั้งนี้ เป็นการร่วมงานกันระหว่างบริษัทผู้ผลิตผ้าอนามัยรายใหญ่ (Saba) กับ dentsu ดดยมุ่งเป้าไปที่การให้ความรู้เกี่ยวกับการรอบเดือนแก่เด็กผู้หญิงในท้องถิ่น โดย Dentsu ได้พัฒนาการสื่อสารผ่านเกมส์ที่ชื่อว่า V-Land ซึ่งมีผู้เข้าเล่นแล้วกว่า 2,000,000 คนในแพลตฟอร์ม Roblox ซึ่งเกมส์นี้ก็กลายเป็นช่องทางการสื่อสารหลักระหว่าง saba กับกลุ่มลูกค้าของบริษัท
เกมส์ V-land ที่ Dentsu ร่วมพัฒนา
3. Trimble
บริษัทเืคโนโลยีด้านข้อมูลจากดาวเทียม ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1978 แม้บริษัทจะไม่ใช่ startup รุ่นใหม่ แต่ยังคงให้ความสำคัญในการดึงดูดให้พนักงานนำเสนอไอเดียใหม่ๆ หนึ่งในเครื่องมือของ Trimble ก็คือ การมอบรางวัล Technical Innovation ทุกๆไตรมาส โดยผู้ชนะจะได้รับรางวัลเป็นเงินสด 10,000 เหรียญสหรัฐ (ราวสามแสนกว่าบาท ที่เดียว)
โดยการประกวดนี้ทุกคนในบริษัทสามารถมีส่วนร่วมได้ เช่นเมื่อปีที่แล้วนักศึกษาฝึกงานที่นำเสนอเครื่องมือ (generative AI tool) ที่ช่วยในการรวบรวมความต้องการหรือปัญหาของลูกค้าจากหลายๆช่องทางสื่อสารและนำเสนอวิธีวิธีการแก้ไข คว้ารางวัลนี้ไป
สำหรับ Trimble เราเคยเขียนถึงบริษัทนี้มาก่อน ลองแวะไปอ่านโพสต์เก่าเพิ่มได้นะครับ
4. X, The Moonshot Factory
The Moonshot Factory ของ Google เป็นเหมือนโรงงานในการผลิตและพัฒนานวัตกรรมล้ำๆมากมาย โดยในทุกๆ 2 สัปดาห์ พนักงานของที่นี้จะมาแชร์ไอเดียให้คณะผู้บริหารฟัง
ซึ่งแนวความคิดแบบ Moonshot ก็คือสร้างเป้าหมายที่ใหญ่ แก้ปัญหายากๆแบบ 10x (ไม่ใช่เพียงแค่ดีขึ้น 10%)
ซึ่งถ้าไอเดียไหนน่าสนใจก็จะถูกนำไปพัฒนาต่อ โดยการ spin off (จัดตั้งเป็นบริษัทใหม่) ซึ่งจะทำให้ธุรกิจพัฒนาไปได้เร็วมากขึ้น
แนวความคิดแบบ Moonshot ของ The moonshot factory
5. Akbank
หนึ่งในธนาคารขนาดใหญ่ในตุรเคีย โดยกระตุ้นให้พนักงานมีโอกาสนำเสนอไอเดียผ่านทาง Akbank lab โดยโครงการที่ได้รับคัดเลือกเข้าโครงการ พนักงานสามารถมาทำงานในโปรเจ็คนั้นๆได้อย่างเต็มเวลา เรียกว่าให้โอกาสพัฒนาให้สุดๆไปเลย ตลอด 2 ปีที่ผ่านมามีพนักงานมากกว่า 400 คนสมัครเข้าร่วมโครงการ
6. American Red Cross
องค์กรกาชาดที่มีอายุกว่า 143 ปี อีกตัวอย่างขององค์กรที่มีประวัติยาวนานแต่ไม่หยุดการพัฒนาสิ่งใหม่ๆ
โดยตัวอย่างของการพัฒนานวัตกรรมที่โดดเด่นที่เกิดจากการเข้าใจความต้องการของทีมงานในสภาวะฉุกเฉิน ได้พัฒนา Shelter Client Information App (SCIA) แพลตฟอร์มที่ช่วยตามหาญาติผู้ประสบภัยที่อาจจะพลัดหลงในระหว่างการอพยพ โดยตัวแอฟฟลิเคชั่นก็พัฒนาให้สามารถทำงานดดยที่ไม่ต้องเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เนต
7. AtriCure
บริษัทอุปกรณ์ทางการแพทย์ ด้านการรักษาโลกหัวใจ สำหรับที่ AtriCure พนักงานจะมีโอกาสได้รับมอบหมายและเป้าหมายที่น่าท้าทายสม่ำเสมอ หนึ่งในผลลัพธ์ที่ชั้นดีก็คือการพัฒนาอุปกรณ์ที่ใช้ในการผ่าตัดหัวใจเต้นผิดจังหวะด้วยการจี้ โดยพนักงานฝึกหัดที่เพิ่งเริ่มงานกับบริษัท นอกจากเป้าหมายที่ท้าทาย เคล็ดลับความสำเร็จอีกอย่างคือการร่วมมือทำงานข้ามระหว่างหน่วยงาน เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
8. Alnylam Pharmacueticals
บริษัทที่พัฒนาการรักษาโดยใช้ RNA interference (RNAi) ดดยบริษัทให้ความสำคัญในการส่งเสริมและสร้างผู้หญิงให้เป็นผู้บริหารระดับสูง โดยบริษัทจะทำการคัดเลือกพนักงานเขาโปรแกรมอบรมที่ยาวกว่า 10 เดือน โดยเป็นหลักสูตรที่พัฒนาร่วมกับ University of California, Berkeley โดยพนักงานที่ได้โอกาสที่จะเรียนรู้ทั้งเรื่องธุรกิจ การพัฒนาตัวเอง
9. Bukalapak
หนึ่งเดียวจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Buka เป็นบริษัทอี-คอมเมิร์ซโดย Buka มีโปรแกรมสำหรับส่งเสริมไอเดียใหม่ เพื่อพัฒนาเป็นธุรกิจใหม่ๆ
โดยสินค้าหรือบริการที่เริ่มต้นมาจาก Buka Incubator Program คือ “Yes I Do” แพลตฟอร์มสำหรับการจัดงานแต่งงสำหรับคู่รักที่มีรายได้ปานกลางถึงน้อย โดยจุดเริ่มต้นของบริการนี้เกิดจากพนักงานของบริษัท ที่กำลังมองหาบริการจัดงานแต่งงานราคาประหยัดสำหรับตัวเอง เมื่อบริการที่มีในตลาดไม่สามารถตอบสนองความต้องการของเขา เขาจึงพัมนาไอเดียนี้ขึ้นมาเอง ซึ่งปัจจุบันก็เป็นที่นิยม และให้บริการแก่เจ้าบ่าวเจ้าสาวไปแล้วหลายร้อยคู่
10. Nabla Bio
บริษัทไบโอเทคโนโลยีที่มีมุมมองในการรับพนักงานที่ไม่เหมือนใคร ที่ Nabla Bio นักวิจัยที่นี้ไม่จำเป็นต้องจบปริญญาเอก ขอแค่สามารถสร้างสรรไอเดียที่มีคุณภาพ สามารถที่จะโน้มน้าว และสามารถที่จะทำงานร่วมกันเป็นทีมได้ ก็จะมีดอกาสเป็นส่วนหนึ่งของ Nabla Bio แล้ว โดยไอเดียใหม่จะถูกนำเสนอผ่านเอกสารง่ายๆ ที่นำเสนอสมมุติฐานของการทดลอง (โดยที่ไม่ต้องเตรียมเป็นพรีเซนเทชั่น) ซึ่งโครงร่างไอเดียจะได้รับการต่อยอดจากทีมงานภายใน 24 ชม
นอกจากนี้บริษัทยังยังมีโครงสร้างแบบชั้นเดียว การยอมรับกันภายในไม่ได้เกิดจากตำแหน่ง หรือระยะเวลาที่ทำงาน แต่เกิดจากการใช้ฝีมือที่เกิดจากการร่วมงานกันในแต่ละโครงการ
สิ่งที่เราเห็นได้จากบริษัทชั้นนำ ที่มีลักษณะร่วมกันก็คือ เป้าหมายที่ใช้เทคดนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง และการให้โอกาสแก่พนักงานทุกคนในการนำเสนอไอเดียใหม่ๆ สำหรับผู้บริหารที่อยากให้บริษัทของเราขึ้นอันดับแบบนี้บ้าง อย่าลืมลองเอาตัวอย่างเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้กันนะ
ส่วนเพื่อนๆ ที่กำลังมองหาที่ทำงานใหม่ในปีหน้า จะสมัครงานที่บริษัทไหนจาก Top 10 ข้างบนก็มาลองแชร์ไอเดียกันนะครับ
โฆษณา