ก่อนจะเปลี่ยนโทนอัลบั้มไปสู่บรรยากาศที่สงบและเต็มไปด้วยความรู้สึกใน “The Stone Circle” เพลงนี้สร้างความประทับใจด้วยเสียงฮาร์โมนิกที่ลึกซึ้งและท่วงทำนองที่ล่องลอย ราวกับพาผู้ฟังไปสัมผัสกับสถานที่ศักดิ์สิทธิ์และเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์ เป็นอีกเพลงในอัลบั้มที่ถ่ายทอดการสื่อสารอารมณ์ผ่านดนตรี Smooth Jazz ของวงออกมาได้เต็มที่
ต่อมากับ “Girl with a Red Carnation” บทเพลงที่ Acoustic Alchemy ได้เผยให้เห็นถึงอีกมิติของพวกเขาที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยนและความโรแมนติก ท่วงทำนองที่อ่อนหวานของเพลงนี้เปรียบเสมือนการเล่าเรื่องราวผ่านเสียงกีตาร์ที่ผสมผสานกันอย่างสมบูรณ์แบบ ชวนให้นึกถึงภาพของความงดงามและอารมณ์ความรักที่ลึกซึ้งบริสุทธิ์
ก่อนปรับอารมณ์ให้ดำดิ่งสู่ความสงบยิ่งขึ้นใน "The Colonel and the Ashes" บทเพลงที่สะท้อนความลึกซึ้งและความสามารถในการเล่าเรื่องผ่านเสียงดนตรีของวง ด้วยท่วงทำนองนิ่งสงบแต่แฝงด้วยอารมณ์และความลึกลับ เพลงนี้มีจังหวะและไดนามิกที่ค่อย ๆ ปรับเปลี่ยนและพัฒนาขึ้นอย่างนุ่มนวล สร้างความรู้สึกเหมือนการเดินทางผ่านความทรงจำ คล้อยตามด้วยเสียงกีตาร์ที่ประสานกันอย่างลงตัวทำให้เพลงนี้เป็นอีกหนึ่งไฮไลต์ของอัลบั้มที่ถูกซ่อนไว้
“One for the Road” นำพลังงานที่สดใสและมีชีวิตชีวามาสู่อัลบั้มอีกครั้ง ด้วยทำนองที่ชวนเต้นรำตามและจังหวะที่สนุกสนาน เพลงนี้เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเดินทาง เป็นบทเพลงที่แสดงให้เห็นถึงความเรียบง่ายแต่เปี่ยมไปด้วยการสื่อสารอารมณ์และความซับซ้อนทางเทคนิคของเสียงดนตรี
Greg Carmichael กับ Nick Webb สองมือกีต้าร์และสมาชิกผู้ก่อตั้งวง Acoustic Alchemy