‘Golden Goose’ รองเท้าผ้าใบคู่เป็นหมื่น ทำไมขายดี ?
ท่ามกลางยอดขายที่หดตัวลงของสินค้าแบรนด์หรู แต่ #GoldenGooseGroup บริษัทรองเท้าผ้าใบและเครื่องแต่งกายหรูสัญชาติอิตาลีเพิ่งประกาศว่ามีการเติบโตถึง 12% ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2024
บริษัทยังรายงานว่าการเติบโต 18% ของรายได้มาจากการขายตรงถึงผู้บริโภค (DTC) ปัจจุบันคิดเป็น 74% ของรายได้สุทธิทั้งหมด หากเทียบกับในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2023 เคยอยู่ที่ 71% เรียกว่าเพิ่มขึ้นพอสมควร
รองเท้า โกลเดน กูส มีราคาเฉลี่ยประมาณ 895 ดอลลาร์ (ประมาณ 31,069) ถึง 4,621 ดอลลาร์ (ประมาณ 160,496 บาท) ทำให้บางคนสงสัยว่ารองเท้ามีราคาแพง แต่ทำไมบริษัทยังเติบโต ซึ่งทางซีอีโอของบริษัทก็มีคำตอบในเรื่องนี้
“การช้อปปิ้งจะหายไป มันเก่าแล้ว มันจบแล้ว ไม่มีใครอยากช้อปปิ้ง คุณสามารถซื้อของออนไลน์ได้ถ้าคุณต้องการ”
นอกจากการขายสินค้าออนไลน์จะมีส่วนกับผู้บริโภคและแบรนด์มากขึ้นแล้ว ความรู้สึกของผู้บริโภคก็เป็นเรื่องสำคัญและเป็นอีกสาเหตุที่อาจทำให้มีแบรนด์น้องใหม่เกิดขึ้นในอนาคตไม่กี่ปีข้างหน้า
“เพราะแบรนด์แบบดั้งเดิมส่วนใหญ่น่าเบื่อ พวกเขาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า พวกเขาเปลี่ยนดีไซเนอร์ เปลี่ยนซีอีโอ แต่เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวกับสิ่งเหล่านั้น แต่เป็นเรื่องของลูกค้า สิ่งที่พวกเขาต้องทำคือตัดสินใจว่าอยากพูดคุยกับพวกเขาอย่างไร มันง่ายมาก คุณต้องลุกออกจากโต๊ะทำงานแล้วออกไปข้างนอกเพื่อสำรวจตลาด”
“หากคุณสามารถช่วยให้ผู้คนมีความคิดสร้างสรรค์ได้ พวกเขาก็จะภักดีกับคุณตลอดไป ลูกค้าของเรา 70% เป็นลูกค้าประจำ แม้รองเท้าโดยเฉลี่ยจะมีราคา 500 ยูโรก็ตาม (ประมาณ 18,217 บาท) นั่นเป็นเพราะพวกเขาไม่ได้ซื้อรองเท้าผ้าใบ แต่มาทำรองเท้าผ้าใบของตัวเอง” ซิลวิโอ กล่าว
อ้างอิง Vogue Business
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
